มาเก๊าผงาด: คาสิโนฟื้นตัว แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวพรีเมียม
เปิดรายได้คาสิโนมาเก๊าเดือนสิงหาคม พุ่ง 12% สะท้อนฟื้นตัว 91% ของก่อนโควิดฯ ชี้กลุ่มนักท่องเที่ยวพรีเมียมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
การกลับมาของมาเก๊า: เมื่อคาสิโนและเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
มาเก๊า เมืองที่ได้ฉายาว่าเป็น "ลาสเวกัสแห่งเอเชีย" กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากซบเซาไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มาเก๊าได้สร้างสถิติรายได้จากการเล่นคาสิโนพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประทับใจ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าธุรกิจการท่องเที่ยวและคาสิโนกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
คาสิโนฟื้นตัว รายได้พุ่งเกินคาด
จากรายงานของ Macau Gaming Inspection and Coordination Bureau (DICJ) ระบุว่า รายได้จากธุรกิจคาสิโนในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นถึง 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.2 หมื่นล้านปาตากา (ประมาณ 2.8 พันล้านดอลลาร์) โดยตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมคาสิโนของมาเก๊าฟื้นตัวได้ถึง 91% ของระดับก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ในปี 2019 และยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ไว้เล็กน้อย
เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ดึงดูดนักท่องเที่ยว
การฟื้นตัวของรายได้คาสิโนไม่ได้มาจากเพียงการพนันเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากกลยุทธ์ของมาเก๊าในการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เต็มรูปแบบ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวพรีเมียม โดยในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดนับตั้งแต่โควิด-19 ผู้ประกอบการรีสอร์ตคาสิโนในมาเก๊าได้จัดกิจกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่อง เช่น คอนเสิร์ต การแสดงละครเวที และการแข่งขันกีฬา
กิจกรรมที่โดดเด่นและช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาลคือ งานประกาศรางวัลระดับโลกของ Tencent Music Entertainment Group ที่มีศิลปินดังจากเกาหลีใต้และจีนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ซึ่งนักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปมองว่าเหตุการณ์นี้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าสู่มาเก๊าอย่างเห็นได้ชัด
จับตากลุ่มนักเสี่ยงโชคเกรดพรีเมียม
นอกจากกิจกรรมความบันเทิงแล้ว ผู้ประกอบการคาสิโนยังเดินหน้าลงทุนเพื่อเจาะกลุ่ม นักเสี่ยงโชคระดับพรีเมียม อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มจำนวนห้องพักในโรงแรมหรู เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังใช้จ่ายสูง ซึ่งผลสำรวจของซิตี้กรุ๊ปพบว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อผู้เล่นหนึ่งคนเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดิมพันน้อยอาจมีสัดส่วนมากขึ้น แต่ความต้องการของนักพนันระดับพรีเมียมยังคงแข็งแกร่ง
แนวโน้มในอนาคต
แนวโน้มของตลาดการท่องเที่ยวและคาสิโนในมาเก๊ายังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาววันชาติของจีนในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญต่อรายได้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาวของมาเก๊ายังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกหลายอย่าง เช่น นโยบายการเดินทางของจีน มาตรการควบคุมชายแดน และบรรยากาศความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่ยังคงเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
มาเก๊ากำลังแสดงให้เห็นว่าการปรับตัวจากเมืองคาสิโนเพียงอย่างเดียวไปสู่การเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่ครบวงจร เป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคหลังการระบาดใหญ่ได้จริง


