posttoday

พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณ

26 กุมภาพันธ์ 2553

ประเด็นร้อน 26 ก.พ. ประเทศไทย วันนี้หากกล่าวในสภาพโลกหยุดหมุน นาฬิกาหยุดเดิน คงไม่เกินเลย เพราะทุกคนแทบจะหยุดนิ่งเพื่อรอฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว

ประเด็นร้อน 26 ก.พ. ประเทศไทย วันนี้หากกล่าวในสภาพโลกหยุดหมุน นาฬิกาหยุดเดิน คงไม่เกินเลย เพราะทุกคนแทบจะหยุดนิ่งเพื่อรอฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว

1.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะพิพากษาคดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว คำถามที่คนไทยสงสัยใคร่รู้มาแสนนาน “ยึดทั้งหมด” “ยึดบางส่วน” หรือ “ยกฟ้องคืนทั้งหมด”จะได้รับคำตอบ และไม่ว่าผลของคดีจะออกมารูปแบบไหน ย่อมส่งผลสะเทือนต่อสังคมไทยในรูปของความขัดแย้งระหว่างคนไทยที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน 

พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณ

2.ต้องติดตามท่าทีของบุคคลต่างๆ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมแถลงสดทางวิดีโอลิงก์ เข้าสู่ยังพรรคเพื่อไทย เพื่อสื่อสารกับเหล่าสมาชิกนัดรวมตัวกันฟังอยู่ที่พรรค และเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม วอยซ์ทีวี สู่มวลชนคนเสื้อแดง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดดังเป็นระยะตั้งแต่ระหว่างการอ่านคำพิพากษา ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าตัวยังจัดรายการในช่วงค่ำ2 ทุ่มครึ่ง ผ่านทีวีพีเพิลชาแนลเพื่อสื่อสารกับคนเสื้อแดง จะมีการสั่งการใดเป็นสิ่งที่ต้องจับตา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าผลการตัดสินออกมาทางใด เพราะไม่ต่างจากต้นร่างของภาพที่เราจะเห็นในอนาคต

3.ขณะที่บริเวณสนามหลวง กลุ่มคนเสื้อแดงในนามแดงสยาม ภายใต้การนำของสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ตั้งเวทีเรียกชุมนุมคนเสื้อแดงร่วมฟังการอ่านคำพิพากษา แม้เชื่อว่ามีมวลชนเข้าร่วมไม่มาก แต่ไม่อาจไว้วางใจว่ากลุ่มมวลชนเหล่านี้จะมีการเคลื่อนไหวนำไปสู่ความวุ่นวายรุนแรงหรือไม่ เพราะมีข่าวออกมาตลอดวานนี้ถึงความพยายามปลุกชนวนการจลาจลในวันพิพากษา

4.ช่วงที่ศาลฎีกาฯ อยู่ในกระบวนการอ่านคำพิพากษา ตรวจสอบว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่มีวาระงานภายนอกโดยปักหลักทำงานอยู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามรายงานการอ่านคำพิพากษาเช่นกัน และด้วยสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ และปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่าหลังการอ่านคำพิพากษา 45 ชั่วโมงให้หลัง ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์เป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน ก็จะปิดลับการพำนักของนายกรัฐมนตรี หากมีเหตุไม่พึงประสงค์

5.ไม่เพียงเท่านั้น ผลคำพิพากษาคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องจับตาตลาดหุ้นตลาดเงินจะปั่นป่วนหรือไม่ อีกประเด็นต้องจับตาการโยกย้ายเงินที่อายัดไว้กับสถาบันการเงินกว่า 16 แห่ง มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท จะสั่นสะเทือนฐานะสถาบันการเงินหรือไม่อย่างไร แม้ว่าธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีเงินฝากครอบครัวชินวัตรถูกอายัดกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ก็ออกมายืนยันว่าไม่กระทบฐานการเงินธนาคาร

6.ปิดท้ายคดียึดทรัพย์ หากไม่ถูกยึดทั้งหมด หรือได้คืนทั้งหมด พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งการมาแล้วว่า ให้คนใกล้ชิดถอนเงินจากบัญชีที่ถูกอายัดไว้ทุกบัญชีทันที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินที่เหลือจะถึงมือแน่นอน ขณะที่กรมสรรพากรรู้ทันได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ที่อายัดเงินไว้ทุกแห่งยังคงอายัดต่อไปจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาและมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไป เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีคดีหนีภาษีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปที่ถือโดยบริษัทแอมเพิลริช ที่ต้องจ่ายอีก 1.2 หมื่นล้านบาท