posttoday

นายกฯโชว์4ปีรัฐบาลคสช.แก้ไขทุกปัญหาความเหลื่อมล้ำ

15 กุมภาพันธ์ 2562

นายกฯแจงผลงานรัฐบาลตลอด4 ปีให้ความสำคัญแก้ไขทุกปัญหาเหลื่อมล้ำเร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ

นายกฯแจงผลงานรัฐบาลตลอด4 ปีให้ความสำคัญแก้ไขทุกปัญหาเหลื่อมล้ำเร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า สังคมไทยเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เราอยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินเกิดนี้ มาหลายร้อยปีด้วยความสงบสุข ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ ในความแตกต่างด้วยการยอมรับและเปิดใจเข้าหากัน หากทุกคนคิดและเป็นเหมือนกัน ก็คงเหมือนรุ้งกินน้ำที่มีสีเดียว โทนเดียว คงไม่งดงามเหมือนรุ้ง 7 สี ตามธรรมชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมา ภาครัฐตระหนักถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยให้ความสำคัญและเร่งการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งด้านการคมนาคมขนส่ง ทางบก-ทางราง-ทางทะเล-ทางอากาศ ด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ หลังจากหยุดนิ่งมากว่า 10 ปี เพื่อเพิ่มการเข้าถึงโอกาสและกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ การจัดสรรที่ดินทำกินและส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ ใน 61 จังหวัด กว่า 47,000 รายใช้พื้นที่เกือบ 4 แสนไร่ การช่วยเหลือเกษตรกรที่มีปัญหา เช่น ช่วยเหลือชาวนา 3.6 ล้านครัวเรือน วงเงินราว 4 หมื่นล้านบาท และชาวสวนยาง 2.2 ล้านครัวเรือน วงเงินราว3 หมื่นล้านบาท และการระบายข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว กว่า 17 ล้านตัน ซึ่งมีส่วนในการส่งผลให้ราคาข้าวปรับเพิ่มขึ้น

สำหรับเรื่องความยุติธรรม ได้ขจัดคำกล่าวคุกมีไว้ขังคนจน โดยตั้งกองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ เงินค่าใช้จ่ายในการปล่อยตัวชั่วคราว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ผ่านเครือข่ายยุติธรรมชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์ดำรงธรรม โดย 2 ปีที่ผ่านมา ได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ให้ได้รับความเป็นธรรม ราว 9,000 รายทั่วประเทศ เป็นเงินเกือบ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการต่างๆ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 14 ล้านรายการ เปิดโครงการร้านธงฟ้าที่มีร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมถึง 60,000 ร้าน รวมถึงการใช้แอพพลิเคชั่น ถุงเงินประชารัฐ มากกว่า 40,000 ร้านค้า มาตรการสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้านและซ่อมแซมบ้าน สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงิน 60,000 ล้านบาท การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีการไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้เกือบ 540,000 ราย โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน (หมู่บ้าน/ชุมชนละ 200,000 บาท) ครอบคลุม 8 หมื่นหมู่บ้าน และชุมชน รวม 92,000 กว่าโครงการและการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเกือบ 8 หมื่นกองทุน

ด้านสุขภาพได้ยกระดับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพิ่มอัตราเหมาจ่ายรายหัว เป็น 3,600 บาทต่อคนพัฒนาระบบ UCEP สายด่วน 1669 ตามนโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิรักษาทุกที่ ฟรี 72 ชั่วโมง มีทีมหมอครอบครัว ที่เน้นการป้องกันและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และนักบริบาลชุมชนเพื่อเตรียมรับมือสังคมผู้สูงวัย และผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงการตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สนับสนุนการทำบัญชีครัวเรือน และส่งเสริมให้มีธนาคารชุมชนหรือ สถาบันการเงินประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ตัดวงจรหนี้นอกระบบ ขจัดปัญหาการเข้าไม่ถึงธนาคารพาณิชย์ และผลักดัน พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ ฯ เพื่อคุ้มครองประชาชน ไม่ให้หรือถูกเอาเปรียบจากนายทุนและผู้มีอิทธิพล นอกจากนี้ตนขอฝากให้เร่งรัดการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งการซ่อมบ้าน สร้างบ้านใหม่ รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.สมุทรปราการ สมุทรสงคราม

"ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้แก้ปัญหาที่หมักหมม มานานนับสิบปี พร้อมวางรากฐานการพัฒนา ตนขอเสนอผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทรัพยากรของชาติ 1.กองทุนส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นการขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 2.โครงการปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชา เพื่อแก้ปัญหาทรัพยากรป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม ป้องกันการกัดเซาะแนวชายฝั่งทะเล คืนระบบนิเวศน์ให้กับชุมชน ช่วยลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้ชาวเมือง และ ต่อยอดด้วยการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้กับคนไทยทั้งประเทศในอนาคต ส่วนการสร้างสวนสาธารณะจะเร่งรัดให้มากยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัด" นายกรัฐมนตรีกล่าว