Heartstopper - วัยรุ่น LGBTQIA+ : ความรัก และการยอมรับตัวตน
รีวิวซีรีส์ 'Heartstopper เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น' ซีรีส์แนวโรแมนติกใส ๆ โดนใจผู้ชม ดัดแปลงจากนิยายภาพ Heartstopper ของนักเขียน อลิซ โอเซแมน เจ้าของรางวัล Silver Inky Award ปี 2017
Heartstopper season 1 หรือ ชื่อภาษาไทย เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น ซีรีส์แนวโรแมนติกใส ๆ โดนใจผู้ชม ดัดแปลงจากนิยายภาพ Heartstopper ของนักเขียน อลิซ โอเซแมน เจ้าของรางวัล Silver Inky Award ปี 2017 (รางวัลวรรณกรรมวัยรุ่นที่มอบให้แก่นักเขียนต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวออสเตรเลีย) จากวรรณกรรมวัยรุ่นเรื่อง Radio Silence ที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงของตัวโอเซแมนเอง นอกจากนั้นยังมี Solitaire (2014), I was born for this (2018) และ Loveless (2020) ผลงานส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตช่วงวัยรุ่น เช่น เรื่องเพื่อน, การเรียน ตลอดจนเรื่องความสัมพันธ์กับคนรัก นิยายภาพ Heartstopper ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จน Netflix ต้องนำมาสร้างเป็นซีรีส์ความยาว 8 ตอน โดยนำมาจาก 2 วอลุ่มแรกของนิยายภาพ สตรีมวันแรกทาง Netflix เมื่อเดือนเมษายน ปี 2022 นำแสดงโดยโจ ล็อก (รับบท ชาร์ลี) และคิท คอนเนอร์ (รับบท นิค) กำกับการแสดงโดยยูโรส ลิน ผู้กำกับมากฝีมือที่ฝากผลงานไว้ในซีรีส์ Doctor Who และ Sherlock นั่นเอง
Heartstopper season 1 เปิดฉากที่การเจอกันของชาร์ลีและนิคที่ห้องเรียน ณ โรงเรียนมัธยมชายทรูแฮม ชาร์ลีในขณะนั้นโดนคนในโรงเรียนกลั่นแกล้ง เพียงเพราะเขาเป็นเกย์ โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนของนิค หนุ่มนักรักบี้สุดฮอตประจำโรงเรียน ชาร์ลีประทับใจนิคตั้งแต่แรกเห็น นิคเองก็เช่นกัน หลังจากนั้นทั้งสองจึงมีโอกาสพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ความรู้สึกดีต่อกันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองต่างเติมเต็มกันและกัน นิคทำให้ชาร์ลีมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในขณะที่ชาร์ลีทำให้นิครู้จักคำว่ามิตรภาพที่แท้จริง
เหตุการณ์ดำเนินไปจนถึงวันเกิดของเพื่อนนิค วันนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เมื่อชาร์ลีจูบนิค และนิคก็ไม่ปฏิเสธ ในที่สุดนิคก็รู้ใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วเขาชอบชาร์ลี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นเช่นไรต่อไป นิคจะยอมรับความรู้สึกของตนเองต่อชาร์ลีได้ไหม และจะเผชิญหน้ากับกลุ่มเพื่อนของตนเองที่ดูจะไม่ชอบเกย์อย่างไร ทางด้านของชาร์ลีจะทำอย่างไรเมื่อเพื่อนสนิทของเขาไม่เห็นด้วยที่เขาจะชอบนิค ชาร์ลีจะเลือกใคร ระหว่างความรักหรือเพื่อนที่คบกันมานาน และท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวความรักระหว่างชาร์ลีและนิคจะจบแบบ Happy Ending หรือไม่ ตามไปให้กำลังใจทั้งสองคนได้ที่ Netflix กันได้เลย
สิ่งที่น่าสนใจในซีรีส์ Heartstopper season1 คือ ตัวละครเอกชาร์ลีและนิค ทั้งสองเป็นภาพสะท้อนของวัยรุ่นที่กำลังมีความคิดเป็นของตนเอง กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และต่อสู้เพื่อตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเป็นบุคคลในกลุ่มความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQIA+ ถึงแม้ทั้งสองคนจะมีความรักให้แก่กันเช่นเดียวกับคู่รักที่เป็นรักต่างเพศ แต่กลับต้องเผชิญกับการไม่เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อนที่มองพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เพียงเพราะพวกเขาแสดงตัวว่าเป็น LGBTQIA+
ในทางกลับกันนิคและชาร์ลีกลับได้รับความใส่ใจและการยอมรับในความเป็นเกย์จากคนในครอบครัว ทำให้พวกเขามีความเชื่อมั่นที่จะเป็นตัวของตัวเองตามเพศที่เขาเป็น สงสัยขึ้นมาแล้วใช่ไหมว่า แท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งที่ซีรีส์ต้องการสื่อสารกับคนดูกันแน่ ภายใต้สถานการณ์ความรักที่ปั่นป่วนหัวใจของนิคและชาร์ลีมีอะไรซ่อนอยู่?
ถ้าหากพิจารณาดี ๆ วัยรุ่นที่อยู่ในกลุ่มความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQIA+ ในปัจจุบันต่างมีปัญหาคล้ายคลึงกัน คือ เพื่อน คนรอบข้าง ตลอดจนคนในครอบครัวไม่ยอมรับ โดยปกตินั้นวัยรุ่นมักเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นความคิด ความสามารถ รูปร่างหน้าตา หรือแม้กระทั่งเพศของพวกเขา ดังนั้นเมื่อวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ ถูกคนรอบข้างปฏิเสธ ความเป็นตัวตนหรือเพศที่พวกเขาเป็นอยู่ เมื่อทุกคนต่างไม่ยอมรับ และมองพวกเขาแปลกแยกจากคนอื่น ๆ ที่เป็นกลุ่มรักต่างเพศ มันจึงทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้มีแนวโน้มกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าเข้าสังคมในที่สุด
ปัญหานี้หรือเปล่าที่ทำให้ซีรีส์ Heartstopper ในฐานะที่เป็น Soft Power พยายามสื่อสารออกมาผ่านตัวละคร โดยเฉพาะคนในครอบครัวของทั้งชาร์ลีและนิค ให้ผู้ชมตระหนักว่าวัยรุ่นในกลุ่ม LGBTQIA+ ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งที่อยากได้การยอมรับว่าเขาดี เขาเก่ง เขาหล่อ เขาสวย หรือแม้กระทั่งการสนับสนุนความฝันของพวกเขา ดังเช่นวัยรุ่นคนอื่น ๆ “อย่าทำให้พวกเขารู้สึกว่า การที่เขาเป็น LGBTQIA+ มันแปลกแยกจากคนอื่น ๆ ในสังคมเลยนะ”


