posttoday

เพื่อชาติจวกงบกองทัพ5ปีเกินล้านล้านเอาไปพัฒนาชาติดีกว่า

19 กุมภาพันธ์ 2562

เพื่อชาติจวกงบกองทัพ5ปีเกินล้านล้านบาทเอาไปใช้พัฒนาประเทศเกิดประโยชน์กว่า

เพื่อชาติจวกงบกองทัพ5ปีเกินล้านล้านบาทเอาไปใช้พัฒนาประเทศเกิดประโยชน์กว่า

น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติเผยว่า จากการที่เว็บไซด์ iLaw ได้เผยแพร่ข้อมูลงบประมาณของประเทศซึ่งจัดให้กองทัพนับตั้งแต่ที่มีการ รัฐประหาร 2557 รวมแล้วไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท ดังนี้ ปี 2558 จำนวน 1.92 แสนล้านบาท ปี 2559 จำนวน 2.06 แสนล้านบาท ปี 2560 จำนวน 2.13 แสนล้านบาท ปี 2561 ที่ให้กองทัพ จำนวน 2.18 แสนล้านบาท และปี 2562 ที่ให้กองทัพ จำนวน 2.27 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ งบประมาณกองทัพ 5 ปี เกิน 1 ล้านล้านบาท ในภาวะที่ไม่มีสงครามและมีภัยพิบัติพายุปาบึกเมื่อปีที่ผ่านมาเพียงครั้งเดียว จัดเป็นการใช้งบประมาณภาษีของประเทศในลักษณะไม่คุ้มค่า มีลักษณะที่เห็นแก่พวกพ้อง เพราะในระหว่าง 5 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจฐานรากอยู่ในภาวะย่ำแย่ มีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้น 1 ครั้ง ระหว่างปี 2558 ถึงปี 2559 ที่รายงานโดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)​ ว่า เกิดวิกฤติภาวะคนจนมีรายได้ไม่ถึง 3000 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านคน มากกว่าวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่คนจนเพิ่มขึ้นเพียง 3 แสนกว่าคน

"แทนที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะตัดงบประมาณกองทัพเพื่อนำไปแก้ปัญหาวิกฤติภาวะคนจนเพิ่มขึ้น หรือนำไปสร้างสาธาณูปโภคพื้นฐานโครงการรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่ปี 2558 โดยนำโครงการที่คุณชัชชาติเสนอไว้ในรัฐบาลที่พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจมาที่มีมูลค่าเพียง 2 ล้านล้านบาท เพื่อส่งเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษกิจ แต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ทำ"โฆษกพรรค ระบุ

ทั้งนี้ ทำให้มองได้ว่า คสช. และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤติปริมาณคนจนเพิ่มขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องฝุ่นควันพิษ ปัญหาสังคมด้านความขัดแย้ง ที่หัวใจหลักในการแก้ไขต้องเลือกมองข้อดีของผู้อื่น และมองข้อผิดพลาดของตน ถ้า คสช. มองแบบนี้ตั้งแต่ 5 ปี ที่แล้วคงจะทลายกำแพงใจอีกฝ่ายได้พอสมควร

อย่างไรก็ดี การนำโครงการที่ดีของรัฐบาลเก่าที่พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจมาทำเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาความขัดแย้ง แทนการไปขายข้าวดีให้เป็นเกรดอาหารสัตว์ตามที่มีคลิปเครือข่ายโรงสีเผยแพร่ทั่วโซเซียล เพื่อจะสร้างข่าวให้รัฐบาลที่ถูกยึดอำนาจเป็นคนไม่ดี โดยทำให้คสช. ดูดี แท้จริงคือวิธีการตอกลิ่มความขัดแย้งของสังคมให้มากขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องฝุ่นควันพิษ ปัญหาความขัดแย้งของสังคมไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงใจ

น.ส.เกศปรีชา กล่าวว่า เมื่อมีพรรคการเมืองเสนอนโยบายตัดงบกองทัพ หรือทำกองทัพให้เล็กลงตามแนวโน้มโลกอนาคต ที่จะเป็นโลกไร้พรมแดนให้ประชาชนพิจารณา พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าอย่าพูดเอาสนุกปาก ซึ่งเห็นว่านี่คือลักษณะเผด็จการไม่รับฟังความคิดเห็นและเหตุผลของผู้อื่น ส่วนผู้นำกองทัพตามกฏหมายต้องทำตัวเป็นกลางทางการเมือง กลับออกมาตำหนิผู้เสนอว่าให้ไปฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” กรณีนี้ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่อายุไม่ถึง 30 ปี อยากถามว่าเป็นสิ่งสมควรหรือไม่สำหรับผู้ที่หาเลี้ยงชีพด้วยเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศจะออกมาพูดเช่นนี้