posttoday

จีนทำได้ แล้วไทย?

28 มกราคม 2564

โดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

************************************

ใกล้ตรุษจีน คิดบวกไว้ อะไรต้องดีขึ้นครับ แต่คงรอลมฟ้าคงไม่ได้ การแก้ปัญหาจากต้นตอของปัญหา คือ วิธีที่ดีที่สุด จริงไหมครับ?

จีน เพิ่งประกาศความสำเร็จในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ในกรุงปักกิ่ง ที่ต่ำลงสู่ระดับไม่เกินมาตรฐาน แม้ว่ายังคงเทียบกับกรุงโตเกียวไม่ได้ ที่อากาศบริสุทธิ์กว่าเยอะ แต่ต้องบอกว่า "นายแน่มาก" #จะทำก็ทำได้

อดีต ใครก็รู้ว่าปักกิ่งอากาศแย่แค่ไหน แย่ขนาดที่ชวดจัดโอลิมปิกมาหลายครั้ง และมีพลเมืองเสียชีวิตจากโรคเกี่ยงข้องกับมลพิษทางอากาศ นับล้านคน! จึงเกิดนโยบาย "เอาจริง" จัดการกับต้นตอ ปล่อยฝุ่นพิษ ทำร้ายประเทศ ทำร้ายลูกหลาน

...จีนทำอย่างไร? 1. ประกาศเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น และมลพิษทางอากาศ เป็นวาระแห่งชาติ (จริงๆ) เกิดคณะกรรมการเร่งรัด ติดตาม และออกนโยบายเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน

2. ออกกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายอย่างเข้มข้น ตรงไปตรงมา

3. ปิดโรงงานที่ปล่อยฝุ่นพิษ ต่อเนื่อง เกินค่ามาตรฐาน เกินเยียวยาแก้ไข

4. ให้งบประมาณ หรือปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้เอกชนนำไปใช้ ปรับปรุง แก้ไข หรือจัดหาเครื่องจักรอุตสาหกรรมใหม่ ให้มีคุณภาพ ไม่ปล่อยมลพิษ ยังช่วยทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ เพราะมีการซื้อขายเครื่องจักรใหม่อยู่ตลอด เครื่องจักรเก่าก็ส่งออกไปยัง....

5. จัดการกับรถบรรทุกดีเซล ปล่อยควันดำ อย่างเด็ดขาด! ไม่ให้เข้าเมือง หากพบ จะมีโทษปรับหนัก ถึงขนาดบริษัทเจ้าของรถติดแบล็คลิสต์ ไม่ได้งาน แบบนี้เข็ดขยาด ไม่มีใครกล้าปล่อยฝุ่น ฆ่าลูกหลาน

6. ผลักดันการใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เพราะจีนผลิตแผงโซลาเซลล์เอง ยิ่งใช้เยอะ ยิ่งดีต่ออุตสาหกรรม

7. สร้างนวัตกรรมดักจับฝุ่นพิษ เช่น หอกรองอากาศขนาดยักษ์ กลางเมือง ที่สามารถกรองอากาศได้ปริมาณมาก ในช่วงเวลาที่รถติดมากๆ (กทม. น่าลองศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง)

8. การสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้า โดยเริ่มจากรถยนต์ราชการ จนถึงรถเมล์ รถบรรทุก รถส่วนบุคคล จนเป็นประเทศที่ใช้รถไฟฟ้ามากที่สุด

พิสูจน์ให้เห็นชัดว่า ประเทศจีนที่เคยเผชิญวิกฤตฝุ่นพิษ หนักหนากว่าไทยมาก่อน วันนี้แก้ปัญหาได้ หากมุ่งมั่น ทำจริง    แล้วทำไม ไทยเราจะทำไม่ได้? พี่เอ้ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

#ฝุ่นพิษวิกฤตชาติ