posttoday

ซานต้า "ตู่" ลงพื้นที่ถี่ วางสะพานนายกฯ สมัยสอง

11 ธันวาคม 2560

เค้าลางการกลับมาเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 ยิ่งแจ่มชัดเมื่อได้เห็นสัญญาณจากบรรดากลุ่มเชียร์ต่างๆ ออกมาประสานเสียงเสนอตัวให้การสนับสนุน

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

นับแต่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดปมคำถาม 4 ข้อ ถามประชาชนผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เชิญชวนประชาชนมาร่วม “ส่งคำตอบ” ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อรับทราบความเห็น และนำมาพิจารณาแนวทางการทำงานต่อไป อาทิ 1.เลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ 2.หากไม่ได้จะทำอย่างไร 3.การเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอนาคตประเทศและเรื่องอื่นๆ นั้น ถูกต้องหรือไม่ และ 4.ท่านคิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ควรมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่

4 คำถามดังกล่าวได้สร้างแรงสะท้านสะเทือนทางการเมืองโดยตรงเพราะว่า 4 คำถามดังกล่าว คือ “บิ๊กตู่” ขออยู่ต่อแล้วประชาชนจะว่าอย่างไร? กระทรวงมหาดไทยนับเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการหาคำตอบจากประชาชน ผ่านทุกกลไกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทุกจังหวัดมีอยู่ ให้ไปรวบรวมคำตอบจากประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรมในทุกจังหวัด ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับทราบ โดยสรุปได้คำตอบว่า เชียร์ “บิ๊กตู่” อยู่ต่อไปสมัยที่ 2 

เกมการเมืองครั้งนี้ทำเอาบรรดานักการเมืองจากทุกค่ายทุกพรรคเหมือนเจอหมัดขวาของ “บิ๊กตู่” ชกเข้าหน้าอย่างจังแบบไม่ทันตั้งตัว แกนนำนักการเมืองสองพรรคใหญ่ ทั้งเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ต่างออกมาถล่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า คสช.เสพติดอำนาจ เพราะไม่พอใจ 4 คำถามที่ยิงออกมา ชี้นำเพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองให้ช่วงปลายโรดแมปที่กำลังนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งในอีกหนึ่งปีกว่าข้างหน้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้าทาง คสช. คือ ไม่ยอมปล่อยมือออกจากอำนาจ บรรดานักการเมืองจึงออกมาตั้งการ์ดเดินหน้าชกกลับ “บิ๊กตู่” โดยตรงแบบไม่ไว้หน้า

อาจกล่าวได้ว่าในช่วง 2 ปีแรกที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ การจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จัดขึ้นแค่เพียง 2 ครั้งเท่านั้น แต่ย่างเข้าปีที่ 3 โค้งสุดท้ายที่อยู่บนหลังเสือ เพียงครึ่งปีหลัง นับตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค.นี้เอง “บิ๊กตู่” ตะลอนจัดประชุม ครม.สัญจรไปแล้วถึง 4 ครั้ง หรือจัดประชุม ครม.สัญจรถี่เดือนละครั้ง เพราะอย่าลืมว่า ครม.สัญจรเป็นเสมือนเครื่องมือทางการเมืองอันสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเรียกคะแนนเสียงหรือคะแนนนิยมจากประชาชนได้โดยตรง ด้วยการอัดฉีดสารพัดโครงการ และการใช้งบประมาณเข้าไปมัดใจชาวบ้านในพื้นที่

แต่ยุค คสช.ครองอำนาจเหนือชั้นกว่ารัฐบาลนักการเมืองในอดีตหลายเท่า เหนือเมฆกว่าตรงที่ “บิ๊กตู่” สวมบทซานตาคลอส เล่นเทงบประมาณและโครงการหว่านไปทั่วทั้งภูมิภาค พร้อมกับจัดประชุมใหญ่เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดยกภูมิภาคมาร่วมประชุม พร้อมดึงผู้นำท้องถิ่นตั้งแต่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานภาครัฐรวมถึงภาคเอกชนระดับหัวกะทิให้ร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง เพื่อโชว์ภาวะผู้นำไล่ตั้งแต่ ครม.สัญจรครั้งแรก ที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 21-22 ส.ค. 2560 ครม.สัญจรครั้งที่สอง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย. 2560 ครั้งที่ 3 ที่ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 27-28 พ.ย. 2560 จนครั้งล่าสุดที่กำลังจะจัดขึ้น ที่ จ.พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 25-26 ธ.ค.นี้

ยังไม่รวมถึงการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วม หรือภัยแล้ง อย่างเมื่อสัปดาห์ก่อน นายกฯ บินลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้เลือกไป จ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาชนจะได้เห็นภาพอันสุดลึกซึ้งประทับใจ นั่นคือภาพ “บิ๊กตู่” แสดงท่าทางเป็นกันเองกับชาวบ้าน ลงพื้นที่ไปโอบกอดยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พร้อมกับเห็นภาพและได้ยินคำพูดอันเข้มแข็งขึงขังสั่งงานขันนอตเจ้าหน้าที่ระดับสูงภาครัฐให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แน่นอนย่อมได้ใจชาวบ้านไปเต็มๆ ว่านายกฯ ไม่ทอดทิ้งประชาชน

ยิ่งล่าสุดทีมงานตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เปิดเฟซบุ๊กใหม่ให้กับ “บิ๊กตู่” ไว้อัพเดทข่าวและภาพกิจกรรมทุกย่างก้าวที่ “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่หรือทำงาน เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาคลิกไลค์ หรือแสดงความคิดเห็นถือเป็นการสร้างความใกล้ชิดกับประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ถือเป็นการสร้างความเป็นกันเองระหว่างรัฐบาลกับพี่น้องประชาชนในทุกระดับและทุกช่องทางการสื่อสาร 

เค้าลางการกลับมาเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 ยิ่งแจ่มชัดเมื่อได้เห็นสัญญาณจากบรรดากลุ่มเชียร์ต่างๆ ออกมาประสานเสียงเสนอตัวให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แบบออกหน้าออกตา จนเกิดการตั้งข้อสังเกตว่าจงใจจะส่งสัญญาณด้วยการเตี๊ยมกันวางแผนการดันนายกฯ คนนอกที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ในอำนาจต่อไปหลังเลือกตั้งหรือไม่ โฟกัสไปที่ไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ออกหน้าเชียร์ “บิ๊กตู่” แบบสุดตัว ทั้งระดมคนและทุนตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป ปูเสื่อรอให้ “บิ๊กตู่” เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค

ยิ่งผลโพลทางการเมืองแทบทุกสำนักที่ออกมาเป็นรายเดือน ต่างหยั่งเสียงจากประชาชนว่าเลือกตั้งครั้งต่อไปใครควรเป็นนายกฯ ทุกสำนักโผประเมินผลออกมาคล้ายๆ กัน คือ คะแนนเกิน 50% เทคะแนนเกินครึ่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะสมเป็นนายกฯ คนต่อไป

ฟาก “บิ๊กตู่” เมื่อได้รู้คำตอบและทิศทางการเมือง เหมือนได้ยาดีพลังพญาช้างสาร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเหตุใด “บิ๊กตู่” ขยันลงพื้นที่ถี่ยิบมากในช่วงนี้ พร้อมกับสวมบทซานตาคลอสเทกระจาดโครงการและงบประมาณช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างไม่อั้น เพื่อต่อเวลาทางการเมืองเพราะนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่ “บิ๊กตู่” คนนี้