posttoday

เพี้ยน! "โสภณ" สับแนวคิดผู้สมัครเปลี่ยนชื่อเป็น"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์"

06 กุมภาพันธ์ 2562

อดีตรองหัวหน้าเพื่อชาติ สับแนวคิด เพี้ยน ผู้สมัครแห่เปลี่ยนชื่อ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชี้ คนเลือกเพราะบุคคล นโยบาย ไม่ใช่ชื่อดัง เผย เบื้องหลังลาออก เหตุ แกนนำพรรคไม่รักษาคำพูด

อดีตรองหัวหน้าเพื่อชาติ สับแนวคิด เพี้ยน ผู้สมัครแห่เปลี่ยนชื่อ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชี้ คนเลือกเพราะบุคคล นโยบาย ไม่ใช่ชื่อดัง  เผย เบื้องหลังลาออก เหตุ แกนนำพรรคไม่รักษาคำพูด

เมื่อวันที่ 6 กพ. นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนและลูกชายได้ลาออกจากพรรคเพื่อชาติมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากแนวทางบริหารงาน แนวทางปราศรัยหาเสียง ประกอบกับการที่บางคนในพรรคไม่รักษาคำพูด เดิมทีจะให้ตนและลูกชายลงสมัครส.ส.เขต แต่ต่อมามีการขยับให้ลูกชายไปลงบัญชีรายชื่อ โดยตนขอเสียสละ เพียงแต่ขอให้ลูกชายได้ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ ต่อมารู้ว่า ไม่ปรากฎชื่อลูกชาย ตนจึงลาออกจากพรรค ในเมื่อเขาไม่รักเรา ไม่รักษาคำพูด จะอยู่ร่วมกันไปทำไม พรรคการเมืองต้องมีสัจจะ ต้องรักษาคำพูด

นายโสภณยังกล่าวถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อชาติ เปลี่ยนชื่อเป็นนายทักษิณ นางยิ่งลักษณ์ มากกว่า 14 เขตเลือกตั้งว่า ผู้สมัครคงคิดว่าชาวบ้านรักทักษิณ ยิ่งลักษณ์ แล้วจะลงคะแนนให้ คงไม่ใช่ การที่ชาวบ้านจะลงคะแนนให้ มาจากนโยบายพรรค ไม่ใช่ชื่อคน ถ้าเกี่ยวกับชื่อคนที่เขารัก คงเปลี่ยนชื่อกันหมด ผู้สมัครคงอยากได้ความฮือฮา คงคิดว่า ถ้าคนรักทักษิณ ยิ่งลักษณ์ จะกาให้ เป็นความคิดที่ เพี้ยน ถ้าอย่างนั้นผู้สมัครภาคใต้ คงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ชวน ภาคกลาง เปลี่ยนเป็นชื่อ บรรหาร แม้เรื่องนี้จะเป็นสิทธิส่วนตัว แต่ก็เป็นเรื่องความคิดแผลงๆ เป็นความคิดของเขา ห้ามไม่ได้


 นายโสภณกล่าวว่า เคยอยู่กับทักษิณ มาก่อน สมัยพรรคไทยรักไทย ตอนนั้นชนะเลือกตั้งด้วยชื่อ โสภณ ต่อมาสมัยหนึ่งบังเอิญสอบตก บางคนทักว่าชื่อ โสภณ นั้นดีอยู่แล้ว แต่คำว่า ภณ ไม่ดี ขอให้เปลี่ยนเป็น พล แบบนี้ หรือแบบอื่น จะดีกว่านี้ ผมก็บอก เตี่ยตั้งชื่อนี้มาให้ ก็เพราะชื่อนี้ ส.ส. ก็เคยเป็นมาแล้ว รองประธานสภาฯ ก็เคยเป็นมาแล้วด้วยชื่อนี้ จะให้ไปเปลี่ยนไปชื่ออื่น คงไม่เกี่ยวหรอก


นายโสภณกล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขึ้นมาให้มีการสืบทอดอำนาจ บัตรเลือกตั้งควรมี2ใบ ให้คนเลือกส.ส.เขตกับบัญชีรายชื่ออย่างละใบ และไม่เห็นด้วยกับระบบนับคะแนนที่พรรคไหนได้ส.ส.เขตมาก จะได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อย มันไม่ถูกต้อง แบบนี้เท่ากับว่าต้องการทำลายพรรคการเมือง ทำลายสถาบันการเมือง ไม่ให้การเมืองมั่นคง จุดนี้ควรแก้รัฐธรรมนูญ ควรให้ใช้บัตรเลือกตั้ง2ใบเหมือนเดิม ส่วนเรื่องไพรมารีโหวตนั้นเห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยให้สมาชิกเสียค่าบำรุง ในระยะเริ่มต้น เพราะชาวบ้านยังไม่รู้เลย บางพรรคจะให้ประโยชน์อะไร ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมก่อน อีกทั้งกกต.ควรให้ความรู้ต่อประชาชน อย่างครบถ้วน รอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องทุนที่พยายามจะมาครอบงำพรรค