posttoday

สนช.รับหลักการกฎหมายขึ้นเงินเดือนศาล-ตุลาการ-องค์กรอิสระฯ

12 กรกฎาคม 2561

ที่ประชุมสนช.มีมติรับหลักการวาระ1 ร่างพ.ร.บ. 5 ฉบับปรับขึ้นเงินเดือนศาล-ตุลาการ-องค์กรอิสระ

ที่ประชุมสนช.มีมติรับหลักการวาระ1 ร่างพ.ร.บ. 5 ฉบับปรับขึ้นเงินเดือนศาล-ตุลาการ-องค์กรอิสระ

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติ (สนช.) โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการวาระ 1 ร่าง พระราชบัญญัติ 5 ฉบับคือ 1.ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม 2.ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 3. ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการและกรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 4.ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ 5.ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ

ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัตินั้น เป็นการปรับขึ้นเงินเดือนศาล องค์กรอิสระ เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยจะมีผลย้อนหลังไปถึงพ.ศ.2557 เว้นแต่กรณีของกรรมการสิทธิมุนษยชนแห่งชาติ ที่จะมีผลย้อนไปตั้งแต่พ.ศ.2548 โดยรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้ประมาณ 450 ล้านบาท

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ยึดหลักเป็นธรรมให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และยึดโยงกับตำแหน่งข้าราชการอื่นๆ ที่ได้ปรับไปก่อนหน้านี้ สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทำนองว่าทำไมจะต้องมาพิจารณาขึ้นเงินเดือนในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้นั้น ขอชี้แจงว่า ส่วนหนึ่งเป็นการคำนวณโดยการนำเงินเดือนและค่าครองชีพที่เคยได้มารวมกันเป็นฐานเงินเดือนอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม อีกส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มที่ยึดโยงกับตำแหน่งที่เคยขึ้นไปก่อนหน้านี้ โดยการยึดโยงสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2557 ดังนั้น การปรับขึ้นเงินเดือนจึงมีผลย้อนหลังไปถึงวันดังกล่าว ซึ่งต่อให้ไม่ปรับขึ้นตอนนี้ แต่ไปปรับขึ้นในอนาคตก็ยังต้องมีผลย้อนหลังไปถึงวันดังกล่าวอยู่ดี ยกเว้นกลุ่มของกรรมการสิทธิมนุษยชนที่จะมีผลย้อนหลังไปถึง 1 ต.ค.2548 เนื่องจากยังไม่มีการปรับขึ้นนานกว่ากลุ่มอื่น กรรมการสิทธิมนุษยชนตกขบวนการปรับขึ้นเงินเดือนมาตลอดจึงต้องชดเชยไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ประชุมสนช.อภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมจึงลงมติรับหลักการในวาระแรกทั้ง 5 ฉบับ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาในรายละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับบัญชีอัตราเงินเดือนและประจำตำแหน่งมีดังนี้ 1.ข้าราชการตุลาการ ประธานศาลฎีกา เงินเดือน 83,090 บาท และเงินประจำตำแหน่ง 55,000 บาท 2.ตุลาการศาลปกครอง ประธานศาลปกครองสูงสุด เงินเดือน 83,090 บาท และเงินประจำตำแหน่ง 55,000 บาท 3.ศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เงินเดือน 83,090 บาท และเงินประจำตำแหน่ง 55,000 บาท ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เงินเดือน 81,920 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท 4.ข้าราชการอัยการ อัยการสูงสุด เงินเดือน 81,920 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท และ5.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เงินเดือน 81,920 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท และ ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์อิสระ เงินเดือน 80,540 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท