posttoday

‘เจ๊แดง’ วางมือการเมือง ลดแรงเสียดทานเพื่อไทย

06 เมษายน 2561

ปรากฏการณ์การรวมตัวของอดีตแกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ตบเท้ายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคแบบพร้อมเพรียงเมื่อวันที่ 4 เม.ย.

โดย ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์​

ปรากฏการณ์การรวมตัวของอดีตแกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ตบเท้ายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคแบบพร้อมเพรียงเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นการแสดงพลังและเรียกขวัญกำลังใจให้กับลูกพรรคในช่วงเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาทุกที 

กลบกระแสข่าวการแตกกระสานซ่านเซ็นของกลุ่มก๊วนต่างๆ จนอาจทำให้พรรคเพื่อไทยที่เคยผูกขาดชัยชนะเลือกตั้งระดับชาติในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาหนักในครั้งนี้

ยิ่งในวันที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องระหกระเหิน หนีคดีไปต่างประเทศ การหาแม่ทัพมาคุมพรรคยังไม่มีความชัดเจน แถมเกิดกระแสตีกัน ขัดแข้งขัดข​า จนสภาพภายในพรรคปั่นป่วน

แต่การขยับที่น่าสนใจภายในพรรคเพื่อไทยเวลานี้อยู่ที่การเฟดตัวออกจากหน้าฉากการเมืองของ เจ้าแม่วังบัวบาน ​คีย์แมนคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีบทบาท​คอยเป็นหลังบ้านควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย​ภายในพรรคเรื่อยมา

การเสียกำลังคนสำคัญไปในช่วงเวลาที่พรรคต้องเผชิญกับศึกหนัก จึงไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่อีกด้านก็อาจส่งผลดีต่อการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

ถึงขั้นอาจเป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องการลดบทบาทคนในตระกูลชินวัตรเพื่อลดแรงเสียดทานทางการเมือง ไม่ให้เป็นเป้าถูกถล่มทั้งจากฝ่าย ประชาธิปัตย์ หรือฝั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

อีกด้านหนึ่งยังเป็นโอกาสดีสำหรับ “เพื่อไทย” ที่จะเดินหน้าสู่เป้าหมาก้าวข้าม “ทักษิณ ชินวัตร” เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับพรรคในระยะยาว และไม่ตกเป็นเป้าถูกถล่มในช่วง​การหาเสียง

การจับจ้องของฝ่าย คสช. ต่อการเคลื่อนไหวภายนอกประเทศของ 2 อดีตนายกฯ จากตระกูลชินวัตร ยังไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจได้ เพราะทั้งสองคนยังมีหมายศาลให้ติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี

การจะเปิดหน้าลุยช่วยหาเสียงเหมือนที่ผ่านๆ มาจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ยิ่งในวันที่ คสช.​ยังมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในมือด้วยแล้ว การจะทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงย่อมไม่เป็นผลดีกับทั้ง พรรคเพื่อไทย และคนในตระกูลชินวัตรเอง

การวางมือทางการเมืองของ “เจ๊แดง” จึงเป็นเสมือนการแสดงออกทางสัญลักษณ์ว่าต้องการลดบทบาทของคนตระกูลชินวัตร และสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกของพรรคจนสามารถได้เดินหน้าไปด้วยตัวเอง

เมื่อ เจ๊แดง ถือเป็นคีย์แมนจากตระกูลชินวัตรคนสุดท้ายที่ยังมีบทบาทอยู่ในช่วงที่ผ่านมา การถอยออกจากหน้าฉากจึงเสมือนเป็นความพยายามปรับภาพลักษณ์ให้เพื่อไทยไม่ให้ถูกมองว่ามีการครอบงำหรือชี้ขาดด้วยคนเพียงคนเดียวหรือตระกูลเดียวอีกต่อไป

ยิ่งในวันที่ “เพื่อไทย” กำลังประสบปัญหาสำคัญจากการเปิดตัวตั้งพรรคอนาคตใหม่ ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่อาจจะมาแย่งฐานคะแนนของเพื่อไทยในหลายพื้นที่

การปรับภาพลักษณ์สร้างความเข้มแข็งให้พรรคเพื่อไทยเป็นมากกว่าพรรคของคนตระกูลชินวัตร จึงอาจเป็นทางเลือกที่ต้องเร่งทำ ​เพื่อไม่ให้ต้องเสียฐานมวลชนที่เคยสนับสนุนมาตั้งแต่ไทยรักไทย

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ล้วนแต่เป็นพรรคที่มีฐานสนับสนุนจาก​กลุ่มชาวบ้านที่ละเลย ไม่เอาใจใส่จากรัฐบาลในอดีตคล้ายๆ กัน

แต่วังวนปัญหาทางการเมืองในอดีตบีบให้พรรคเพื่อไทยต้องเลือกเดินไปในทางที่สร้างปัญหากับพรรคในระยะยาว โดยเฉพาะกับเร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอย  จนนำมาสู่การชุมนุมคัดค้านและบานปลายกลายเป็นจุดจบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ​

ข้อครหาเรื่องความต้องการเร่งพาตัวอดีตนายกฯ ทักษิณ กลับประเทศ มากกว่าเร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน กลายเป็นตราบาปที่ฉุดความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก

ยังไม่รวมกับคดีของคนรอบตัว เจ๊แดง โดยเฉพาะจากโครงการรับจำนำข้าว  ย่อมจะเป็นอีกเป้าใหญ่ให้ถูกขุดขึ้นมาโจมตีอย่างต่อเนื่องในช่วงหาเสียงที่จะยิ่งทำให้เพื่อไทยถูกรุมถล่ม ทำลายน้ำหนักนโยบายสำคัญที่เคยใช้เป็นนโยบายหาเสียงในช่วงที่ผ่านมา

ที่สำคัญประเมินแล้วการหาเสียงที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝั่ง ไม่เอาทักษิณ กับ ฝั่งไม่เอา คสช. จำเป็นที่พรรคเพื่อไทยต้องปรับภาพลักษณ์เพื่อรักษาฐานคะแนนของตัวเอง ไม่ให้กลุ่มที่ไม่เอา คสช. ไปเลือกพรรคอื่น ขณะเดียวกันก็ใช่ว่าจะทิ้งกลุ่มไม่เอาทักษิณ ​ในวันที่สถานการณ์ต้องบีบให้เลือกทางใดทางหนึ่ง ​

ถัดมาที่ประเด็นเรื่องการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลในนอนาคตหนึ่งในปัญหาที่พรรคการเมืองหลายพรรควิตกก็คือการเข้ามาของ คสช. ที่จะใช้กลไกตัวช่วยอย่าง 250 เสียงของ สว.ชุดแรกตามบทเฉพาะกาล

แต่การจะผนึกกำลังระหว่างพรรคการเมืองด้วยกันเอง เพื่อยืนหยัดต่อต้านการเข้ามาของ คสช. เองก็คงยากที่จะสนิทใจจับมือกันได้ โดยเฉพาะจากประสบการณ์การกระทบกระทั่งที่ผ่านมา

ดังนั้น การที่เพื่อไทยลดบทบาทคนของตระกูลชินวัตร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคู่ขัดแย้งสำคัญทางการเมือง จึงอาจเป็นการส่งสัญญาณปัจจัยขัดแย้ง เปิดทางจับมือกับพรรคอื่นเพื่อต้านการกลับมาของ คสช.

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นทางเลือกที่ดีกับเพื่อไทย ยิ่งในวันที่หลายพรรคการเมืองเปิดตัวประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง