posttoday

จีนให้ความสําคัญกับปัญหาการว่างงาน มากกว่าตัวเลขจีดีพี

01 มิถุนายน 2563

โดย ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร

********************

ผลจากการประชุมร่วม 2 สภาของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่สภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) และสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) เมื่อวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า จีนให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา "การว่างงาน" เป็นอันดับหนึ่ง สิ่งสะท้อนเรื่องนี้คือการไม่ตั้งเป้าหมาย GDP ในปีนี้ เพราะนอกจากเหตุผลของความไม่แน่นอนในสภาวะเศรษฐกิจหลัง COVID-19 และการติดลบของตัวเลข GDP ในรอบที่ผ่านมาถึง 6.8 แล้วปากท้องของประชาชนชาวจีนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในปัจจุบัน

นอกจากนี้ การเดินหน้าผลักดันสร้างเศรษฐกิจด้านการค้าระหว่างประเทศและการใช้ "#เงินหยวนดิจิทัล" ซึ่งเป็นความร่วมมือกับเงินเยนญี่ปุ่น เงินวอนเกาหลี และเงินดอลล่าร์ฮ่องกง ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการค้าขายระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเซีย และจะถูกผลักดันให้เป็น “#สกุลเงินดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน” อีกด้วย (เรื่องนี้เป็นความต้องการของท่านนายกฯ หลี่ เค่อเฉียง มานานแล้ว) เนื่องจากสังคมจีนเป็นสังคมไร้เงินสดมานานพอสมควร และเป็นประเทศที่สังคมเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วย Big data

จีนให้ความสําคัญกับปัญหาการว่างงาน มากกว่าตัวเลขจีดีพี

แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามท่าทีของเยนญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นสนับสนุนการกลับเข้าประเทศของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในประเทศจีน และการที่มีสมาชิกสภาผู้แทนฯ ของญี่ปุ่นบางส่วนเสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกเงินสกุลดิจิทัลเป็นของตนเอง เพราะเกรงว่าหยวนดิจิทัลจะคุกคามประเทศของตน

นอกจากนั้น ในการประชุมครั้งนี้ นโยบาย “#BRI หรือ #ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งปัจจุบัน BRI เป็นเหมือนกับ "#เส้นทางสายไหมดิจิทัล" ที่ทำให้เกิดการขยายความร่วมมือทั้งเอเชีย แอฟริกาและยุโรป เกิดการเข้าถึงทรัพยากรและตลาดแรงงาน

หลายคนพูดกันอย่างแพร่หลายว่า โลกาภิวัฒน์ต่อจากนี้จะเป็น #โลกาภิวัฒน์ลายมังกร ในยุคเส้นทางสายไหมดิจิทัล จีนไม่ได้แค่ส่งออกสินค้า นักลงทุน นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการเปิดกว้างให้คนต่างชาติมาลงทุนมากยิ่งขึ้น แต่จีนส่งออกทั้งแพลตฟอร์มการค้า

....นาทีนี้ ไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรกับประเทศจีน แต่เราต้องทราบว่า จีนเดินหน้าเศรษฐกิจด้วยวิธีการและทิศทางใด เพื่อเราจะได้รับมือและคงสมดุลของความสัมพันธ์ให้ดี.....

จีนให้ความสําคัญกับปัญหาการว่างงาน มากกว่าตัวเลขจีดีพี