พปชร.เปิดรับสมาชิกผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด

"พรรคประชารัฐ" เปิดรับสมัครสมาชิก 13 พ.ย.นี้ผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดนำวางระบบไอทีใช้เป็นสื่อกลางระหว่างสมาชิกกับผู้บริหาร

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรองพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ได้ประชุมหารือและได้ทำหนังสือขออนุญาตทำกิจกรรมทางการเมืองจาก กกต. ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ พรรค พปชร. จะเริ่มดำเนินการเปิดรับสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการ ณ ที่ทำการพรรค พปชร. (อาคารปานศรี) เลขที่ 130/1 ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. นี้เป็นต้นไป

“พรรค พปชร. เน้นนโยบายในเรื่องการนำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกกับประชาชนและสนับสนุนสร้างเสริมการพัฒนาประเทศ ดังนั้นในการรับสมัครสมาชิกของพรรค จึงได้นำเทคโนโลยีเครื่องอ่านบัตรประชาชนมาใช้โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค แค่นำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดเพียงใบเดียวมาเป็นหลักฐานการยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ได้ ซึ่งพรรคได้วางระบบไอทีเชื่อมโยงข้อมูลประวัติในชิพการ์ดมาใส่ในแบบฟอร์มสมาชิกพรรคได้ทันที ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ สามารถพิมพ์ข้อมูลเพิ่มเข้าไปได้โดยเสียเวลากับการกรอกแบบฟอร์มเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น” นายวิเชียรกล่าว

นายวิเชียร กล่าวว่า กระบวนการรับสมัครสมาชิกที่รวดเร็วและข้อมูลได้รับการยืนยันอย่างถูกต้องจากบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดของแต่ละคน เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า พรรค พปชร. ให้ความสำคัญกับการนำระบบไอทีมาใช้ และในอนาคตพรรค พปชร. ได้วางนโยบายให้สร้างระบบรองรับการสมัครเป็นสมาชิกพรรคแบบออนไลน์ได้จากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย นอกจากนี้พรรคจะมีระบบปฏิบัติการ หรือ Application ที่เป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง คือ พรรค พปชร. สามารถส่งข้อมูลข่าวสาร นโยบาย เพื่อสื่อสารกับสมาชิกพรรค ในขณะที่สมาชิกพรรคสามารถส่งข้อมูล ตรวจสอบสถานภาพ สะท้อนปัญหา แสดงความเห็นส่งกลับมาให้พรรคทำการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอต่อผู้บริหารพรรคได้ เพื่อเป็นพรรคของประชาชนคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง