นปช.ทะลักเทเลือดหน้าปชป.-ทำเนียบพราหมณ์หลวงชี้พิธีแดงไม่มีในสารบบ

นปช.เคลื่อนขบวนเทเลือดหน้าทำเนียบฯ-พรรคปชป.ให้พราหมณ์ทำพิธีอัปมงคลไร้ชื่อ ด้านพระราชครูวามเผยการเทเลือดไม่มีในคำสอนศาสนา

เมื่อเวลา18.45น. กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ฝ่าแนวกั้นที่เจ้าหน้าที่นำมากั้นด้านหน้าประตูทางเข้าพรรคประชาธิปปัตย์(ปชป.) จนสามารถเข้าไปทำพิธีเทเลือดที่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นที่ทำการพรรคปชป.ได้สำเร็จ โดยเสื้อแดงได้เตรียมเลือดที่เหลือจากการทำพิธีบริเวณทำเนียบฯจำนวน 10 แกลลอนมาทยอยเทด้าหน้าที่ปชป.

ทั้งนี้ระหว่างที่มีการทำพิธี ผู้ชุมนุมต่างส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แกนนำนปช.ได้ปราศรัยขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบก่อนที่จะประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนกลับไปเวทีที่สะพานผ่านฟ้า

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ประกาศหลังทำพิธีบริเวณหน้าที่ทำการ ปชป. ว่า ปชป.ทำลายระบอบประชาธิปไตย โดยกลุ่มนปช.เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นอำมาตยาธิปไตย วันนี้คนเสื้อแดงถูกกดขี่ข่มเหง ไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่มีมาตรฐานใดใดมารองรับ ฉะนั้นวันนี้ต้องการมาเพื่อเตือนสติให้ นายกฯยุบสภาโดยเร็ว

ขณะที่การจราจรโดยรอบที่ทำการปชป.ติดขัดอย่างหนักบริเวณถนนพระราม6 ต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากขบวนคนเสื้อแดงมีจำนวนมากและกระจายตัวเต็มพื้นที่ผิวจราจร รวมทั้งปิดกั้นถนนทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้

พระราชครูวามเผยพิธีเทเลือดไม่มีในศาสนาพราหมณ์

พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ สังกัดกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง เปิดเผยว่า ในทางพราหมณ์ไม่มีพิธีสาปแช่งเหมือนที่ตัวแทนพราหมณ์ที่ลงมือทำพิธีเทเลือดหน้าทำเนียบฯ พิธีดังกล่าวเป็นพิธีไสยศาสตร์ของพราหมณ์สายดำ เช่น ทำพิธีปลุกเสก ทำเสน่ห์ยาแฝด เรียกภูตผี เรียกวิญญาณ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ หรือทำเพื่อให้เกิดความหวาดกลัว แต่ในทางพราหมณ์พิธีไม่มีการใช้เลือดเทสาดเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำเนียบฯ

พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวอีกว่า พราหมณ์ผู้ทำพิธีในลักษณะดังกล่าว มักแต่งกายหรือไว้ผมยาวเลียนแบบพราหมณ์ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการทำพิธีให้น่าเชื่อถือ แต่พราหมณ์จริงไม่มีพิธีกรรมเหล่านี้ เพราะการทำพิธีแต่ละครั้งจะต้องมีการบวงสรวงเทพยาดาเพื่อเป็นมงคล โดยเฉพาะในทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประทับพระพรหม ซึ่งเป็นเทพชั้นสูงที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะสูงสุด ยิ่งไม่ควรกระทำ เพราะพระพรหมนั้นมีไว้สำหรับการให้รู้สึกพรหมธรรม เมตตาธรรม อุเบกขา ซึ่งเทพชั้นสูงนั้นทำให้ผู้เคารพสักการะเป็นมงคล ใครไปกระทำอะไรที่ไม่มงคลหรือสาปแช่งสิ่งเหล่านี้อาจจะสะท้อนกลับผู้กระทำ

"การกระทำที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นสิ่งไม่เป็นมงคล เราควรมองว่าเทพ เทวดาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้คนมีจิตใจสูงขึ้น โดยเฉพาะการกระทำในสถานที่ที่มีพระพรหมจะส่งผลถึงคนทำให้เสื่อม เพราะเป็นการกระทำที่เป็นการอาฆาตมาดร้าย เป็นสิ่งไม่เป็นมงคล เป็นการนำสิ่งไม่ดีไปแปดเปื้อน แต่สิ่งที่ดีอยู่แล้ว สิ่งที่สะอาดอยู่แล้ว ย่อมกลับมาสะอาดใหม่ได้ ไม่ต้องเป็นกังวล ใช้น้ำชำระล้างก็กลับมาบริสุทธ์และเป็นมงคล"พระราชครูวามเทพมุนี กล่าว

เมื่อถูกถามว่า ทำไปพราหมณ์ที่ทำพิธีจึงนำพระพุทธรูปไปวางหน้าประตูทำเนียบฯ พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวว่า เพราะผู้ลงมือทำกลัวต่อการกระทำที่อัปมงคล จึงหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย เนื่องจากการกระทำที่เกี่ยวกับภูตผี ปีศาจ อาจย้อนกลับมาทำร้ายได้ แต่หากใครทำดี จิตใจก็ย่อมดีไปด้วย

