posttoday

ที่ยืนเหลือไม่มาก 24 มี.ค.ต้องเลือกตั้ง

23 มกราคม 2562

เรื่องของการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.เริ่มมีความเป็นรูปธรรมมากที่สุด หลัง "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2562 เป็นต้นมา ปรากฏว่ารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ในช่วงเมาหมัด พอสมควร ภายหลังขอเลื่อนการเลือกตั้งจากกำหนดเดิมคือวันที่ 24 ก.พ.ออกไปก่อน

การประกาศออกมาเช่นนั้นส่งผลให้มีราคาที่รัฐบาลและ คสช.ต้องจ่ายหนักพอสมควร โดยเฉพาะความน่า เชื่อถือของฝ่ายบริหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพราะต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปรับปากกับต่างประเทศและคนไทยมาตลอดว่าวันที่ 24 ก.พ. จะเป็นวันเลือกตั้ง เมื่อรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนออกไปจึงไม่แปลกที่จะเกิดกระแสกดดันมากขึ้น

ผลในทางลบไม่ได้ตกอยู่กับรัฐบาลเท่านั้น เพราะในมุมหนึ่งก็ตกอยู่กับพรรคพลังประชารัฐด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากต่างเป็นที่ทราบกันดีว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

กระแสเรียกร้องและกดดันรัฐบาลนั้นด้านหนึ่งอาจจะไม่ใหญ่เป็นระดับมวลมหาประชาชน แต่อย่างน้อยก็เป็นกระแสที่จุดติดพอสมควรในโลกสื่อสังคมออนไลน์ มิเช่นนั้นแล้วคงไม่เกิดปรากฏการณ์ติดแฮชแท็ก (Hashtag) กันล้นหลามเพื่อไม่ให้มีการเลื่อนเลือกตั้งขนาดนั้น

แต่อาการเมาหมัดของรัฐบาลยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะแม้แต่กองทัพก็ได้เข้ามาเติมเชื้อให้เกิดเป็น กระแสลามมากขึ้นไปอีกผ่านการให้สัมภาษณ์โจมตีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นการเข้ามาในสงครามการเมืองโดยไม่จำเป็น เพราะด้านหนึ่งอาจทำให้กองทัพถูกมองว่าไม่มีความเป็นกลาง ทางการเมือง ทั้งๆ ที่ก็ถูกจับผิดมาตลอด

ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระยะหลังรัฐบาลต้องเริ่มออกมายืนยันเกี่ยวกับวันเลือกตั้งอีกครั้งด้วยการระบุลงไปเป็นวันที่ 24 มี.ค.

ในเรื่องของวันที่เป็นวันที่ 24 มี.ค.เริ่มมีความเป็นรูปธรรมมากที่สุด ภายหลัง "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าวันดังกล่าวมีความเหมาะสมมากที่สุด เช่นเดียวกับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ออกมาระบุว่าอีกไม่นานน่าจะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง

ไม่เพียงเท่านี้รัฐบาลยังให้ความมั่นใจเพิ่มเติมด้วยว่าหากมีการ เลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ก็ยังอยู่ภายในกรอบ 150 วัน เพราะกรอบเวลา 150 วันนั้นเป็นการกำหนดเฉพาะวันเลือกตั้งเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวกับระยะเวลาของการรับรองผลการเลือกตั้ง แต่อย่างใด

สอดรับกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ย้ำว่าต่อให้การเลือกตั้งมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.  การประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง สส.ก็สามารถทำได้ให้เสร็จได้ภายในวันที่ 9 พ.ค. เพื่อตัดปัญหาเรื่องข้อสงสัยระยะเวลา 150 วัน

เรียกได้ว่าเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลได้ย้ำถึงความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง เหมือนกับที่เคยยืนยันว่าวันที่ 24 ก.พ.จะเป็นวันเลือกตั้งมาก่อนหน้านี้

สถานการณ์กำลังบีบให้รัฐบาลและ คสช.เหลือที่ยืนในทางการเมืองภายใต้ระบบรัฐประหารที่เป็นอยู่ไม่มากนัก เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสของการเลือกตั้งถูกจุดขึ้นทั่วประเทศแล้ว

ดังจะเห็นได้จากความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองที่อยู่ต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็ตาม หรือแม้แต่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากหลายสำนักก็ต่างระบุตรงกันว่าอยากให้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นโดยเร็ว เท่ากับว่ารัฐบาลและ คสช.ไม่อาจต้านทานกระแสของการเลือกตั้งได้อีกต่อไป

เวลาที่ถูกทอดไปอีกประมาณ 1 เดือนจากกำหนดเดิมวันที่ 24 ก.พ.นั้นถือว่าเป็นคุณกับรัฐบาลพอสมควร เพราะอย่าลืมว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ถูกจำกัดอำนาจเหมือนกับรัฐบาลรักษาการปกติที่ต้องห้ามดำเนินการบางอย่างตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดระหว่างการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันระหว่างพรรคการเมืองและรัฐบาล

แต่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีอำนาจครบมือเหมือนเดิมทุกประการ แม้ว่าในอนาคตจะมีการประกาศ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง โดยรัฐบาลสามารถใช้นโยบายสวัสดิการประชารัฐเพื่อมัดใจประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและไม่มีข้อจำกัด อันจะมีผลในทางที่ดีต่อพรรคพลังประชารัฐอย่างไม่ต้องสงสัย

ทุกอย่างดูเป็นใจและเข้าทางรัฐบาลแทบทั้งหมด สะท้อนให้เห็นจากโพลต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีคะแนนนำฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ความได้เปรียบอยู่ในมือของรัฐบาลทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นพรรคการเมืองเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเท่าใดนัก เนื่องจากจะมุ่งอยู่กับการคิดนโยบายหาเสียงของตัวเอง เพื่อสร้างคะแนนความนิยม อีกทั้งหากไปพูดอะไรที่พาดพิงมากเกินไปก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ ทำให้พรรคการเมืองจึงไม่อยากตอแย คสช.และรัฐบาลมากนัก เว้นเสียแต่จะมีกรณีที่รัฐบาลและ คสช.พาดพิงมาถึงพรรคการเมือง

เป็นความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งยิ่งกว่าที่รัฐบาลใดเคยมี แม้แต่รัฐบาลของพรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือกว่าคู่แข่งในทุกด้านแบบนี้

ณ เวลานี้เงื่อนไขที่จะนำไปสู่การเลื่อนเลือกตั้งไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว เหลือแต่เพียงความพร้อมของรัฐบาลเท่านั้นว่าจะยอมคืนอำนาจให้กับประชาชนหรือไม่เท่านั้น