posttoday

7 กกต.สเปกเทพ สนช.ตรวจเข้มลุ้นคว่ำ

16 พฤษภาคม 2561

สัญญาณการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งเริ่มชัดเจนเข้ามาทุกขณะ ทั้งในแง่ของกฎหมายและการเมืองแม้ว่าจะมีกระแสข่าวออกมาว่า คสช. ยังไม่ต้องการให้เกิดการเลือกตั้งก็ตามที

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

สัญญาณการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งเริ่มชัดเจนเข้ามาทุกขณะ ทั้งในแง่ของกฎหมายและการเมือง แม้ว่าจะมีกระแสข่าวออกมาตลอดว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ต้องการให้เกิดการเลือกตั้งก็ตามที

มาถึงจุดนี้มีความเป็นไปได้พอสมควรที่ คสช.จะมีดวงตาเห็นธรรมทางการเมืองแล้วว่ายิ่งอยู่ในอำนาจนานเท่าไร แรงต่อต้านยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะมีผลยาวไปถึงเป้าหมายใหญ่ที่ต้องเข้ามาในระบบเพื่อสืบทอดอำนาจในระยะยาว ดังนั้นทางที่ดีจึงควรเร่งจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและเดินหน้าเข้าสู่โรดแมป

ภายใต้ตรรกะดังกล่าวนี่เอง จึงได้เห็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตามพื้นที่ในจังหวัดการเมืองที่สำคัญ อย่างล่าสุดในกรณีของ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งปรากฏภาพของ “เนวิน ชิดชอบ” แกนนำพรรคภูมิใจไทย แสดงไมตรีต้อนรับบิ๊กตู่อย่างเต็มที่

ตรงนี้อาจเป็นสัญญาณให้เห็นอีกประการหนึ่งว่าการจับมือเป็นพันธมิตรก่อนการเลือกตั้งได้เกิดขึ้นแล้ว

ขณะที่ในแง่ของกฎหมายจะพบว่าร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับผ่านสภาไปแล้ว เหลือเพียงลุ้นว่าร่างกฎหมายเลือกตั้ง สส. และร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. จะผ่านความเห็นชอบของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินร่างกฎหมายฉบับหลัง

หลายฝ่ายมองตรงกันว่าทุกอย่างไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะที่ผ่านมาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เคยแก้ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหลายฉบับ ทว่าแต่ละฉบับก็ผ่านศาลรัฐธรรมนูญไปได้

อย่างไรก็ตาม หากจะมีประเด็นใดเข้ามามีผลกระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้งไม่มากก็น้อยเห็นจะเป็น “การเลือกตั้งกรรมการการเลือกตั้ง” ชุดใหม่จำนวน 7 คนของ สนช.

ก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอชื่อจากคณะกรรมการสรรหา 5 คน และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจำนวน 2 คนมายัง สนช. แต่ปรากฏว่า สนช.ลงมติคว่ำอย่างน่าประหลาดใจ โดยอาศัยเหตุผลการเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีข้อบกพร่อง ส่วนการสรรหาของกรรมการสรรหาพบว่าคนที่ผ่านการสรรหานั้นไม่ได้มีคุณสมบัติตรงตามรัฐธรรมนูญ

มาในครั้งนี้กระบวนการภายในของ สนช.น่าจะเป็นไปได้สวย ภายหลังมีการเปิดชื่อผู้ผ่านการสรรหาจำนวน 7 คน แบ่งเป็นจากการสรรหาของกรรมการสรรหา 5 คน ได้แก่ 1.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 2.สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3.อิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และอดีตเอกอัครราชทูต 4.พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีต ผวจ.บุรีรัมย์ และ 5.ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย อดีตสมาชิก สปท.

ส่วนจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน คือ ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นสองคนที่ สนช.ไม่ได้ให้ความเห็นชอบในครั้งแรก

จากรายชื่อดังกล่าวส่งผลให้เริ่มมีความเคลื่อนไหวบางประการของ สนช. ว่าเที่ยวนี้หวยจะออกว่าผ่านบางส่วนและไม่ผ่านบางส่วน

ในส่วนที่น่าจะผ่าน สนช.ไปได้นั้น น่าจะเป็นว่าที่ กกต. 2 คนจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพราะการเลือกครั้งล่าสุดนี้ได้มีการแก้ไขกระบวนการลงมติให้ตรงกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จึงมองกันว่าน่าจะผ่านไปได้

ผิดกับว่าที่ กกต. 5 คนของกรรมการสรรหาซึ่งอาจมีปัญหาติดขัดอีกครั้ง แบ่งเป็นคนหนึ่งเคยสมัคร กกต.มาก่อนแต่ไม่ผ่านเรื่องคุณสมบัติ พอมาการสรรหาครั้งนี้กลับผ่านมาถึง สนช. หรืออีกรายมีประเด็นเรื่องการใช้ตำแหน่งข้าราชการเพื่อเทียบเคียงตำแหน่งอธิบดีหรือเทียบเท่า

ประเด็นนี้อาจเป็นประเด็นที่สร้างความลังเลใจให้กับสมาชิก สนช.ไม่น้อย ถึงขนาดที่จะตัดบุคคลที่มีปัญหาออกไป เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในทางเทคนิคภายหลังผ่านกระบวนการของ สนช.ไปแล้ว

ดังนั้น ปลายทางของเรื่องนี้จะเป็นการเปิดประตูไป “กกต.คนนอก” ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้กรรมการสรรหาไปเชิญบุคคลที่มีคุณสมบัติครบมาสมัคร

ถึงที่สุดแล้ว เมื่อ คสช.ได้ กกต.ชุดใหม่ในยุคของตัวเอง การเลือกตั้งก็คงจะมีขึ้นได้ในไม่ช้า