posttoday

เลื่อนเลือกตั้ง ความรับผิดชอบของ ‘บิ๊กตู่’

05 มกราคม 2561

กลายเป็นสัญญาประชาคมที่ยากจะบิดพลิ้ว เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศความชัดเจนถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นราวเดือน พ.ย.ปีนี้

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

กลายเป็นสัญญาประชาคมที่ยากจะบิดพลิ้ว เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศความชัดเจนถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นราวเดือน พ.ย.ปีนี้

แต่ด้วย “เงื่อนไข” ต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ และคนใน คสช.ส่งออกมาเป็นระยะ ทำให้เกิดความกังขาว่า นี่อาจเป็นการเปิดช่องพร้อมให้เกิดการเลื่อนเลือกตั้งได้ตลอดเวลา

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวลเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้งจากโรดแมป

“ผมได้ประกาศไปแล้วว่าหากกฎหมายลูกเสร็จก็เลือกตั้ง แต่ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ใช่เรื่องของผมและไม่ใช่ไปโทษสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)”

นอกจากจะไม่ช่วยให้ “มั่นใจ” ว่าทุกอย่างจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมปแล้ว นี่อาจเป็น “สัญญาณ” ที่จะถูกนำไปตีความว่าหากกฎหมายลูกไม่เสร็จก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งได้

เมื่อปัจจัยเรื่องกฎหมายลูกถือเป็นต้นทางที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง หากจะยื้อหรือเลื่อนการเลือกตั้งที่ง่ายและเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุดคือเกิดกรณีที่กฎหมายลูกไม่สามารถประกาศใช้ได้

ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 268 ระบุว่า เมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ประกาศใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ดำเนินการเลือกตั้งใน 150 วัน

จากกฎหมายลูก 4 ฉบับ เวลานี้ประกาศใช้ไปแล้ว 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ส่วนอีก 2 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.

ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้กระแสการคว่ำกฎหมายลูกเพื่อยื้อการเลือกตั้งออกไป มีให้ได้ยินมาเป็นระยะ ปลุกให้สังคมหันมาจับตาการพิจารณาของ สนช.อย่างใกล้ชิด

ผลงานที่ผ่านมา สนช.ชุดนี้ ถือเป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย และมีที่มาจาก คสช. ดูจะขานรับตอบสนองความต้องการของรัฐบาล คสช.เป็นอย่างดี จน พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ต้องออกมายืนยันว่าไม่มี “ใบสั่ง” 

“การออกกฎหมายต้องคำนึงถึงหลักนิติธรรมและนิติรัฐเป็นสำคัญ ดังนั้น การบอกว่ามีใบสั่งนั้น ไม่ใช่ใบสั่ง มันเป็นเรื่องนโยบายซึ่งเขาแสดงออกมาและไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งซ้ำ ถ้ามันไม่ขัดต่อหลักนิติธรรมนิติรัฐ สนช.ก็ต้องดำเนินการ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สนช.ก็จะไม่เดินไปตามนั้น”

แต่สุดท้าย หากจะเกิดกรณีเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเพราะเหตุกฎหมายลูก 2 ฉบับ ไม่ผ่าน ย่อมต้องถือเป็นความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไม่อาจปฏิเสธ หรือโบ้ยความรับผิดชอบไปให้กับคนอื่น

ทั้งสถานะหัวหน้า คสช.ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในมือ ย่อมสามารถควบคุมทิศทางแม่น้ำ 5 สาย ที่ตั้งมาเองกับมือได้ไม่ยาก

ยิ่งการจะคว่ำกฎหมายลูกซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ หากไม่มี “สัญญาณ” หรือ “ใบสั่ง” คงจะเกิดขึ้นได้ยาก

ที่สำคัญตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ล้วนออกมาปฏิเสธยันยันว่าไม่มีสัญญาณที่จะต้องการให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป

ทั้ง พรเพชร ในฐานะประธาน สนช. “ที่ผ่านมาพูดกันมากเรื่องการคว่ำกฎหมายลูก ผมไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริง ซึ่งการจะคว่ำกฎหมายได้ต้องใช้เสียงถึง 2 ใน 3 ของสภา การใช้เสียง 2 ใน 3 ก็ต้องมีการพูดจาล็อบบี้และส่งสัญญาณกัน แต่ยังไม่เห็นสัญญาณที่ว่านั้นเลย การจะคว่ำกฎหมายไม่ใช่เรื่องลี้ลับอะไร จะปกปิดก็คงลำบาก”

คล้าย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ที่ระบุว่า จะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปหรือไม่ ส่วนตัวคงยืนยันไม่ได้ แต่ในฐานะผู้ปฏิบัติตามกรอบเวลารัฐธรรมนูญทุกอย่างยืนยันเป็นไปตามกรอบเวลา ส่วนกระแสข่าวเรื่องคว่ำกฎหมายลูกนั้นไม่มี ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าไม่น่าจะมีอะไรถึงขั้นที่ตกลงกันไม่ได้

ส่วน สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ยังไม่เคยเห็นว่าโรดแมปจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะทุกอย่างยังเป็นการตามกรอบเวลาที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้  ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน สนช. ก็ได้รับการยืนยันจาก สนช.ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามกำหนด

แต่ปรากฏการณ์เช่นนี้ชวนให้คิดถึงเมื่อครั้งก่อน การลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มามี “สัญญาณ” คว่ำในช่วงโค้งสุดท้าย

จนผลออกมา สปช.สายทหาร และสายที่มาจากจังหวัดพร้อมใจกันลงมติคว่ำรัฐธรรมนูญ จนคะแนนออกมาตามสัญญาณคว่ำ คือ 135 เสียง ต่อ 105 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง

เหตุผลไม่ต่างจากครั้งนี้เมื่อเบื้องหลังสัญญาณคว่ำรัฐธรรมนูญในชั้น สปช. เพราะหวังยืดเวลาการอยู่ในอำนาจของ คสช.ออกไปจากกรอบเวลาตามโรดแมปเดิม โดยแว่วว่ามีสัญญาใจว่า สปช.ที่ลงมติ คว่ำบางส่วนจะถูกเลือกกลับมาทำหน้าที่ สปท.

ครั้งนี้ก็เช่นกันแม้จะออกตัวไม่เกี่ยวข้องหากเกิดการเลื่อนเลือกตั้งเพราะกฎหมายลูกสะดุด แต่สุดท้ายด้วยอำนาจหน้าที่และผลประโยชน์ที่จะได้รับคงยากที่ปฏิเสธความรับผิดชอบหากเกิดการเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