posttoday

การเมืองปีเสือดุ53โศกนาฎกรรมประเทศไทย

26 ธันวาคม 2553

ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์ได้คัดเลือก 10 สถานการณ์เด่นทางการเมืองในห้วงปี2553 ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุณหภูมิอันร้อนแรงของการเมืองไทยในปีเสือดุ

ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์ได้คัดเลือก 10 สถานการณ์เด่นทางการเมืองในห้วงปี2553 ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุณหภูมิอันร้อนแรงของการเมืองไทยในปีเสือดุ

โดย....ทีมข่าวการเมือง

ในรอบปี 2553 นับได้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองของไทยเต็มไปด้วยความวุ่นวายเป็นอย่างมากนับตั้งแต่การชุมนุมทางการเมือง การระเบิดป่วนเมืองแบบรายวันที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก นอกเหนือไปจากการเมืองนอกสภาแล้วการเมืองในสภาก็วุ่นวายไม่แพ้กันถึงขั้นที่รัฐบาลต้องเกือบล่มกลางคันเพราะเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ซึ่งทั้งหมดนี้ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์ได้คัดเลือก 10 สถานการณ์เด่นทางการเมืองดังนี้

91 ศพสังเวยอุดมการณ์ประชาธิปไตย

ประเทศไทยเปิดศักราชปี 2553 ด้วยความเข้มข้นเมื่อกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ได้ชุมนุมตั้งแต่เดือนมี.ค.ยุทธศาสตร์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำมาใช้ในครั้งนี้ถือว่าเข้มข้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่การเดินขบวนแสดงพลังไปตามสถานที่ต่างๆ เจาะเลือดและนำเลือดไปเทที่หน้าทำเนียบรัฐบาล บ้านพักนายกรัฐมนตรี และ พรรคประชาธิปัตย์

ทั้งหมดสามารถกดดันให้รัฐบาลเปิดโต๊ะเจรจาด้วยตัวเองถึงสองครั้งและเสนอเงื่อนไขยุบสภาภายในเวลา 9 เดือน แต่ไม่เป็นผล จนมาเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ระหว่างการขอพื้นที่คืนบริเวณสี่แยกคอกวัว ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14 –19 พ.ค.ซึ่งพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ได้ถูกยิงเสียชีวิต แม้ว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมได้แต่ก็ได้นำมาสู่การวางเพลิงเผาสถานที่สำคัญทั้งในกทม.และต่างจังหวัดไปเป็นจำนวนมากและมีผู้เสียถึง 91 ราย

แกนนำนปช.นอนคุกข้อหาก่อการร้าย

หลังจากที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงได้ยุติแล้วบรรดาแกนนำนปช.จำนวนหนึ่งได้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาก่อการร้ายนำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายขวัญชัย ไพรพนา, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายนิสิต สินธุไพร, นายยศวริศ ชูกล่อม นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายวีระ มุสิกพงศ์ ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ต้องให้อยู่เรือนจำเพราะมีเอกสิทธิ์ส.ส.

ขณะที่มีแกนนำนปช.อีกส่วนหนึ่งได้หลบหนีออกนอกประเทศ อาทิ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ เป็นต้น ซึ่งจนถึงทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีตามหมายจับได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาได้เกิดกระแสเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำจนกระทั่งนายวีระเป็นคนแรกที่ได้รับการปล่อยตัว นอกจากนี้รัฐบาลยังได้เร่งเดินหน้าประกันตัวแนวร่วมเสื้อแดง 104 คน เพื่อเป็นแนวไปสู่การปรองดองโดยมีความเป็นไปได้ว่าต่อไปจะมีการประกันตัวนพ.เหวง และ นายก่อแก้ว

วางบึ้ม!ป่วนเมืองรายวัน

ในรอบปี2553ประเทศไทยต้องถูกปกคลุมด้วยเสียงระเบิดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ได้รวบรวมสถิติเอาไว้ว่านับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. จนถึงเดือนก.ย. ซึ่งคาบเกี่ยวช่วงชุมนุมทางการเมืองมียอดรวม125 เหตุการณ์ แบ่งเป็นในกทม.และปริมณฑล 108 เหตุการณ์  โดยเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดคงหนีไม่พ้นเหตุระเบิดอาคารสมานเมตตาแมนชั่น อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีผู้เสียชีวิต  4 ศพ บาดเจ็บอีก 9 ราย ซึ่งผลการสอบสวนพบว่านายสมัย วงษ์สุวรรณ เจ้าของห้องพักที่เกิดเหตุและเสียชีวิตเป็นประกอบระเบิดนี้ขึ้นมาเป็นผู้ส่วนเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง

ทักษิณ ยังไม่หมดฤทธิ์ป่วนรัฐบาล

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงเป็นตัวละครทางการเมืองที่สำคัญตลอดปี2553 เพราะเป็นหัวใจและผู้สนับสนุนรายใหญ่ของคนเสื้อแดง และเป็นคีย์แมนสำคัญในการสร้างความชอบธรรมให้กับคนเสื้อแดงในสายตานานาชาติผ่านการจ้างทนายความชื่อดังนามว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ให้ทำหน้าที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ นอกจากนี้ได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาอยู่ในความตึงเครียด ขณะที่บทบาทภายในพรรคเพื่อไทยพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังคงความทรงอิทธิพลเอาไว้ทั้งหมดแบบที่เรียกว่าสั่งซ้ายหันขวาหันได้ตลอดเวลา

