posttoday

แอน ก็อตลีบ นักสร้างสรรค์น้ำหอมระดับโลกเยือนไทย

28 มีนาคม 2554

ปฎิเสธไม่ได้ว่า น้ำหอม คือ เครื่องประทินผิวที่มีพลังเปี่ยมล้น สามารถช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้

ปฎิเสธไม่ได้ว่า น้ำหอม คือ เครื่องประทินผิวที่มีพลังเปี่ยมล้น สามารถช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้

 เรื่อง : วราภรณ์ / จุฑารัตน์ ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน

ปฎิเสธไม่ได้ว่า น้ำหอม คือ เครื่องประทินผิวที่มีพลังเปี่ยมล้น สามารถช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ รวมทั้งเพิ่มเสน่ห์และดึงดูดให้คนรอบข้างรู้สึกหลงใหลไปกับกลิ่นหอม เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน เมืองไทยได้ต้อนรับ แอน ก็อตลีบ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของน้ำหอมแบรนด์ดังๆ อย่าง มาร์ค จาคอบ คาลวิน ไคลน์ เจโล อีกทั้งเธอยังมีลูกค้าคนดังระดับโลกอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ ซาร่า เจสซิก้า ปาร์คเกอร์ บริตนีย์ สเปียร์ส ฯลฯ ต่างชื่นชอบน้ำหอมที่เธอปรุง

แอน เปิดเผยถึงการมาเมืองไทยครั้งนี้ เนื่องจากเธอร่วมมือกับลักส์ รังสรรค์ผลิตใหม่ “ลักส์ เมจิกเคิล สเปลล์” ที่ให้กลิ่นหอมละมุนจากดอกกล้วยไม้สีนิล และน้ำมันหอมชั้นดีจากต้นสน และ “ลักส์ ซีเครต บลิส ” ที่ให้กลิ่นหอมละมุนจากใบไวโอเล็ตอียิปต์ โดยได้จัดงานเปิดตัวที่โรงแรมคอนราด อย่างยิ่งใหญ่

แอน คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม หรือ Frageance Designer ที่ได้รับฉายาว่า “Nose” เกริ่นว่า ภูมิใจมากที่ได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ความหอมเป็นครั้งแรกและครั้งสำคัญกับลักส์ โดยเธอมีแนวคิดในการให้ความสำคัญกับความงามและความหอมของผิว และมีแรงบันดาลใจที่ต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์อาบน้ำ เพื่อเอาใจสาวๆ ด้วยการนำน้ำหอมระดับโลกมาเป็นส่วนสำคัญในครีมอาบน้ำ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของวงการครีมอาบน้ำ โดยใช้เวลาคิดค้นและบ่มฟักนานถึง 9 เดือน ในการคิดทำน้ำหอมผสมอยู่ในครีมอาบน้ำ แต่การทำครีมอาบน้ำเป็นเรื่องที่ท้าทายตรง ทำอย่างไรให้กลิ่นหอมติดกายเมื่ออาบน้ำเสร็จ

แอน ก็อตลีบ นักสร้างสรรค์น้ำหอมระดับโลกเยือนไทย

การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม หรือ Frageance Designer ไม่ใช่ใครก็เป็นได้ แต่จะต้องมีพรสวรรค์ในการจำแนกกลิ่น มีจินตนาการในการเลือกสรรส่วนผสมที่มีความหลากหลายผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว ตลอดจนมีเซ้นท์ในการสร้างสรรค์ส่วนผสมต่างๆ ให้กลายเป็นน้ำหอมที่ตอบโจทย์ตลาดและความต้องการของลูกค้าและบุคลิกของผู้ใช้ได้

จากนักบัญชี ที่ชีวิตของ แอน น่าจะหันเหไปทำงานเกี่ยวกับตัวเลข แต่ปรากฏ แอนได้รับโอกาสทำงานกับ เอสเต้ ลอเดอร์ ที่แรกที่เห็นพรสวรรค์ด้านการดมกลิ่นและจำแนกกลิ่นของเธอ จนทีมงานถึงกับทึ่ง “จมูก” ในการจำแนกกลิ่นที่ไม่ใช่ใครจะทำเหมือนเธอได้ แอนจึงทำงานร่วมกับวงการ คอสเมติก เช่น ราฟลอเรน อลิซาเบธ อาเดน เป็นต้น แอนได้ออกมาเป็นผู้บริหารในบริษัท คาลวิน ไคล์น และผลิตน้ำหอมตัวแรกในชีวิต คือ Occasion และน้ำหอมสำหรับผู้หญิงอย่าง CK1 ซึ่งเป็นตัวนำเสนอความเป็นเธอได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสร้างความใหม่และแตกตื่นให้กับวงการน้ำหอมในยุคนั้นอีกด้วย

