รีวิว Netflix: The Sandman - ราชาแห่งความฝัน
เดอะแซนด์แมน (The Sandman) ซีรีส์แนวดาร์กแฟนตาซี จากค่าย Warner Bros. ที่ดัดแปลงมาจากคอมิกชื่อเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันกำลังเป็นที่โด่งดังบน Netflix งานนี้จะสนุกแค่ไหน? ต้องลองไปรับชมกันเอง
เดอะแซนด์แมน (The Sandman) เป็นทีวีซีรีส์แนวดาร์กแฟนตาซี จากค่าย Warner Bros. ดัดแปลงมาจากคอมิกชื่อเดียวกัน เขียนโดยนีล เกแมน เจ้าของผลงาน Black Orchid คอมิกที่ไปเข้าตาบรรณาธิการของค่าย DC จนทำให้เขาได้สร้างตัวละคร The Sandman หรือ Dream (เทพในตำนานพื้นบ้านของยุโรป) ในแบบฉบับของตัวเขาเอง นอกจากนั้นนีล เกแมนยังมีผลงานสร้างชื่ออีกหลายเรื่อง ได้แก่ American Gods, Good Omens, Caroline และ Stardust ซีรีส์เรื่องนี้ นำแสดงโดย ทอม เสตอร์ริดจ์ (รับบท Dream)
เดอะแซนด์แมนในแบบฉบับของนีล เกแมน เป็นเรื่องราวของ Dream หรือ Morpheus หรือ นิมิต ในภาษาไทย ที่ถูกจองจำมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ในขณะเดียวกันของประจำกาย 3 อย่าง ได้แก่ ทราย, หน้ากาก และทับทิม ยังถูกขโมยหายสาบสูญไปอีก หลังจากที่นิมิตหลุดจากที่กักขัง เขากลับมาสู่โลกแห่งความฝันของตนเอง แต่กลับพบว่าสิ่งต่าง ๆ ได้พังทลาย เป็นซากปรักหักพัง อีกทั้งเหล่าความฝันต่าง ๆ ยังได้หายตัวไป เขาต้องออกตามหาของประจำกาย 3 อย่างที่หายไป ทั้งที่อยู่ในโลกมนุษย์และนรก รวมทั้งกำราบเหล่าความฝันที่สร้างความปั่นป่วนให้กับมนุษย์ ทำให้ต้องเจอกับบทเรียนที่เปลี่ยนความคิดของเขาไปตลอดกาล เช่น การมีมิตรที่ดีสักคนเป็นเรื่องที่มีคุณค่า, ทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตนเอง ดังนั้นควรทำให้ดีที่สุด ส่วนนิมิตจะสามารถกอบกู้โลกแห่งความฝันและสร้างขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่นั้น โปรดติดตามและเอาใจช่วยเขาได้ทาง Netflix
ซีรีส์เดอะแซนด์แมนด์ที่ออกฉายในปี 2022 นี้ ถือเป็นเป็นซีซั่นแรก โดยหยิบยกเรื่องราว 15 จากทั้งหมด 75 ตอนมาสร้างเป็นซีรีส์ หลังจากที่พยายามสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง แต่กลับประสบความล้มเหลว การที่ Warner Bros.นำมาสร้างในครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ ตัวละครเดอะแซนด์แมนได้ออกมาโลดแล่นนอกคอมิก สร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งสำหรับวงการหนังแฟนตาซี ทั้งเอฟเฟกต์ ฉาก เสื้อผ้า และเนื้อเรื่องที่มีการตีความบางส่วนขึ้นมาใหม่อย่างน่าสนใจ และแฝงไปด้วยปรัชญาชีวิตมากมาย ขอยกตัวอย่างพอเรียกน้ำย่อย
อะไรคือความหมายของการเป็นราชา?
คำถามนี้เป็นคำถามที่นีล เกแมน นำมาคิดและต่อยอดไอเดียในการสร้างเดอะแซนด์แมนตามแบบฉบับของเขา หากจะสังเกตดี ๆในซีซั่นนี้ นิมิต ซึ่งเป็นราชาแห่งโลกความฝัน ถูกสร้างให้มีบุคลิคนิ่ง
ไร้รอยยิ้ม และยึดมั่นในความคิดของตนเองสูง หลังจากที่เขาเห็นโลกแห่งความฝันกลายสภาพเป็นซากปรักหักพัง เหล่าความฝันหนีหายไป ดังนั้นหน้าที่ราชาอย่างเขาคือการกอบกู้กลับมาและสร้างใหม่ การสร้างใหม่ในที่นี้ นิมิตต้องพบเจอกับความท้าทายต่าง ๆ มีหนึ่งฉากที่เขานั่งฟัง Hob Gadling ชายที่เขาต้องเจอทุก 100 ปี เล่าเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของโลกใน
ทุก 100 ปี ทำให้เขาเรียนรู้ว่า “ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา” และโลกแห่งความฝันของเขาย่อมต้องมีอะไรที่แตกต่างไปจากก่อนหน้าที่เขาจะถูกกักขัง ดังนั้นหลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย เขาจึงสร้างเหล่าความฝันขึ้นมาใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้เขาสร้างขึ้นมาจนพวกมันก่อความวุ่นวายให้กับมนุษย์ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่เรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนของนิมิต จากที่เห็นได้จากซีรีส์ซีซั่นนี้ และเป็นหนึ่งในตัวสร้างปมปัญหาในเรื่อง คือ การยึดติดในอำนาจวิเศษ มีหนึ่งฉากในซีรีส์ที่เป็นฉากที่นิมิตนั่งให้อาหารนก เขาบอกกับ Death พี่สาวของตนเองว่า เขารู้สึกว่างเปล่าทั้งที่เขามีของประจำกายที่มีอำนาจวิเศษอยู่ในมือ Death จึงให้บทเรียนเขาว่า
“หน้าที่ที่เขามีต่างหากคือสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด” หลังจากที่นิมิตได้บทเรียนทั้งการยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและการรู้จักหน้าที่ เหตุการณ์วุ่นวายต่าง ๆ จึงคลี่คลาย สงบลง
ทั้ง 2 สิ่งนี้หรือเปล่าที่นีล เกแมน ต้องการสื่อออกมาให้ผู้ชมได้เห็นว่าความหมายการเป็นราชานั้นเป็นควรเป็นไปในทิศทางใด ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ผู้เขียนเห็นว่าแง่คิดดังกล่าว คนธรรมดาอย่างเราก็สามารถนำมายึดถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้เช่นเดียวกัน…ว่าไหม?


