"เสรีพิศุทธ์"จองเก้าอี้นายกฯลั่นเตรียมล้างบางปปช.

"เสรีพิศุทธ์"ขอประชาชนเลือกเสรีรวมไทยให้ได้เป็นนายกฯ ย้ำมั่นใจจะสร้างปรากฏการณ์เหมือนยุค"สมัคร-จำลอง" โวย พปชร.เอาเปรียบ ลั่นมีโอกาสเข้าบริหารประเทศเตรียมล้างปปช.ใหม่

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังงานอบรมสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสส. ระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อ  ณ โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพ ว่า พรรคพร้อมลงเลือกตั้งที่จะมาถึง จึงได้จัดอบรมผู้สมัครเพื่อไม่ให้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ดังนั้น ขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทยกันทั่วประเทศ เพราะมั่นใจว่าจะสร้างปรากฏการณ์ในกรุงเทพ เหมือนกับยุคนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ หรือพล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ทำมาแล้ว และส่วนตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปทหาร ขจัดเผด็จการ ดูแลปากท้องประชาชน ให้อยู่ดีกินดีมีความสุข

“สำหรับผมเอง พรรคเสรีรวมไทย ถ้าว่าตามกฏหมาย เราเป็นพรรคเก่า เพราะว่า จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2556 เพียงแต่ว่า ยังไม่เคยส่งผู้สมัคร เพราะมีการยึดอำนาจเสียก่อน เมื่อพูดถึงความได้ซึ่งเสียบเปรียบ ก็อยากจะบอกว่า เราเสียเปรียบ คือ ในฐานะพรรคเก่าก่อน ทุกคนรู้จักพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา ชาติไทยพัฒนา แต่เขายังไม่รู้จักพรรคเสรีรวมไทย เพราะเมื่อยึดอำนาจเขาให้พรรคใหม่ตั้งได้ ให้พรรคใหม่หาเสียงได้ เมื่อพรรคเก่าหาเสียงไม่ได้ พรรคใหม่ที่ไม่เคยเลือกตั้ง ก็หาเสียง เสียเปรียบทุกพรรค"หัวหน้าพรรค ระบุ

อย่างไรก็ดี โดยเฉพาะพรรคที่จะสืบทอดอำนาจ พยายามทุกวิถีทางที่จะสืบทอดอำนาจ แม้กระทั่งคำสั่ง ระเบียบที่ออกมายังโกง ยกตัวอย่าง คนที่ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อย่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาบอกบัตรเลือกตั้ง ไม่ต้องมีโลโก้พรรค ไม่ต้องมีชื่อพรรค ซึ่งคำสั่งนี้ออกมาเพื่อเอื้อให้กับพรรคพลังประชารัฐ ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐ ดูดอดีตสส.จากพรรคเพื่อไทย อดีตพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสส.ทุกพรรค มาอยู่กับพรรคตัวเอง ซึ่งประชาชนรู้จักอดีตสส. เหล่านั้น อยู่แล้ว เวลาเลือกตั้งบัตรเลือกตั้ง ไม่มีโลโก้ ไม่มีชื่อพรรค เจอชื่อผู้สมัครคุ้น ๆ ก็เลือกไป

"พรรคพลังประชารัฐก็กวาดสส.หมด แสดงให้เห็นว่า โกง โกงตลอด เขตเลือกตั้งก็โกง ถึงขนาดเขียนคำสั่งใหม่ ให้จัดใหม่เลย โดยไม่ผิดกฏหมาย เรื่องโต๊ะจีน ล่าสุด กกต. ให้พรรคใช้เงิน 35 ล้าน ให้ผู้สมัคร ใช้คนละ 1.5 ล้าน แล้วมาจัดโต๊ะจีน หาเงินไป 650 ล้านบาท จะเอาไปทำอะไร นอกจากจะเอาไปซื้อเสียงเท่านั้นเอง กกต. ควรจะเข้ามาสืบ ตรวจสอบ อย่ามาอ้างว่าต้องให้คนอื่นร้อง สมัยก่อนการเลือกตั้งอยู่กระทรวงมหาดไทย ก็ส่งผมไปสืบสวน จับกุมผู้กระทำความผิดกฏหมายการเลือกตั้ง ผมยังจับการซื้อเสียงที่บุรีรัมย์ได้เลย แต่นี่กกต. ตั้งมาเกือบ 20 ปีแล้ว กกต. ไม่เคยจับ อย่างที่ผมเคยจับกกต. ทำงานเป็นหรือเปล่า หรือทำตามน้ำ ดังนั้น ขอให้กกต. วางตัวเป็นกลางด้วย”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการตัดสินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ต่อกรณีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรม.กลาโหม โดยไม่มีความผิดนั้น ว่า ส่วนตัวอยากเทียบกรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งมีทรัพย์สินมากมาย ขาดรายงานไป 1.5 แสนบาท ยังถูกตัดสินจำคุก

“แล้วนี่นาฬิกาข้อมือ 20 กว่าเรือน ปปช. เชื่อได้อย่างไร รู้อยู่แล้วว่า ปปช. เป็นใครมาจากไหน ตั้งมาโดยคสช.ทั้งนั้น และมาตัดสินเรื่องนี้ ประธานปปช. ก็คือ เลขาฯพล.อ.ประวิตร เก่า หนีความผิด เอาความผิดให้ลูกน้อง ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าเป็นลูกผู้ชายต้องกล้าตัดสินผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ผลการพิจารณาออกมาเป็น 5 ต่อ 3 ไม่เป็นไร ถ้าผมมีโอกาสเข้าไปบริหาร จะเข้าไปจัดการ ไม่ใช่องค์กรอิสระมาปกป้องคนชั่วแบบนี้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว