posttoday

"ตู่"เตือน"บิ๊กตู่"เลือกลงอย่างทรราชย์ จบไม่สวย

19 กุมภาพันธ์ 2562

จตุพร เชื่อพปชร.ไม่ได้เสียงมากเท่าที่หวัง ชี้เพลงหนักแผ่นดินส่อเค้าอาจจะไม่มีเลือกตั้ง สถานการณ์ปัจจุบันยัง 50-50 เตือน"ประยุทธ์" เลือกลงอย่างทรราชย์ จบไม่สวย หนุนลดงบกองทัพ

จตุพร เชื่อพปชร.ไม่ได้เสียงมากเท่าที่หวัง ชี้เพลงหนักแผ่นดินส่อเค้าอาจจะไม่มีเลือกตั้ง สถานการณ์ปัจจุบันยัง 50-50 เตือน"ประยุทธ์" เลือกลงอย่างทรราชย์ จบไม่สวย หนุนลดงบกองทัพ

เมื่อวันที่ 19 กพ. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ นำคณะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงช่วย นายภาคิน นิธิโชติการ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เบอร์ 9 เขตสายไหม และ พ.ต.อ.นพ. ปิยะพงษ์ สาครเย็น ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เบอร์ 3 เขตบางเขน ที่ตลาดเอซี สายไหม และต่อด้วย วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน

กล่าวถึงเพลงหนักแผ่นดิน ว่า เป็นเพลงที่แต่งขึ้น และเผยแพร่ใน พ.ศ. 2518 ด้วยเจตนารมย์สร้างความแตกแยกภายในชาติ ซึ่งแบ่งระหว่างซีกขวาและซ้าย เป็นแนวความคิดขวาพิฆาตซ้าย อันนำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีการจับนักศึกษาแขวนคอ เผาทั้งเป็น ล้อมปราบ ทำให้นักศึกษาจำนวนมากต้องหนีเข้าป่า ไปจับอาวุธ ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะฉะนั้นเพลงนี้นำไปสู่ความแตกแยกภายในชาติ แล้วสรุปท้ายด้วยการยึดอำนาจในช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ในวันนี้แม้ ผบ.ทบ.สั่งยกเลิกไม่ให้เปิดในสถานีวิทยุแล้ว แต่การเปิดเสียงตามสายตามที่ทำการของเหล่าทัพ ก็ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ณ วันนี้เราควรลดเงื่อนไขต่าง ๆ ตนขอเสนอให้ตามหาเพลงคืนความสุขมาเปิดแทน หรือไม่กล้าเปิด เพราะเพลงคืนความสุขฟ้องว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นความจริง ทำให้ตนคิดว่าอาจจะไม่มีเลือกตั้ง เพราะเมื่อได้ยินเพลงนี้ทีไร จะตามมาด้วยการรัฐประหารทุกครั้ง

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ประเทศไทยไม่มีใครสรุปได้ว่าจะไม่มีการรัฐประหารกันอีกแล้ว แม้รัฐธรรมนูญจะมีการเขียนเอื้อเรื่องสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.250 เสียง สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่ตนก็เชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้เสียงมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะฉะนั้นพรรคพลังประชารัฐจะไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ในการเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผิดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่พยายามยุบอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ก็ควรยุบพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งนี้ตนคิดว่าปรากฎการณ์ต่าง ๆ นั้น รวมถึงเรื่องเพลงหนักแผ่นดิน เป็นเพราะกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ตนยังเชื่อว่าสถานการณ์ของประเทศไทย ระหว่างมีหรือไม่มีการเลือกตั้งยัง 50 – 50 กันอยู่

นายจตุพร ยังระบุด้วยว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ เอาเปรียบคู่ต่อสู้ แต่เป็นการเอาเปรียบที่ไม่ชนะ สูญเสียความชอบธรรมที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อไม่ชอบธรรมแล้ว ประวัติศาสตร์ก็บอกว่า ถ้ายังเดินต่อไปก็ต้องจบด้วยคำว่าทรราชย์ ตนอยากขอเตือนว่า วันเวลาของผู้มีอำนาจมีสองเส้นทางเสมอ คือลงอย่างคนปกติ กับลงอย่างทรราชย์ ท้ายที่สุดหลายคนมักจะเลือกเส้นทางทรราชย์เสมอ และจบไม่สวยสักคน

นายจตุพร กล่าวถึง การลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมเพื่อนำไปใช้พัฒนาส่วนอื่นของประเทศ ว่า เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า เมื่อมีการยึดอำนาจทุกครั้ง งบประมาณของกระทรวงกลาโหมก็จะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ถามว่าความอดอยากของประชาชนกับเรือดำน้ำ อันไหนจะมีความสำคัญมากกว่ากัน ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็จะเลือกนำเงินส่วนนี้ไปแก้ไขปัญหาความยากจนก่อน แต่หลักคิดของผู้ยึดอำนาจ ถือว่าเป็นการลงทุน ก็ต้องไปซื้อเรือดำน้ำ ซื้ออาวุธก่อน เพราะฉะนั้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมานั้น งบในส่วนของกองทัพ ได้เติบโตในสัดส่วนที่มากกว่าในยามบ้านเมืองเป็นปกติ เพราะฉะนั้นใน 4 ปีต่อไปก็ควรจะให้ประชาชนมากบ้าง การจะนำงบประมาณไปก็เพียงเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาความยากจน ไม่ใช่เป็นคนหนักแผ่นดิน หลักคิดนี้ไม่ใช่หลักคิดของคนหนักแผ่นดิน แต่มันสอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ตนว่า บรรดาผู้นำเหล่าทัพ ควรจะมองโลกอย่างกว้าง ๆ แล้วก็ควรมองโลกด้วยความเป็นจริงว่า ขณะนี้เราไม่มีศึกสงคราม แต่ประชาชนจนจริง เดือดร้อนจริง