การเมืองปีเสือดุ53โศกนาฎกรรมประเทศไทย

มาร์ค ปะทะ ภูมิใจไทย รัฐบาลหวิดล่ม

“ศึกนอกว่าหนักแล้วศึกในหนักยิ่งกว่า” เป็นคำพูดที่เหมาะสมที่สุดกับรัฐบาลชุดนี้เพราะแม้ว่าจะผ่านเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองและสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้ แต่ก็เกือบไปไม่รอดเพราะการขัดแข้งขัดขากันเอง โดยเฉพาะระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี ชะลอการระบายสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.49 แสนตัน ของกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงการโยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงมหาดไทย แต่จนแล้วจนรอดรัฐบาลชุดนี้ก็ยังไปกันต่อได้เพียงเพราะเหตุผลที่ว่ายังไม่มีใครสำหรับการเลือกตั้งนั่นเอง

ตั้ง ผบ.ทบ.-ผบ.ตร. เสริมแกร่งนายกฯ

น่าสนใจไม่น้อยกับการแต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา เป็นผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นผบ.ตร.เพราะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงของรัฐบาล โดยในรายพล.อ.ประยุทธ์ ทหารเสือราชินีถือว่าเป็นการสานต่อทางอำนาจของกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ให้กองทัพบก ส่วนการเข้าสู่ตำแหน่งของพล.ต.อ.วิเชียร อดีตตำรวจพระราชสำนัก ก็ได้รับแรงผลักดันอย่างสูงจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีผู้บัญชาการตัวจริงหลังมีแต่รักษาการกินเวลาเป็นปี โดยทั้งสองคนจะเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการเสถียรภาพทางการเมืองโดยเฉพาะการจับตากลุ่มคนละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์

แก้รัฐธรรมนูญ2550เตรียมยุบสภา?

ในที่สุดก็เริ่มนับหนึ่งเสียทีกับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังพรรคร่วมรัฐบาลได้แสดงความพยายามมาหลายครั้งแต่ก็ต้องล้มเหลวทุกครั้งเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย แต่เมื่อความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มปะทุแรงขึ้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ประชาธิปัตย์ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยคณะรัฐมนตรีได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาสองฉบับเพื่อแก้ไขในประเด็น คือ มาตรา 190 แก้ไขเพื่อกำหนดประเภทหนังสือสัญญาที่ต้องผ่านรัฐสภา และมาตรา 93-98 แก้ไขระบบเลือกตั้ง เป็นส.ส.ระบบเขตเดียวเบอร์เดียว 375 และส.ส.บัญชีรายชื่อ 125 คน ซึ่งผ่านที่ประชุมรัฐสภาในวาระที่1แบบทุลักทุเลเพื่อนำไปสู่การยุบสภาในอนาคต

สภาล่มซ้ำซากสะท้อนจริยธรรมนักการเมือง

การเมืองนอกสภาว่าวุ่นแล้วการเมืองในสภากลับวุ่นยิ่งเมื่อเกิดเหตุการประชุมรัฐสภาและการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มหลายครั้งแบบติดต่อกันด้วยกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยสามัญนิติบัญญัติ  ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ระหว่างการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเข้าร่วมกับคู่เจรจาด้านบริการด้านบริการเดินอากาศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นวันที่ 11พ.ย. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ร่างพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาฯและวุฒิสภา วันที่ 16 พ.ย.การประชุมรัฐสภาที่ขอหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฎว่าในเวลาต่อมารัฐบาลได้เพิ่มเงินเดือนให้กับส.ส.และส.ว.แบบที่เรียกว่าขัดใจสังคมแม้ว่าจะมีผลบังคับใช้หลังการเลือกตั้งก็ตาม

คลิปวีดีโอถล่มตาชั่งศาลรัฐธรรมนูญ

ปี 2553 ถือ ว่าเป็นอีกครั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญถูกนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ความ ขัดแย้งทางการเมืองเนื่องจากมีคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่ในการพิจารณา ของศาล แม้ว่าทั้งคดีเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท และ คดีการอำพรางเงิน 258 ล้าน บาท จะยุติลงด้วยการชนะฟาว์ลของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สำหรับศาลรัฐธรรมนูญแล้วถือว่าบอบช้ำอย่างหนักเพราะเจอกับคลิบวีดีโอหลายชุดเล่นงานอย่างหนักโดยเฉพาะกรณืที่อ้างว่าเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปคุยกับนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือคดียุบพรรคจนนำไปสู่การปลดนายพสิษฐ์ออกจากตำแหน่งและมีการฟ้องร้องคดีตามมาอีกมาก

วิคเตอร์บูท สั่นคลอนสัมพันธ์ ไทย-รัสเซีย

ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศอื่นๆในรอบปีที่ผ่านมานอกเหนือไปกัมพูชาที่เป็นขาประจำแล้วก็ปรากฎรัสเซียเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งด้วย จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ของไทยมีคำสั่งให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาภายในเวลา 90 วันเมื่อเดือนส.ค. ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแสดงท่าทีไม่พอใจการกระทำดังกล่าวของไทยเนื่องจากถูกแรงกดดันจากสหรัฐฯทั้งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ตามกระบวนการว่าวิคเตอร์บูทมีความผิด สำทับด้วยการออกมาเปิดเผยของเว็บไซต์วิกิลีกส์ในทำนองเดียวทำให้ไทยต้องปวดกับเรื่องนี้อยู่พักใหญ่เลยทีเดียวกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการส่งตัวนายวิคเตอร์