กอบศักดิ์หาเสียงโคราชชักดาบพร้อมรบมั่นใจกวาดเก้าอี้14เขต

"พปชร."บุกโคราชชักดาบพร้อมรบมั่นใจพปชร.กวาด14เขตโคราช ย้ำงบทหารสำคัญที่สุดห้ามตัด ระบุถ้าชาติไม่สงบทุกนโยบายก็สูญเปล่า

เมื่อวันที่ 20ก.พ.62 เวลา 09.45 น. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปที่จ.นครราชสีมา เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัครสส.ของพรรค
โดยมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครสส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา, นายประนอม โพธิ์คำ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายเกษม ศุภรานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1, นายประพิศ นวมโคกสูง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 และนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้สมัคร สส.เขต 4 เป็นต้น ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาชูป้ายให้กำลังใจ

ทั้งนี้นายกอบศักดิ์ฯ ได้นำคณะทั้งหมดทำการสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีก่อนที่จะนำดาบขึ้นมาชักชูขึ้นฟ้าต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (องค์จำลอง) แล้วตะโกนพร้อมกันด้วยคำว่า “ไชยโยๆ ย่าโมออกศึก”เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะสู้ศึกการเลือกตั้งสส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ครอบครัว"ภูตระกูล"เป็นตระกูลเก่าแก่ที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4ตั้งรกรากอาศัยอยู่ในพื้นที่อ.สีคิ้วตอนเด็กก็บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดสะแก และอุปสมบทเป็นพระไปอยู่ที่วัดแดนสงบ ใกล้ตลาดเซฟวัน ดังนั้นจึงถือว่าเป็นคนโคราช 100% และมีความผูกพันกับชาวโคราชวันนี้ได้กลับมาเยี่ยมโคราชอีกครั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ มากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองโคราช เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จได้ชัยชนะในการเลือกตั้งสส.ทุกเขต

พรรคพลังประชาชน เสนอตัวที่จะสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ เช่น สานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้มีสิทธิเพิ่มขึ้น มีคนเพิ่มขึ้น, เปลี่ยนที่ดิน สปก.ให้สามารถโอนสิทธิ์ได้, นโยบายเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร, แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง, ป้องกันและปราบปรามแชร์ลูกโซ่, ปลดหนี้กองทุนหมู่บ้าน และนโยบายมารดาประชารัฐ ซึ่งจะช่วยให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบได้รับการดูแลให้กลายเป็นเยาวชนที่สมบูรณ์ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นอนาคตของชาติ ซึ่งมั่นใจว่านโยบายเหล่านี้โดนใจประชาชนทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนแน่นอน และด้วยคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ รวมกับนโยบายที่โดนใจประชาชน ตนมั่นใจว่าจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ทั้งหมด 14 เขตแน่นอน

ส่วนเรื่องกรณีที่หลายพรรคต้องการให้ตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมออกบ้างยืนยันว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันจะอนุมัติงบประมาณอะไรต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก งบประมาณแต่ละอย่างต้องดูถึงความเหมาะสม ซึ่งทหารถือว่าเป็นรั้วของชาติ แม้ในวันนี้อาจจะไม่เห็นภัยคุกคามที่ชัดเจน แต่ภัยธรรมชาติมีอยู่ให้เห็นทุกปีก็ได้ทหารไปช่วยเหลือ จึงทำให้มีการสูญเสียน้อยมาก เช่นการช่วยเหลือทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ดังนั้นในยามปกติก็ต้องมีงบประมาณเพื่อให้ทหารเหล่านี้มีขวัญกำลังใจ และเป็นรั้วของชาติดูพร้อมแลความปลอดภัยได้ตลอดเวลา ซึ่งขอย้ำว่าถ้าประเทศไทยไม่สงบ ทุกนโยบายของพรรคการเมืองที่เสนอในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีใครทำได้แน่นอน ดังนั้นความมั่นคงของชาติจึงสำคัญที่สุดที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวเดินไปข้างหน้าได้

"ผลการลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทำให้พรรคพลังประชารัฐ ที่เคยได้คะแนนโหวตจากสำนักโพลต่างๆ ต่ำกว่า 10% เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน มาวันนี้จากรังสิตโพลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของประเทศไทยแล้วขณะนี้ ซึ่งเราจะเร่งขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ จนกระทั่งชนะทุกพรรคหลายช่วงตัวก่อนวันเลือกตั้งต่อไป" นายกอบศักดิ์ กล่าว