ศาลฎีกาจำคุกขวัญชัยคดีทำร้ายพธม.ไม่รอลงอาญา

ศาลฎีกาจำคุก2ปีปรับ3.5แสนบาทคดี"ขวัญชัย" ทำร้าย"พันธมิตร" เมื่อปี51 ภรรยาเผยยังติดต่อสามีไม่ได้แต่เชื่อว่ากลับมารับโทษแน่นอนหลังบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ศาลจังหวัดอุดรธานี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีนายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายขวัญชัย สารคำ หรือ ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร กลุ่มคนเสื้อแดง ในความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันทำลายทรัพย์สิน เหตุเกิดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.51 ซึ่งการนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลังนายขวัญชัยจำเลย ซึ่งไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา

นายปิ่น ทักษิณ ทนายความนายขวัญชัยจำเลย เปิดเผยว่า ศาลฎีกาพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และปรับเป็นเงิน 350,000 บาท และสั่งปรับนายประกันที่ทำสัญญาไว้ 500,000 บาท ซึ่งเหตุที่ศาลฎีกาลดโทษของศาลอุทธรณ์ลง เพราะเห็นว่าจำเลยมีความผิดจริง แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิจารณาโทษสูงเกิน ส่วนคดีการหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จะมีการเข้ามาแก้ไขสถานการณ์อีกครั้ง เพราะครั้งนี้ศาลฎีกาพิพากษาให้ได้รับโทษไม่มากนัก ซึ่งหากนายประกันติดตามตัวจำเลยมาได้ อาจมีการพิจารณาเรื่องของการปรับนายประกันอีกครั้ง

นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับความเมตตาจากศาล ที่ลดโทษให้เหลือแค่ 2 ปี ซึ่งจะพยายามติดต่อกับทางนายขวัญชัย เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้คุยกับตัวนายขวัญชัยฯ แต่ทราบว่าไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เพราะเห็นโทรศัพท์มาออกอากาศสด ทางสถานวิทยุคลื่น 97.5 เม็กกะเฮิร์ต วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดของนายขวัญชัย และได้บอกกับว่าอยู่สบายและปลอดภัยดี ซึ่งโทรศัพท์ที่โทรมาไม่ได้โชว์เบอร์ จึงติดต่อกลับไปไม่ได้ จึงไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เพราะวันนั้นไปกรุงเทพฯไม่ได้ฟัง

“เรื่องที่นายขวัญชัยไม่มาฟังคำพิพากษา คิดว่านายขวัญชัยเองคงพิจารณาเองแล้วว่า หากประเทศไทยมีประชาธิปไตยเมื่อไหร่ คิดว่าน่าจะกลับมารับโทษ เพราะช่วงนี้ยังถือว่ายังไม่มีประชาธิปไตย ฉันเองก็คิดว่ายังไม่มีความยุติธรรม ที่นายขวัญชัยไปก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพราะขนาดอยู่ที่บ้าน ยังไม่ปลอดภัย"นางอาภรณ์ กล่าว

สำหรับคดีนี้ในการพิจารณาของศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาให้จำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปรับเพื่อเยียวยาเป็นเงิน 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ศาลอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ด้วยหลักทรัพย์ 500,000 บาท  นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย ได้ใช้หลักทรัพย์โฉนดที่ดิน มีสิ่งปลูกสร้าง ประกันตัวนายขวัญชัยจำเลย แต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค.นายขวัญชัยจำเลยไม่ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลจังหวัดอุดรธานีจึงนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งวันนี้