AUT มอบปริญญาดุษฎีแก่นายกไทย
มหาวิทยาลัย AUT แห่งนิวซีแลนด์ มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่นายกรัฐมนตรีไทย สนับสนุนนายกหญิงจากปชต.
มหาวิทยาลัย AUT แห่งนิวซีแลนด์ มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่นายกรัฐมนตรีไทย สนับสนุนนายกหญิงจากปชต.
วันที่ 23 มีนาคม 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมพิธีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (The Honourary Award Ceremony) ณ มหาวิทยาลัย Auckland University of Technology (AUT) ซึ่งมหาวิทยาลัยได้มอบเพื่อเป็นเกียรติแด่นายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะที่มีบทบาทโดดเด่น และเป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัย ระบุว่า ได้มอบปริญญานี้แก่คนไทยทุกคน ที่สนับสนุนให้มีนายกรัฐมนตรีหญิงจากระบอบประชาธิปไตย ถือเป็น 2 ปีที่คนไทยทำงานหนัก เพื่อสนับสนุนให้เกิดประชาธิปไตยในประเทศ
โดยพิธีเริ่มต้นด้วยการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่และนักศึกษาของมหาวิทยาลัย AUT ด้วยการขับร้องเพลงท้องถิ่น และเพลงประจำมหาวิทยาลัย จากนั้น Mr. John Maasland อธิการบดี กล่าวต้อนรับและชื่นชมความสัมพันธ์ไทย และความร่วมมือไทยและนิวซีแลนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านการศึกษาซึ่ง AUT มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในไทยหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และในการมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (The Honourary Award Ceremony) แด่นายกรัฐมนตรีในโอกาสนี้ เพื่อยกย่องบทบาทและผลงานในฐานะผู้นำหญิงคนแรกของไทยที่มาจากการเลือกตั้ง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อผู้บริหารและนักศึกษามหาวิทยาลัย AUT ที่ให้การต้อนรับและร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เจากมหาวิทยาลัย AUT ซึ่งป็นปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แรกที่ได้รับ และมหาวิทยาลัย AUT ทำให้การเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการครั้งนีมีความหมายและพิเศษยิ่งขึ้น และขอให้ครอบครัว เพื่อน รวมถึงคนไทยได้ร่วมภาคภูมิใจกับเกียรติยศนี้ โดย AUT ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิ่งยืนยันว่า คนไทยประสบความสำเร็จในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความพยายามในการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสำคัญของการศึกษาว่า เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะส่งเสริมประชาธิปไตย การเติบโต และการพัฒนาคุณภาพชีวิต รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาของเยาวชน และการเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับความท้าทายต่างๆของโลก รวมทั้ง การจัดกิจกรรมและวิชาการให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพื่อส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้อย่างเต็มที่ โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าเกียรติที่ได้รับนี้ จะช่วยให้ทุกคนได้ทำงานร่วมกันเพื่อโลกดีขึ้น เสริมสร้างความสัมพันธ์ของสองประเทศ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการศึกษา เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนรุ่นต่อไป
ภาพโดย วาสนา นาน่วม
ภาพโดย วาสนา นาน่วม
ภาพจากอินสตาแกรมยิ่งลักษณ์