posttoday

เกมไล่บี้ตดีบีทีเอสเรียกคะแนนสงสารสุขุมพันธุ์

04 มกราคม 2556

คล้อยหลังไม่กี่วัน หลัง “ประชาธิปัตย์” ประกาศส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงรักษาเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ต่ออีกสมัย

คล้อยหลังไม่กี่วัน หลัง “ประชาธิปัตย์” ประกาศส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงรักษาเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ต่ออีกสมัย

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินเกมรุกตั้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้บริหาร กทม. และพวก 9 คน พร้อมนัดให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ม.ค.

ในข้อหาร่วมกันประกอบกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจาก รมว.มหาดไทย ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 กรณีต่อสัญญาขยายระยะเวลาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสออกไปอีก 13 ปี จากระยะเวลาสัมปทานที่เหลืออยู่ 17 ปี รวม 30 ปี

พร้อมทำหนังสือถึง รมว.มหาดไทย เสนอให้ยกเลิก หรือสั่งให้ผู้ว่าฯ กทม. ยกเลิกนิติกรรมดังกล่าว

การขยับของดีเอสไอในจังหวะเวลาเช่นนี้ เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกข้อครหาว่าเป็นการรับลูกจากฝั่งการเมือง หวังผล “ดิสเครดิต” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชิงตัดคะแนนว่าที่ผู้สมัครจากประชาธิปัตย์ พร้อมเปิดแผลให้รุมถล่มในห้วงเวลาต่อจากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง

ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เมื่อปมปัญหานี้เป็น “จุดอ่อน” สำคัญ ที่ “เพื่อไทย” หยิบยกขึ้นมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะส่งไม้ต่อไปยังดีเอสไอดำเนินการเอาผิด

แม้แต่กระบวนการคัดเลือกผู้สมัครของประชาธิปัตย์ วิตกกังวลว่าจะทำให้เสียเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ฐานที่มั่นสำคัญ หลังจากที่ผูกขาดแชมป์ต่อเนื่องมา 3 สมัย ถึงขั้นมีแนวคิดจะเปลี่ยนตัวผู้สมัคร

ทว่า ในขั้นตอนการแสดงวิสัยทัศน์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ยืนยันความถูกต้องในการดำเนินการว่าได้ตรวจสอบแล้ว และทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับสาธารณชนในรายละเอียดได้อย่างชัดเจน จนกรรมการบริหารพรรคฟันธงส่งคุณชายหมูลงรักษาแชมป์อีกรอบ

เพราะอย่าลืมว่าการออกมาเปิดหน้าไล่บี้เล่นงานฝ่ายค้านของ “ดีเอสไอ” แบบไม่ต้องแอบ ไม่ต้องเม้ม เวลานี้

แม้ด้านหนึ่งส่งผลให้ “ประชาธิปัตย์” ซวนเซไปกับแรงเสียดทานเหล่านี้ไปไม่น้อย ไหนจะต้องมาพะวักพะวน เสียเวลา เสียสมาธิ มาเคลียร์คดี ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวกรุง นอกเหนือไปจากการหาเสียงชี้แจงนโยบายซื้อใจคนกรุง

แต่อีกด้านหนึ่งอาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ “กระแสตีกลับ” ที่กลับมาเห็นใจ “ประชาธิปัตย์” ที่กำลังตกเป็นฝ่ายถูกกระทำจากกลไกอำนาจรัฐ

ไม่ใช่เฉพาะคดีการต่อสัญญารถไฟฟ้าของ กทม.เท่านั้น เพราะระยะหลังที่ผ่านมา “ดีเอสไอ” เปิดเกมไล่บี้ “แกนนำ” ประชาธิปัตย์ในหลายคดี

ที่สำคัญ การดำเนินคดีเหล่านี้ถูกมองว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง รับลูกจากฝ่ายการเมืองไปดิสเครดิตคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามมากกว่าหวังผลทางคดีอย่างแท้จริง

ทั้งคดี “ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล” ที่ดีเอสไอกำลังไล่เอาผิด “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เมื่อครั้งการชุมนุมทางการเมืองจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 90 ศพ

รวมทั้งคดีเงินบริจาคน้ำท่วมจากบริษัท อีสท์วอเตอร์ เมื่อปลายปี 2554 ที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง ต่อเนื่องด้วยคดีเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ “อภิสิทธิ์” หักจากเงินเดือนตัวเอง เดือนละ 2 หมื่นบาท ที่ดีเอสไอจ่อจะตั้งข้อหาเพิ่มเติม

คดีต่างๆ เหล่านี้จึงอาจแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนสงสารกลับมายังประชาธิปัตย์

ย้อนดูทิศทางการต่อสู้ขณะนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ พยายามดึงประเด็นเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้ใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสมาเป็นตัวประกัน โดยให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาอย่างรอบคอบ หากจะรับลูกจากดีเอสไอเพื่อมายกเลิกสัญญาเจ้าปัญหา

แถมเล็งเตรียมหาช่องทางดำเนินคดีกับอธิบดีดีเอสไอ ว่า เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 200 หรือไม่ รวมทั้งเตรียมดำเนินการกล่าวโทษต่อศาลอาญา เอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

พร้อมยืนยันเด็ดขาดว่า การดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสัมปทาน แต่เป็นสัญญาว่าจ้างโดยใช้ทรัพย์สินของ กทม. ซึ่งรายได้ทั้งหมดของโครงการจะตกเป็นของ กทม. เป็นการดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ของ กทม.อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งกระบวนการพิจารณาขั้นตอนตามกฎหมายก็คงจะต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะรู้ผล ซึ่งคงเลยวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไปแล้ว

แต่นี่ยังเป็นเพียงแค่ “คดีแรก” เพราะยังมีอีกหลายแผลที่เชื่อว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ คงจะโดนถล่มตลอดช่วงเวลาหาเสียง เมื่อ “เพื่อไทย” ทิ้งเชื้อ ยื่นเรื่องไปยังดีเอสไอให้ตรวจสอบการกระทำผิด ซึ่งกว่าจะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. น่าจะมีอีกหลายคดี

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบอุโมงค์ยักษ์ 7 แห่งของ กทม. หรืองบลอกท่อระบายน้ำของ กทม. ที่ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” โฆษกเพื่อไทย เคยยื่นเรื่องให้ตรวจสอบเงื่อนงำความผิดปกติ และทางพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว

ไปจนถึงโครงการก่อสร้างสนามกีฬา บางกอก ฟุตซอล อารีนา ที่ทาง “จิรายุ ห่วงทรัพย์” รองโฆษกเพื่อไทย ร้องต่อดีเอสไอให้สืบสวนสอบสวนใน 5 ประเด็น ที่อาจเข้าข่ายทำผิด พ.ร.บ.ฮั้ว และระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างของ กทม.

คดีต่างๆ เหล่านี้ จึงเป็นอีกอุปสรรคที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ คงต้องเจออีกหลายดอก ส่วนผลสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกระแสตีกลับ เรียกคะแนนสงสารให้ประชาธิปัตย์หรือไม่ คงต้องรอติดตามกันวันเลือกตั้ง