Z ฮอลลีวูด
เกาะกระแส Transformers 3 ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงระบบ 2 มิติ และ 3 มิติเร็วๆ นี้กันหน่อย ว่ากันว่า ที่ เมแกน ฟอกซ์
เกาะกระแส Transformers 3 ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงระบบ 2 มิติ และ 3 มิติเร็วๆ นี้กันหน่อย ว่ากันว่า ที่ เมแกน ฟอกซ์
โดย...มิยาโตะ
เกาะกระแส Transformers 3 ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงระบบ 2 มิติ และ 3 มิติเร็วๆ นี้กันหน่อย ว่ากันว่า ที่ เมแกน ฟอกซ์ โดนเฉดออกจากหนังเรื่องนี้ มิใช่เพราะเข้ากันไม่ได้กับผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ อย่างที่เป็นข่าว แต่กลายเป็นว่า ผู้อำนวยการสร้างใหญ่ (มาก) ของหนัง นามว่า สตีเวน สปีลเบิร์ก ต่างหากที่ไม่ปลื้มนางเอกสวยคม แต่ปากคอเหมือนขวานผ่าซากรายนี้เอาเสียเลย
เมแกน ด่าว่า ไมเคิล ผู้กำกับ อยากจะเป็นเหมือน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง ซึ่งทำให้คนใหญ่คนโตที่ชื่อ สตีเวน ซึ่งเป็นผู้กำกับชาวยิวและหนังยิว เรื่อง Schindler’s List และผู้ก่อตั้งสถาบันมูลนิธิยูเอสซี โชอาห์ (รวบรวมข้อมูลและเรื่องเล่าเกี่ยวกับผู้รอดชีวิตชาวยิวในรายนามของออสการ์ ชินด์เลอร์) ไม่พอใจสุดๆ
แหล่งข่าววงในบอกกับ นสพ.และเว็บไซต์เดลีเมล ว่า เขาได้ยินสตีเวน สปีลเบิร์ก ตะโกนเสียงดังลั่น หลังได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเมแกน “หล่อนจะรู้อะไรเกี่ยวกับฮิตเลอร์ ไล่เธอออกไปซะ ไมเคิล”
ไมเคิล เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้โกรธอะไรที่เมแกนไปเปรียบเขากับพวกเหยียดเชื้อชาติ ที่แท้คนที่โกรธน่ะมิใช่ผู้กำกับหนังไตรภาค Transformers แต่เขาคือ ผู้อำนวยการสร้างใหญ่ต่างหากล่ะ ... เรื่องราวเป็นอย่างนี้นี่เอง หนังเรื่องนี้ก็เลยเอวังได้ หนูโรซี ฮันทิงตัน-ไวต์ลีย์ นางแบบชุดชั้นในดังมาแสดงคู่ ไชอา ลาบัฟ แทน น่ะเอง... น่ะเอง
หายหน้าหายตาไปนานจากวงการ ทั้งหนังใหญ่ และเหมือนจะได้เลิกเล่นดนตรีไปแล้ว (มั้ง) คีอานู รีฟส์ กลับคืนสู่เกม ด้วยการออกหนังสือ Ode to Happiness
“ถ้าพระเจ้าประธานมะนาวให้ เราก็นำมาทำน้ำมะนาวดื่ม ... แต่ถ้าแฟนๆ ทำให้คุณกลายเป็นตัวตลกที่แสนเศร้าของฮอลลีวูด เราจะต้องเศร้าตามหรือ ทำไมไม่เอาคาแรกเตอร์นั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์” ประโยคจากหนังสือของหนุ่มหล่อฮอลลีวูด
ถึงเวลาแล้วที่จะนำความเศร้ามาปลุกปลอบกำลังใจ คีอานู รวบรวมเรื่องเศร้า เอามาเล่าแบบขำๆ ทำงานร่วมกับศิลปิน อย่าง อเล็กซานดรา แกรนต์ ที่มาช่วยวาดรูปประกอบให้เรื่องราวน่าอ่านยิ่งขึ้น
พระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่บอกว่า เขาปิ๊งไอเดียดีขณะที่อยู่ในครัว วันนั้นเขานัดเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ใครไม่รู้เปิดวิทยุ แล้วในวิทยุก็มีคนผลัดกันมาเล่าเรื่องเศร้าของตัวเอง “ดนตรีประกอบก็ย้อนยุคมากครับ คือ ผมเองก็มีช่วงชีวิตที่เศร้ามากๆ เหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้ คือมันแย่มากๆ เลยละครับ เหมือนตกอยู่ในห้วงเหวอะไรประมาณนั้น หลังจากวันนั้นผมก็เริ่มเขียนหนังสือ เขียนบรรยายความรู้สึกเศร้าแบบขำๆ แบบดรามาๆ ซึ่งใครๆ ก็สามารถมีอารมณ์ร่วมได้”
คีอานูบอกว่า ถ้าเสียงตอบรับดี ในอนาคตอาจจะจัดปาร์ตี้ศาลาคนเศร้า มาร่วมกันเล่าแบ่งบันประสบการณ์ความเศร้าแบบไม่จมปลักกัน ก็น่าจะดี (นะครับ)