“ความท้าทายการปรุงน้ำหอมคือ ปรุงอย่างไรให้น้ำหอมนั้นมีกลิ่นที่ถูกใจลูกค้า อย่าง ซาร่า เจสซิก้า ปาร์คเกอร์ ผู้คนจะติดภาพของสาวเปรี้ยว แต่ตัวจริงแล้วซาร่าชอบน้ำหอมกลิ่นผู้ชาย จึงเป็นเรื่องยากมากๆ ในการทำงานที่จะปรุงน้ำหอมให้ถูกใจลูกค้าไฮแอนด์กลุ่มนี้ จริงๆ การผลิตน้ำหอมที่เป็นแคร์โปรดักซ์ยากกว่าผลิตให้น้ำหอมชั้นนำ เพราะจะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยว เช่น customer trend รวมทั้งมีเรื่องของศาสนาซึ่งสาวเอเชียกับยุโรปก็แตกต่างกัน จึงเป็นงานค่อนข้างท้าทาย” การเป็นนักปรุงน้ำหอมที่ดีนั้น แอนบอกว่า ในโลกมีไม่เยอะ แต่ก็ถือเป็นจำนวนในระดับหนึ่ง ส่วนการจะเป็นนักปรุงน้ำหอมที่ดีนอกจากจะมีจมูกรับกลิ่นที่ดีแล้ว ก็ต้องมีหัวด้านการตลาดด้วย

“การผลิตน้ำหอมที่ยากคือการสร้าง signature หรือการสร้างเอกลักษณ์ของน้ำหอมนั้นเพราะว่าเวลาคุณดมน้ำหอมตัวนั้น คุณจะรู้ว่ามันเน้นบุคลิกลักษณะถึงอะไร ซึ่งยากที่จะทำให้คนดมแล้วรู้สึกมีกลิ่นหอม ดิฉันอยากให้แนวคิดของคนดมออกมาในแง่บวก ไม่อยากให้คนดมแล้วรู้สึกไม่หอม ก็อยากให้น้ำหอมที่ดิฉันคิดค้นทั้งมีกลิ่นหอมและมีบุคลิกเฉพาะตัวด้วย”

สำหรับความหอมที่เป็นเทรนด์ฮิตในขณะนี้ Trend Setter แห่งวงการน้ำหอมกล่าวว่า ต้องยกให้ 2 กลิ่นนี้ คือกลิ่นในตระกูล Floral เกิดจากการผสมผสานความหอมของส่วนดอกไม้นานาชนิด ที่ให้ความหอมหวาน อ่อนไหว และกลิ่นในตระกูล Oriental ที่เกิดจากการผสมผสานความหอมของส่วนผสมนานาชนิด อาทิ วานิลลา กำยาน และเครื่องเทศต่างๆ กลิ่นก็จะมีมิติของเสน่ห์ที่เย้ายวนให้กับผู้หญิง

แอน แนะกลิ่นหอมที่เหมาะกับสาวเอเชียว่า รสนิยมการเลือกน้ำหอมของสาวเอเชียมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เมื่อก่อนจะนิยมกลิ่นอ่อนๆ ในแนวดอกไม้ และกลิ่นเปรี้ยวของผลไม้นิดๆ แต่ปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเธอได้ศึกษามาตลอด และพบว่า ผู้หญิงใช้น้ำหอมมากขึ้น สาวไทยเองก็เช่นกัน เพราะน้ำหอมทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ส่วนใครที่คิดว่าใช้ครีมอาบน้ำและบอดี้ โลชั่น ที่มีกลิ่นหอมแล้วกลิ่นจะตีกับน้ำหอมหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า กลิ่นไม่ตีกันแน่นอน เพราะกลิ่นของครีมอาบน้ำและบอดี้ โลชั่น จะติดกับผิวกาย ส่วนน้ำหอมจะติดกับเสื้อผ้า และน้ำหอมแต่ละอย่างมีปฏิกิริยากับผิวกายคนเราแตกต่างกัน

เป็นนักปรุงน้ำหอม แต่แอนกลับไม่มีน้ำหอมกลิ่นใดโปรดเป็นพิเศษ แต่ด้วยงานก็ต้องฉีดน้ำหอมที่ตัวเองกำลังทำอยู่ เพื่อฟังฟีดแบคจากคนรอบข้าง วิธีทดสอบกลิ่นน้ำหอมอีกวิธีหนึ่งของเธอคือ ฉีดน้ำหอมในห้อง เพื่อทดสอบว่า น้ำหอมเมื่ออยู่ในอากาศแล้วจะมีกลิ่นเป็นอย่างไร

สุดท้ายนี้ แอนฝากถึงข้อผิดพลาดของการใช้น้ำหอมของสาวๆ ก็คือ การใช้น้ำหอมที่มากเกินไป ทำให้เกิดกลิ่นฉุน ซึ่งคนรอบข้างจะเป็นคนบอกได้ วิธีแก้ก็คือ ให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดกลิ่นออกไปบ้าง ส่วนข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงอีกอย่างคือ การใช้น้ำหอมขณะที่ไปออกกำลังกาย เพราะกลิ่นหอมจะปนกับเหงื่อจนตีกันยุ่งไปหมด

“ผู้หญิงควรจะมีกลิ่นหอมใดกลิ่นหอมหนึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไปที่ไหนใครก็จำได้ จึงไม่ควรฉีดน้ำหอมหลายๆ กลิ่น”

 

ข่าวล่าสุด

ไฟดับซานฟรานซิสโก ทำ Robotaxi ของ Waymo จอดแน่นิ่งทั้งเมือง