"จตุพร"ท้า"บิ๊กตู่"ยุติบทบาทหากพปชร.ได้สส.ไม่ถึง126ที่นั่ง

"จตุพร" ท้า"ประยุทธ์"ถ้า พปชร. ได้สส.ไม่ถึง 126 ที่นั่งต้องยุติบทบาททันที ย้ำเป็นเรื่องธรรมดานายกฯต้องถูกวิจารณ์ จี้กกต.ส่งเรื่องยุบพปชร.เหมือนพรรคอื่น เพื่อสร้างบรรทัดฐานความเสมอภาค

เมื่้อวันที่ 20 กพ. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งระหว่างลงพื้นที่จ.นนทุบรี เพื่อช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรค ว่า วันนี้ (20ก.พ.) อยากเสนอเรื่องราวไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากขบวนการแม่น้ำ 5 สาย ได้ออกแบบรัฐธรรมนูญให้พล.อ.ประยุทธ์สามารถแต่งตั้ง สว. 250 คน เพื่อมาเลือกตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง ขณะที่ได้รับเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งต้องการเสียงจากประชาชนเพียง 126 เสียง หมายความว่า 1 ใน 4 บวก 1

ทั้งนี้ ขอท้าพล.อ.ประยุทธ์ว่า แม้ได้เปรียบทุกทางถ้า พปชร. ได้ไม่ถึง 126 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องประกาศอย่างลูกผู้ชายว่าขอถอนตัวออกจากแคนดิเดตนายกฯ และจบบทบาททุกอย่าง และสื่อสารไปยัง สว. 250 ให้ทำตามเจตนารมณ์ สส. ด้วย ซึ่งเวลานี้พรรคการเมืองในระบบบัตรใบเดียว ไปถึงครึ่งเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป หากพล.อ.ประยุทธ์รับคำท้าประชาชนจะตอบโจทย์ได้ถูก 

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ถามว่าทำไมทุกพรรคต้องวิพากษ์วิจารณ์นั้น ถ้าไม่วิจารณ์นายกฯ จะไปวิจารณ์ใคร ถ้าไม่ชอบก็ลาออกไปอยู่บ้าน การมานั่งนายกฯ ฟรีๆ มา 5 ปีแล้ว ต้องทนวิจารณ์ได้บ้าง อีกทั้ง เมื่อเข้าสู่สภาฯตามความประสงค์จริงๆ จะต้องถูกวิจารณ์หนักกว่าหลายเท่า ที่ผ่านมาเอาเปรียบมาแล้ว ดังนั้น ขอย้ำว่าถ้า พปชร. ไม่ได้คะแนนถึง 126 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องยุติบทบาท

สำหรับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปกป้อง ผบ.ทบ.เรื่องเพลงหนักแผ่นดิน แสดงว่าเป็นคนรู้ประวัติศาสตร์ ว่าเพลงนี้เอาไว้ปลุกปั่นให้คนฆ่ากัน วันนี้การเอาเพลงหนักแผ่นดินมาเปิดนั้น ต้องการให้คนไทยฆ่ากันอีกหรือ ดังนั้น ไม่เชื่อแน่นนอนว่าทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และ ผบ.ทบ.ไม่รู้ประวัติศาสตร์ เพราะฉะนั้น ยังยืนยันว่าเพลงที่เหมาะที่สุดในเวลานี้คือเพลงคืนความสุข ที่พล.อ.ประยุทธ์แต่ง

นายจตุพร กล่าวต่อว่า โฆษกกระทรวงกลาโหมที่ได้ออกมาบอกให้นักการเมืองหาเสียงอย่าสาดคนใส่กัน ซึ่งการวิจารณ์นั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ต้องการเป็นแชมป์ต่อ ดังนั้น พรรคการเมืองก็ต้องเสนอว่า 4 ปีต่อไปนี้ จะทำดีกว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์อย่างไร จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ งบกองทัพ 5 ปี กับงบล้านล้านบาทที่ไม่สอดคล้องกับความยากจนของประชาชน ซึ่งมีความยากลำบาก พรรคก็ต้อเสนอแนวทาง หนึ่งในนั้นก็เสนอลดงบกองทัพ เพราะประเทศไม่มีศึกสงคราม มีแต่ความยากจน เดือดร้อนเหลื่อมล้ำ จึงจำเป็นต้องมีเงินเอาไปแก้ไขสาธารณสุข การศึกษา และความยากจนของประชาชน

ส่วนกรณีหลายฝ่ายยื่นเรื่องขอให้ยุบพรรค พปชร. นั้น ส่วนตัวเคยบอกแล้วว่า รัฐธรรมนูญออกแบบลักลั้น ซึ่งความเป็นจริงแล้ว หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค ในพปชร. ไม่สามารถลง สส ได้แม้แต่คนเดียว จึงสอดคล้องกับพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐและหัวหน้าคสช. ซึ่งให้คุณให้โทษอย่างครบถ้วนและมีสถานะตามกฎหมาย

"วันนี้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสองสถานะเพราะฉะนั้นผิดกฎหมาย แต่ผมจะไม่บอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ผิดกฎหมายชัดเจนแล้ว แต่กกต.มีหน้าที่เป็นไปรษณีย์ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยด้วยความรวดเร็ว ว่าพล.อ.ประยุทธ์ขัดรัฐธรรมนูญที่จะเข้าไปอยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯของ พปชร.หรือไม่ทุกอย่างก็จะจบ"นายจตุพร ระบุ

ทั้งนี้ กรณีไทยรักษาชาติ (ทษช.) กับ พปชร. ที่มีการยื่นเรื่องต่างนั้น แต่หากเปรียบจากข้อกฎหมายที่ปรากฎอยู่ ไม่จำเป็นต้องสืบพยานทั้งสิ้น ข้อเท็จจริงพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ก็วินิจฉัยได้เลยว่าอยู่ พปชร. ได้หรือไม่ ดังนั้น เมื่อความยุติธรรมไม่เท่ากันจึงอยากให้ปฏิบัติต่อ ทษช. อย่างไรก็ปฏิบัติ พปชร. อย่างนั้น ด้วย

นายจตุพร ยังกล่าวถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่มียอดประชาชนลงทะเบียนกว่า 5 แสนคน ถือเป็นสัญญาณว่าประชาชนต้องการการเลือกตั้ง ทั้งที่อนาคตมีความกังวลอยู่ แต่ประชาชนขอแหวกด่านเผด็จการด้วยการเลือกตั้ง และก็ไปตายเอาดาบหน้า