posttoday

วราเทพเชื่อหลังเปิดสภา1ส.ค.การเมืองเดือด

27 มิถุนายน 2555

อดีตสมาชิก 111 แนะจับตาการเมืองหลังเปิดสภา 1 ส.ค. เชื่อร้อนแรงกว่าเก่า ยันไม่มีคนกลางร่วมแก้ปัญหาบ้านเมือง

อดีตสมาชิก 111 แนะจับตาการเมืองหลังเปิดสภา 1 ส.ค. เชื่อร้อนแรงกว่าเก่า ยันไม่มีคนกลางร่วมแก้ปัญหาบ้านเมือง

วราเทพเชื่อหลังเปิดสภา1ส.ค.การเมืองเดือด

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ได้จัดงาน “101 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช  และ 62 ปี หนังสือพิมพ์สยามรัฐ” ณ ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน บางกอก คิงพาวเวอร์ ถ.รางนํ้า พร้อมจัดเสวนาพิเศษหัวข้อ “จุดเปลี่ยนการเมือง.....บทวิพาก์จากตัวจริง” โดยเชิญนายวราเทพ รัตนากร อดีตรมช.คลัง และนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังชล เป็นวิทยากรในงาน

นายวราเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการเมืองไทยยังมีจุดเปลี่ยนแปลง และสถานการณ์การเมืองจะยิ่งร้อนแรงกว่าที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม อาทิ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... รวมถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และการยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ 

“การเมืองหลังจากวันที่ 1 ส.ค. ต้องติดตามอย่ากระพริบตา โดยเฉพาะการไปสู่เป้าหมายตามเรื่องที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระการประชุมของสภาฯ ผมห่วงเรื่องของคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตย หากเข้ามาจะทำให้เกิดความยากที่จะฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสังคมโลก” นายวราเทพ กล่าว

ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะยุติได้ด้วยเวทีของรัฐสภา โดยให้พรรคประชาธิปัตย์และเพื่อไทยคุยกันด้วยเหตุผล และระบบการเมืองในวันนี้ (27มิ.ย.) มองว่ามีความพยายามของฝ่ายผู้แพ้ทำลายฝ่ายชนะ เนื่องจากมีความหวังว่าเมื่อทำลายผู้ชนะได้แล้ว ผู้แพ้จะกลับมาชนะอีก ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ยอมรับ และสงสัยว่าทำไมไม่เปลี่ยนวิธีมาเป็นการสร้างผลงาน หรือการยอมรับของประชาชนเพื่อให้ประชาชนยอมรับแทนที่จะมีแต่การทำลายกัน

“ประเด็นที่จะนำคนกลางมาไกล่เกลี่ยเรื่องความขัดแย้งยังมี แต่เชื่อว่าคนกลางไม่อยากลงมา หรือคนกลางเลือกข้างมากกว่า หากปล่อยให้เรื่องในสภาจบทุกอย่างก็จบ วันนี้ต้องให้คนในสภา คือ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยมาคุยกันให้ได้ก่อน แต่มองว่าในสภาทุกวันนี้ไม่มีเสน่ห์เรื่องการปรึกษาหารือกัน พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลชุดนี้ดูเหมือนว่าไม่มีความเห็นตรงกันแม้แต่เรื่องเดียว คนกลางจึงไม่อยากเจ็บตัว ก็ต้องเริ่มที่พรรคการเมืองว่าจะรักษาภาพอาชีพตรงนี้หรือไม่ และต้องไปดูว่าวันนี้เหตุใดจึงมีพรรคการเมืองเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภา ครั้งนี้ เป็นการเผชิญหน้าอย่างรุนแรง ฝ่ายที่แพ้การเลือกตั้งก็ยังไม่ยอมแพ้ ฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งมาทุกครั้งตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา แต่ฝ่ายค้านพยายามทำลายฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้ตัวเองชนะ และหวังว่าการเปิดสภาเดือนส.ค.นี้จะเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี”นายวราเทพ กล่าว

นอกจากนี้ เรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลนั้นขึ้นอยู่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีการตีความล้มล้างการปกครองหรือไม่ และหากไม่มีเรื่องการคอร์รัปชั่น คะแนนนิยมรัฐบาลสามารถดูได้จากผลสำรวจความเห็นประชาชน และหากไม่มีเรื่องเทคนิเคิ้ลน็อคเอาท์ รัฐบาลนี้อยู่ยาวอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่นายสุชาติ ธาดาดำรงค์เวช รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่ารัฐบาลอยู่ไม่เกินสิ้นปีนั้น เห็นว่าคนพูดไม่ติดใจอะไรมาก เป็นเพียงประเด็นเสน่ห์ทางการเมืองเท่านั้น ส่วนกรณีเศรษฐกิจยุโรปเชื่อว่าไม่น่าส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องอยู่ที่การเฝ้าระวังเท่านั้น

ด้านนายสนธยา กล่าวว่า การเมืองในปัจจุบันพบว่ามีการเล่นนอกสภาฯมากขึ้น พื้นที่การเมืองมีอยู่ไม่จำกัด รวมถึงวิธีการ ที่มีการเล่นทุกรูปแบบ เพื่อทำให้บรรลุไปสู่เป้าหมาย และประเด็นนี้มองว่าเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ อย่างไรก็ตาม การเมืองช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะร้อนแรงกว่าที่ผ่านมา หากทุกฝ่ายยังเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และในสภาเป็นการเล่นในระบบ นอกสภาเป็นการสนับสนุนแนวทางการเมืองของแต่ละกลุ่ม แต่ถ้าสามารถทำให้แนวคิดแต่ละกลุ่มเกิดผลลัพธ์ดีที่สุดร่วมกันก็จะเป็นเรื่องดี