posttoday

หยุดการยึดอำนาจ

09 กันยายน 2563

บทความจาก "กฤตัชญ์ กรรณิกา" นักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่เกรด 11 ในโรงเรียนรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ที่นำเสนอข้อคิดในการหยุดการยึดอำนาจจากการทำรัฐประหาร

โดย...กฤตัชญ์ กรรณิกา นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา / [email protected]

บทความนี้เป็นความคิดเห็นและข้อเสนอแนะส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับโรงเรียนที่กำลังศึกษาอยู่

เรียน ผู้ใหญ่ที่ดีในบ้านเมือง

ตอนนี้ผมกำลังเรียนอยู่เกรด ๑๑ ณ โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ผมมีโอกาสได้เรียนวิชารัฐศาสตร์ที่สอนกันในระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาแต่ผมได้เรียนวิชานั้นตอนอยู่เกรด ๑๐ หรือเทียบเท่า ม. ๔ โดยตำราวิชาดังกล่าวสอนให้รู้ว่าจะหยุดม็อบได้อย่างไรและผมมีข้อคิดหยุดการยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารได้อย่างไร

ประเทศไทยมีการยึดอำนาจกันมากกว่า ๒๐ ครั้ง สำเร็จกว่า ๑๐ ครั้ง และอาจจะเกิดการยึดอำนาจขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะ “หยุดการยึดอำนาจ” ซ้ำซากได้สำเร็จ ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญบางโดยเฉพาะมาตราที่ ๙๙ และ “หยุดม็อบ” ได้ ถ้ารัฐบาลและผู้มีอำนาจในประเทศเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างของการตัดสินใจ คือ ๑) ทำตามความต้องการของม็อบ (Mob Appeal) ๒) อยู่เงียบ ๆ เป็น เตมีย์ใบ้ (Silence) และ ๓) ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศอีกครั้ง

ในปี ๒๕๕๗ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำการยึดอำนาจจากรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ การยึดอำนาจยังคงเป็นการลดทอนความเจริญเติบโตของการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นการดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มายุ่งเกี่ยวกับปัญหาการเมืองไม่ว่าจะด้วยเจตนาใด ๆ และการเคลื่อนไหวเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ก็หนีไม่พ้นการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเช่นกัน ส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่ดีที่สถาบันหลักของชาติถูกดึงให้ต่ำลงมาเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์และอำนาจของบางกลุ่มบางคน

การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๙๙ เป็นทางออกที่น่าคิดทางเลือกหนึ่ง นั้นก็คือการแก้ไขให้เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยทุก ๒ ปีแทน ๔ ปีในช่วงที่ประชาธิปไตยไทยกำลังเปราะบาง เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม บริหารอารมณ์ของประชาชนได้ดีเพราะไม่ต้องทนนานถึง ๔ ปี จนทนไม่ได้จึงก่อการความรุนแรงขับไล่รัฐบาล แต่ถ้าลดระยะเวลาเหลือ ๒ ปีหมดวาระของรัฐบาล อารมณ์ของประชาชนที่กำลังถูกปั่นกระแสให้พุ่งก็จะฝ่อได้จนสามารถปิดประตูความรุนแรงบานปลาย หยุดโอกาสของการยึดอำนาจเพราะอารมณ์ของประชาชนจะอยู่ในการควบคุม ถ้าใครสกัดกั้นหรือล้มการเลือกตั้งก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนแทนการแต่งตั้ง ซึ่งจะกระชับความสัมพันธ์ลดช่องว่างระหว่างประชาชนคนไทยกับ ส.ว.ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ถ้าจะคงการมี ส.ว. ไว้ต้องทำให้ประชาชนเห็นประโยชน์ของ ส.ว. จากการเลือกตั้งของประชาชนมากกว่าเห็นว่า ส.ว. จากการแต่งตั้งที่มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการซึ่งไม่เป็นผลดีต่อส่วนรวม

นอกจากนี้ ยังมีอีกความท้าทายหนึ่งของทุกคนในชาติคือ “หยุดม็อบ” ที่มีการสอนกันในช่วงการเรียนรัฐศาสตร์ระดับมหาวิทยาลัยแม้จะเป็นนักเรียนระดับไฮสกูลเทียบเท่า ม.๔ โดยเขาสอนนักเรียนให้รู้ว่า การหยุดม็อบ ทำได้โดยรัฐบาลและผู้มีอำนาจในประเทศต้องเลือกตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งคือ

๑) ทำตามม็อบ (Mob Appeal) ยกตัวอย่าง กรณี ม็อบนักเรียนต้องการอะไรเกี่ยวกับปฏิรูปการศึกษา เช่น เรื่องความเสมอภาค ความเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติในโรงเรียน ทั้งเรื่องเพศ ฐานะเศรษฐกิจ รสนิยมส่วนตัว การบ้าน การแต่งกาย ทรงผม และอื่นๆ คือยอมให้ตามต้องการได้ก็ยอมไป หรือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เอาแต่ละมาตรา มาจัดเวทีถกกันทีละมาตราไป ให้ใช้วิกฤตเป็นโอกาสแบ่งปันเรียนรู้รัฐศาสตร์ในโรงเรียน เหมือนที่นักเรียนไฮสกูลของสหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เลือกเรียนวิชารัฐศาสตร์ที่สอนกันในมหาวิทยาลัยแต่นำมาให้เรียนตัดเกรดกันในระดับไฮสกูล เป็นต้น

ที่น่าพิจารณาคือ ๒) รัฐบาลหรือผู้นำประเทศ อาจจะเลือกเป็น เตมีย์ใบ้ (Silence) คือ เงียบเหมือนคนเป็นใบ้ แต่ไม่ใช่บอกว่า ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ เพราะนั่นไม่ใช่คนเป็นใบ้ บางครั้งในสถานการณ์ม็อบ ผู้นำประเทศอาจจะเลือกเป็นพระเตมีย์ใบ้ แต่มุ่งก้มหน้าก้มตาทำงานแก้ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชน ให้ผลงานพูดแทน โชว์ผลงานให้เห็นก็จะได้ใจเด็ก ๆ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปผู้มีจิตใจบริสุทธ์ไม่เลือกข้าง หยุดยั้งม็อบได้สำเร็จ ถอยร่นไปเอง

อย่างไรก็ตาม ๓) ถ้าผู้นำประเทศเล็งเห็นว่า รับมือม็อบต่าง ๆ เอาไว้ไม่ได้แล้วก็ควรตัดสินใจยุบสภา ตัดไฟแต่ต้นลม คืนอำนาจให้ประชาชนตามวิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปล่อยให้ประเทศชาติเป็นของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของผู้นำประเทศคนใดคนหนึ่ง

กล่าวโดยสรุป หยุดการยึดอำนาจ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๙๙ ให้อายุรัฐบาลสั้นลง และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนแทนการแต่งตั้ง นอกจากนี้ ยังจะหยุดม็อบได้อีกด้วย ถ้ารัฐบาลเลือกที่จะทำตามต้องการของกลุ่มม็อบ หรือผู้นำประเทศเลือกที่จะเป็นเตมีย์ใบ้ หรือ เลือกที่จะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน