posttoday

4 รมต.พลังประชารัฐ ลาออกแล้ว

29 มกราคม 2562

อุตตม นำ 3 รัฐมนตรี พปชร. แถลงลาออก มีผล 30 มค. เพื่อทำงานการเมือง ยังไม่ทาบ"ประยุทธ์" ขึ้นเบอร์ 1

อุตตม นำ 3 รัฐมนตรี พปชร. แถลงลาออก มีผล 30 มค. เพื่อทำงานการเมือง ยังไม่ทาบ"ประยุทธ์" ขึ้นเบอร์ 1

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 29 ม.ค. 2562  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  พร้อมรัฐมนตรีอีก 3 คน ประกอบด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว.พาณิชย์และเลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการยื่นหนังสือลาออกเพื่อเดินภารกิจทางการเมืองเต็มตัว

นายอุตตม กล่าวว่า ขอแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการว่า 4 รัฐมนตรี ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแล้ว โดยให้มีผลในวันที่ 30 ม.ค. เป็นต้นไป โดยในช่วงเช้าทั้ง 4 คน  ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว เพื่อกราบลาในฐานะที่มีโอกาสได้ร่วมทำงานในคณะรัฐมนตรีมา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 29 ก.ย.61 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พปชร. วันนั้นถือเป็นการเริ่มนับหนึ่ง เราทั้ง 4 คน ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก และตนเคยพูดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะออกไปทำงานการเมืองเต็มตัว ในวันนั้นที่พูดไว้เราเป็นรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่ ได้ปฏิบัติตัวตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ และทำตามกฎเกณฑ์กติกาจนมาถึงวันนี้ ซึ่งเราได้คุยกันแล้วว่าน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมจึงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อไปทำงานกับพรรค พปชร.เต็มตัว มุ่งสู่การเลือกตั้ง

นายอุตตม กล่าวว่า การที่เราปฏิบัติตัวตามนี้ อยากจะให้ถือว่าเป็นแนวความคิดของเรา สะท้อนเจตนารมณ์และความเชื่อของเราตั้งแต่ต้นว่าเราทำอย่างโปร่งใส ทำงานการเมืองอย่างมีเป้าหมาย ก้าวสู่การเมืองด้วยความมั่นใจ เป็นไปตามนั้น ไม่ได้เอาการเมืองนำ แต่ทำงานการเมืองโดยเอาประโยชน์ของประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ภารกิจเสร็จสิ้นไปได้พอสมควร เราถึงมาทำงานการเมือง

“นายกฯก็รับทราบมาตั้งแต่ต้นว่าเราจะเดินแนวทางนี้ ในการเข้าพบนายกฯครั้งนี้ ท่านได้อวยพรขอให้สิ่งที่เรามุ่งหวังจะทำงานการเมืองนั้นให้ประสบความสำเร็จและคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ส่วนตำแหน่งที่ว่างลงใครมาแทนแล้วแต่นายกฯจะพิจารณา” นายอุตตม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า งานในตำแหน่งรัฐมนตรี สิ่งที่รับผิดชอบเสร็จหมดแล้วใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ในความเห็นของเราสิ่งที่เราตั้งใจจะทำเสร็จครบถ้วน หลังจากนี้อาจจะมีการชี้แจงต่อไปอีกบ้าง ส่วนภารกิจไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีนั้น พวกเรายกเลิกการเดินทางแล้ว 

เมื่อถามว่า มีการทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ ให้มาอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค พปชร.แล้วหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการทาบทามใครทั้งสิ้น และยังไม่ได้หารือว่าจะเชิญท่านไหนบ้าง ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของพรรคที่ต้องพิจารณาและลงมติกันภายใน ตนเรียนว่าไม่ช้าแล้ว เพราะเห็นแล้วว่า 4-8 ก.พ.ต้องได้ข้อยุติ เพื่อยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งผู้สมัคร ส.ส. และบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค ดังนั้น เร็วๆ นี้ไม่นานเกินรอได้เห็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค พปชร.จะเสนอชื่อนายกฯ เพียงคนเดียวหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ขอให้รอดูเร็วๆ นี้ เพราะเราสามารถเสนอได้ถึง 3 ชื่อ แต่ขอให้ทางสมาชิกของพรรค กรรมการบริหารพรรค และกลไกของพรรคได้มีโอกาสพิจารณา ซึ่งการประชุมกรรมการบริหารพรรคจะมีขึ้นใน 1-2 วันนี้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า โดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีรัฐมนตรีที่ลาออก หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว แรงกดดันที่มีต่อพวกเราตลอด 3 เดือนมานี้ เรารับด้วยความอดทน เพราะเป้าหมายการเข้าสู่การเมืองของเราคือ เพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้เอาการเมืองนำการทำงาน เราน้อมรับคำวิจารณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น โดยไม่ได้อยู่บนบนหลักการหรือเหตุผลที่เคยปฏิบัติมา แต่เมื่อเราอาสามาทำงานทางการเมือง เราก็ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ทางการเมือง ที่ไม่เอาความได้เปรียบทางการเมืองมาใช้ ที่ต้องรอเวลามาถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าภารกิจงานด้านเศรษฐกิจนั้น ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสื่อมวลชนเองก็คงจะได้เห็นผลงานของพวกเรา ที่ทำงานหนักตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา

“มาตรฐานเหล่านี้เราตั้งใจทำให้เห็น เช่น เราจะไม่ทำงานการเมืองหรือไม่ให้สัมภาษณ์ทางการเมืองในช่วงเวลาราชการ นั่นเพราะเราไม่อยากเห็นประเทศไทยใช้วาทกรรมทางการเมือง เราอยากเห็นการเมืองทำเพื่อประโยชน์ประชาชน มีความรับผิดชอบ การลาออกในวันนี้นั้น ไม่เคยมีใครปฏิบัติมาก่อน นักการเมืองที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรา ไม่เคยลาออกหลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง สำหรับพรรค พปชร. เราได้รวบรวมผู้ที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน เพื่อหาทางออกของประเทศ การลาออกครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะการกดดันจากใครทั้งสิ้น แต่เป็นการตัดสินใจของพวกเราเอง ที่ต้องการทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา”นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เมื่อมาทำงานการเมืองเต็มตัวแล้ว พวกเรามีความมั่นใจ แต่ไม่ได้มั่นใจในตัวของพวกเราทั้ง 4 คน เพราะเรามั่นใจว่าประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง ซึ่งด้วยประสบการณ์ของพวกเราและพรรค พปชร.เรามั่นใจ ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว ส่วนจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะเราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนพรรค พปชร.จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ หากได้รับความไว้วางใจก็จะทำหน้าที่นั้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากแถลงข่าวที่ใต้ต้นอโศกน้ำบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 แล้ว รัฐมนตรีทั้ง 4 คน เดินขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นทางออกจากทำเนียบ