Climate Action ไม่ทำไม่ได้แล้ว
โดย ธันยพร กริชติทายาวุธ
**********************
ปี 2021 เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะขับเคลื่อนโลกไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่ง ทุกประเทศ ทุกเมือง จะต้องจัดทำแผนและดำเนินงานเพื่อปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เท่ากับศูนย์ภายในปี 2050 โดยหากต้องการให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อจะรักษาโลกไม่ให้อยู่ในจุดที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถฟื้นกลับมาได้แล้วหรือเรียกว่า Point of No Return ใน 10 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 2030 โลกทั้งโลกจะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ลงให้ได้ครึ่งหนึ่ง
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญของเรื่องนี้ ในการประชุมสุดยอดผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศ เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนและผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจจากการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เข้มแข็งขึ้น โดยมีผู้นำจากประเทศยักษ์ใหญ่ร่วมแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลดก๊าซเรือนกระจก อาทิ สหรัฐอเมริกาได้ประกาศเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 50% - 52% จากระดับการปล่อยใน ปี 2005 ภายในปี 2030 ซึ่งคิดเป็นเกือบสองเท่าของเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ในสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า รัสเซียวางแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% จากระดับการปล่อยในปี 1990 ภายในปี 2030 จีน ตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุดภายในหรือก่อนปี 2030 และบรรลุการปล่อยสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ปี 2060 ญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะเพิ่มเป้าหมายการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 46% ภายในปี 2030 จากระดับที่ตั้ง เป้าหมายไว้ที่ 26.4% ในปีงบประมาณ 2013
ภายใต้เทรนด์เรื่อง Climate Action ภาคธุรกิจไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัว เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจเอง โดยถือเป็นสร้างโอกาสทางธุรกิจรูปแบบใหม่ และหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างองค์กรธุรกิจไทยชั้นนำ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ได้แก่ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ได้นำหลักการด้านความยั่งยืนบูรณาการเข้าสู่รูปแบบธุรกิจ (Business Model) โดยเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และ การปศุสัตว์ เป็นหนึ่งในต้นทางของการปล่อยกาซเรือนกระจกถึง 40% และเห็นว่าอาหาร Plant-based food จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก จึงตั้งเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายและวางฐานการผลิตโปรตีนทางเลือก (Plant-based food) ทั่วโลก ควบคู่ไปกับการจัดการความยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่า (Sustainable Supply Chain) เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมลํ้าในสังคม ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน โดยกำหนดให้มีนโยบายที่
ครอบคลุมครบวงจรตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลายน้ำที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงธุรกิจ ด้วยการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ปลูกวัตถุดิบให้ปลูกแบบเกษตรปลอดภัย ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตเพื่อลดคาร์บอนฟุตปริ้น รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภคในเรื่องความยั่งยืน
เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้องค์กรธุรกิจไทยมีบทบาทในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ในฐานะเครือข่ายท้องถิ่นของ UN Global Compact เครือข่าย ความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขอนำเสนอโปรแกรม Climate Ambition Accelerator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งโครงการ Business Ambition 1.5 ° C ที่มีบริษัททั่วโลกกว่า 500 องค์กรเข้าร่วม เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะที่จะช่วยให้การกำหนดยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการ และรายงานผลการดำเนินงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Climate Ambition Accelerator เป็นโปรแกรมการเรียนรู้ 6 เดือน ที่สร้างขึ้นจากงานของ UN Global Compact โดย มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายกับบริษัทและ SMEs ในอุตสาหกรรมต่างๆ กว่า 25 ประเทศทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ การกำหนดเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ที่มีนัยยะสำคัญและวัดผลได้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 50% ภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมาย Net-Zero ภายในปี 2050 ตามข้อตกลงปารีส
บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ จะได้เรียนรู้วิธีตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อให้บรรลุ net-zero ภายในปี 2050 ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายที่อยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets Initiative) และแนวคิด net-zero รวมถึงวิธีการ ข้อกำหนด กระบวนการ ผลประโยชน์และการนำไปใช้ ตลอดจนการกระตุ้นนักลงทุน ผู้นำ พนักงาน และผู้ถือหุ้น ด้วยแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้แตกต่างจากองค์กรอื่นๆ รวมทั้งมีโอกาสเรียนรู้แบบ peer-to-peer และเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมซึ่งนำไปสู่โอกาสในการสร้างเครือข่ายต่อไป
องค์กรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซด์สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย www.globalcompact-th.com