เคลพอทคิง เยาวราช ดันเมนูหม้อดิน-ซุปบำรุงตุ๋น 6 ชม.เจาะตลาดสูงวัย
เคลพอทคิง ร้านดังเยาวราช จับเทรนด์สังคมสูงวัย ดันเมนูหม้อดิน และซุปบำรุงตุ๋น 6 ชั่วโมง ใช้กลยุทธ์ดึงผู้สูงวัยให้ “ออกจากบ้านไปกินข้าว”
หากปี 2568 คือช่วงที่ไทยเข้าสู่ “สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์” ราว 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดในประเทศไทยเข้าสูงสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้มีแนวโน้มเผชิญกับปัญหาสุขภาพ และส่วนใหญ่อยากอยู่บ้านกับลูกหลาน และไม่เกิดการเข้าสังคมกับเพื่อนเหมือนสมัยก่อน
ตลาดอาหารและเครื่องดื่มจึงต้องปรับตัว หันไปโฟกัสไปผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้สูงวัยมีสุขภาวะทั้งร่างกายและจิตใจ (Healthy Ageing) โดยเกือบ 50% ของผู้สูงอายุไทยมองว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอาหารทั่วไป ยิ่งธุรกิจอาหารที่เข้าใจคนรุ่นพ่อแม่ ไปจนถึงรุ่นปู่ย่าตายายย่อมได้เปรียบ ทั้งในแง่เมนูที่ทานง่าย ดีต่อสุขภาพ บรรยากาศเป็นมิตร และประสบการณ์การกินอาหาร ที่ได้ออกจากบ้านมาพบปะกันบ่อยขึ้น ขณะเดียวกันวิจัยพฤติกรรมผู้สูงอายุยังชี้ว่า
“การออกมาทานอาหารนอกบ้านสัปดาห์ละครั้ง” ในวันหยุดกับครอบครัว หรือเพื่อน เป็นกิจกรรมที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศที่น่าเบื่อให้มีความสุขได้ โดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีรสชาติ คุณภาพ ความคุ้นเคย และการบริการที่ดี
ธาดา จารุธนเดช ผู้บริหารเคลพอทคิง กล่าวว่า เคลพอทคิง (Claypot King) เป็นร้านอาหารจีนต้นตำรับโตมากับครอบครัวที่รักการทำอาหาร ทุกมื้อต้องมีน้ำซุปหม้อใหญ่ตั้งอยู่กลางวงทานข้าวเสมอ เป็นหนึ่งจุดเด่นของร้านที่ทำให้ครอบครัว อากง อาม่า และลูกหลาน ได้ทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เพราะเป็นเมนูอาหารหลักที่คุ้นเคย มีวิธีการปรุงที่พิถีพิถันในหม้อดินที่คุมความสุกที่พอดี ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่ม ใช้ภูมิปัญญาสมุนไพรในการออกแบบเมนูอาหาร กลิ่นข้าวหอมอบอวล กินร่วมกันได้บนโต๊ะเล็ก ๆ อย่างใกล้ชิด ทำให้เข้าถึงสไตล์ที่ผู้สูงวัยและครอบครัวชื่นชอบ เพราะได้ลองอาหารหลากหลายจานโดยไม่หนักท้องเกินไป ทั้งยังมีปฏิสัมพันธ์กันบนโต๊ะอาหารอีกด้วย
เคลพอทคิงจึงเป็นธุรกิจอาหารที่จับ “เมกะเทรนด์สูงวัย” มีจุดแข็งด้านรสชาติ สุขภาพ และประสบการณ์ที่จับใจผู้สูงวัย พร้อมเป็นต้นแบบธุรกิจที่ต่อยอดได้ในเศรษฐกิจสีเงิน (Silver Economy) ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่ามื้ออาหารสามารถต่อยอดเป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่ยั่งยืนได้
เคลพอทคิงชูจุดแข็งตอบโจทย์สังคมสูงวัย
- เมนูหม้อดินคุ้นเคย รสชาติต้นตำรับ คุ้นเคย เหมือนได้ทานรสมือแม่ ด้วยสไตล์อาหารจีนกวางตุ้ง/ไหหลำที่คนไทยรุ่นใหญ่คุ้นปาก ดูธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความพรีเมี่ยม อาหารอบจนร้อนกำลังดี ข้าวร่วนแต่ชุ่ม ซึมซอส ทำให้ทานง่าย เหมาะกับผู้สูงอายุ
- อาหารแชร์ได้ หม้อดิน 1 ใบแบ่งทานได้ 2–3 คนสอดคล้องกับพฤติกรรมครอบครัวไทยที่ชอบสั่งหลากหลายแล้วแบ่งกันชิม “สั่งหลากหลาย-ชิมหลายอย่าง”
- ทานง่าย ไม่ซับซ้อน มีเมนูพร้อมภาพ ขนาดตัวอักษรใหญ่ ตัดสินใจง่ายสำหรับผู้สูงวัย
- สุขภาพมาก่อน ซุปตุ๋นบำรุงที่ใช้การตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ นาน 6 ชั่วโมง ไก่ตุ๋นโสม ไก่ดำตุ๋นยาจีน กระเพาะปลาสดตุ๋นหม้อดิน
- เมนูที่ดึงดูดใจทั้งครอบครัว
ด้วยความที่เป็นร้านอาหารจีนในรูปแบบ Home Cook ของครอบครัวไทยเชื้อสายจีน ภายใต้แนวคิดอร่อยและมีประโยชน์ และสามารถดึงผู้สูงวัยออกจาก “บ้าน” แต่ยังให้ความอบอุ่นเหมือนกินข้าวอยู่บ้าน มีเมนูแนะนำที่ผู้สูงวัยถูกใจ อย่าง ข้าวอบไก่หม้อดิน กับกุนเชียง และเห็ดหอมจานซิกเนเจอร์ของร้าน ใช้ข้าวหอมมะลิ ผสานไอน้ำจากหม้อดิน เนื้อไก่นุ่ม กุนเชียงหวานเค็มตัดกันดีเหมาะเป็น “จานกลาง” ให้ทุกวัยทั้งครอบครัว ซุปบำรุงตุ๋น 6 ชั่วโมง ซุปเช็งๆ บำรุง แบ่งทานได้ 3–4 ถ้วย ช่วยบาลานซ์มื้อที่มีคาร์บจากข้าว เหมาะกับครอบครัวเป็นอย่างมาก
สะพานเชื่อมสองเจเนอเรชัน
ธาดา กล่าวต่อว่า ในยุคที่ผู้สูงวัยมองหาอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ก็ยังโหยหารสชาติที่คุ้นเคย นอกจากผู้สูงวัย เคลพอทคิงยังจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสัมผัสรสชาติอาหารจีนต้นตำรับในบรรยากาศร่วมสมัย ร้านจึงกลายเป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างคนสองเจเนอเรชันบนโต๊ะอาหารเดียวกัน ทำให้ตลาดไม่ถูกจำกัดแค่ผู้สูงวัย แต่ครอบคลุมไปถึงครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมการกินแบบจีนดั้งเดิม และ “ทำให้การออกจากบ้านเป็นเรื่องง่าย” ได้ใจคนรุ่นพ่อแม่ เพราะรสชาติที่คุ้นเคย
เคลพอทคิง จึงเป็นหนึ่งร้านในเยาวราชที่ “เชื่อมยุค” ได้ดี ทั้งคนรุ่นใหม่ที่อยากลองของทานอาหารต้นตำรับ และผู้สูงวัยที่อยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้มื้อเย็นของครอบครัวกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง


