ดันบิ๊กซีขึ้นเบอร์2รองเซเว่น

เบอร์ลี่ยุคเกอร์ปั้นบิ๊กซีเป็นเบอร์ 2 รองจากเซเว่นอีเลฟเว่น หลังรุกหนักขยายสาขามินิ 200 แห่งปีนี้ บุกกัมพูชาปีหน้าต่อด้วยลาว

นายรามี ปีไรเนน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (บีเจซี) เปิดเผยว่า แผนระยะกลางบริษัทจะทำให้ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซีขึ้นเป็นผู้นำร้านค้าสะดวกซื้ออันดับที่ 2 รองจากเซเว่นอีเลฟเว่น เพราะภายหลังบีเจซีซื้อหุ้นบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ปีนี้ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 7,000-8,000 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมปีนี้ 1-1.1 หมื่นล้านบาท กระจายขยายสาขามินิบิ๊กซีถึง 200 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 475 สาขา ทำให้สิ้นปีนี้มี 675 สาขา

นอกจากนี้ เมื่อต้นปีบริษัทได้ลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพื่อรองรับสาขาที่เพิ่มขึ้นอีก 600 สาขา ทำให้มีศูนย์กระจายสินค้ารองรับการขยายมินิบิ๊กซีได้ถึง 1,600-1,700 แห่ง ซึ่งถ้าขยายสาขาได้ระดับนั้นก็จะเป็นอันดับ 2 โดยอันดับ 2 ปัจจุบันมีทั้งหมด 1,500 สาขา

อย่างไรก็ดี คาดว่าปี 2561 จะเริ่มเห็นบิ๊กซีขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเริ่มที่กัมพูชาก่อน จากนั้นจะขยายไปที่ สปป.ลาว

นายรามี กล่าวว่า กำลังซื้อ 5 เดือนที่ผ่านมายังไม่ดี อยู่ระหว่างการฟื้นตัว แต่คาดว่าไม่ฟื้นตัวเร็วนัก และปีนี้อัตราการเติบโตจากสาขาเดิมน่าจะติดลบ เพราะครึ่งปีแรกตัวเลขยังติดลบ โดยไตรมาสแรกติดลบมากถึง 20% แต่คาดว่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลังที่จะเติบโตได้ 1-2% บริษัทได้รีแบรนด์สินค้าหลายรายการ และเลิกสินค้าที่อัตรากำไรน้อย

สำหรับการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือน ก.ย.นี้ หากวันที่ 16 มิ.ย. ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ และบีเจซีต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นคืนอีก 1.7 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 225 ล้านบาท มูลค่ารวม 3,825 ล้านบาท โดยจะกู้เงินจากสถาบันการเงิน