 

นปช.เทเลือดทำเนียบฯพราหมณ์เขียนอักขระสาบแช่งเผยเป็นพิธีไร้ชื่อ

เมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ทำพิธีเทเลือดที่บริเวณประตูต่างๆของทำเนียบรัฐบาลฯ โดยในบริเวณประตู 2 ได้มีพราหมณ์พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางเข้าประกอบพิธีด้านหน้าบริเวณประตู โดยมีการเทเลือดลงบนพื้นถนนพร้อมทำพิธีสาบแช่งและนำเลือดมาเขียนเป็นอักขระบนเสาด้านข้างประตู2

พราหมณ์ศักระพี พรหมชาติ พราหมณ์กลุ่ม นปช. กล่าวว่า พิธีการเทเลือดบริเวณทำเนียบฯเป็นพิธีอัปมงคล ซึ่งยังไม่มีชื่อ เพราะเป็นการทำครั้งแรก โดยจะนำความหายนะมาสู่ผู้ถูกกระทำรวมถึงผู้กระทำ ก็คือ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ โดยผลที่เกิดขึ้นจะมีแต่ความหายนะต่อประเทศชาติ แต่อย่างไรก็ตามมีวิธีแก้เคล็ดด้วยการนำนางรำและไหว้ท้าวมหาพรหม ซึ่งพิธีอัปมงคลนี้จะมีผลต่อผู้ถูกกระทำให้ไม่เป็นผลดีกับใครเลยโดยเฉพาะครม.ที่จะต้องเดินย่ำเลือดของเสื้อแดง ที่ทำพิธีไว้ที่บริเวณประตูทางเข้าและออก

ทั้งนี้พิธีเทเลือดของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เริ่มตั้งแต่บริเวณประตู 2 เรื่อยไปจนถึงประตู 8 ซึ่งตั้งอยู่ด้านเลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยจุดเทเลือดสุดท้ายคือทางเข้าอาคารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแกนนำได้ขึ้นประจำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงเพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ต่อไป

ขณะที่บรรยากาศบริเวณพรรคปชป. ได้มีกำลังตำรวจเข้ารักษาความปลอดภัยทั้งสิ้น 4 กองร้อยรวม 600 นาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่พรรคได้นำโครงเหล็กและผ้าใบมาปิดกั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผมสัญลักษณของพรรคเอาไว้ และได้มีการปิดการจราจรถนนเศรษฐศิริด้านหน้าพรรคปชป. ตลอดทั้งเส้น

 

 

แดงหิ้วเลือดกว่า20แกลลอนเคลื่อนพลสู่ทำเนียบฯ

เมื่อเวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสะพานผ่านฟ้าแล้วเพื่อมุ่งหน้านำเลือกที่เจาะได้จากกลุ่มผู้ชุมนุมไปเทบริเวณประตูทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำเลือดผสมน้ำเกลือ ใส่ในแกลลอนน้ำขนาด 5 ลิตรจำนวนกว่า 23-24 แกลลอน และทยอยหิ้วเดินทางไปยังทำเนียบฯ

ขณะที่แกนนำกลุ่มนปช.ได้ขึ้นรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงเคลื่อนไปพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจุดที่จะมีการเทเลือดมากที่สุดคือบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนจากสะพานผ่านฟ้าโดยใช้เส้นทางถนนราชดำเนินกลาง และแยกออกเป็น 2 เส้นทางคือ ถนนราชดำเนินนอก และถนนหลานหลวง ก่อนที่จะไปบรรจบที่ถนนพิษณุโลกและมุ่งหน้าเข้าสู่ทำเนียบฯ ซึ่งภายหลังจากที่เสร็จกิจกรรมจากทำเนียบฯแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนไปยังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อนำเลือดไปเทด้านหน้าที่ทำการพรรคต่อไป

ด้านนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มนปช. กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับบริจาคเลือดจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้มากถึง 3 แสนซีซี 

 รัฐเตรียมแก๊สน้ำตา-แอลแรดรับมือ

บรรยากาศรอบทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้เข้าตรึงกำลังบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลโดยเฉพาะบริเวณประตู 1 และ 2 หน้าตึกไทยคู่ฟ้า มีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังมากกว่า 10 แถวๆละ 40 นาย เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บุกเข้ามาประชิดรั้วทำเนียบ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมแก๊สน้ำตาทั้งแบบขว้างและแบบยิง รวมทั้งเครื่องเสียงควบคุมฝูงชน “แอลแรด” เข้ามาเตรียมไว้ด้วยเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมหากมีเหตุการณ์บานปลาย

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะอนุญาติให้ตัวแทนผู้ชุมนุมจำนวน 50 คนเข้ามาประกอบกิจกรรมเทเลือดตามคำขอแกนนำนปช.ที่มีการเจรจาไว้ก่อนหน้านี้ที่บริเวณประตู1 และ 2 หน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เริ่มทยอยเดินทางมายังสะพานชมัยมรุเชฐแล้ว

ภาพ360องศา : บรรยากาศการเตรียมกำลังของเจ้าหน้าที่บริเวณทำเนียบฯ / ภาพ : ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