posttoday

เจาะหลังบ้านเจ้าพ่อพนัน เปิดศึกชิงมรดกพันล้าน

30 มกราคม 2554

กลายเป็น “ดรามา” ที่หักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า และดุเดือดยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่วนเวียนกับพล็อตชิงดีชิงเด่นกันระหว่าง “เมียสาว และลูกสาว” ในครอบครัวมหาเศรษฐีกาสิโน สแตนลีย์ โฮ... 

กลายเป็น “ดรามา” ที่หักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า และดุเดือดยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่วนเวียนกับพล็อตชิงดีชิงเด่นกันระหว่าง “เมียสาว และลูกสาว” ในครอบครัวมหาเศรษฐีกาสิโน สแตนลีย์ โฮ... 

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

สแตนลีย์ โฮ เจ้าพ่อแห่งวงการกาสิโนแห่งมาเก๊า เจ้าของเครือข่ายบริษัท SJM อันมหึมา ไม่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องการพลิกโฉมโลกแห่งการพนัน และนักลงทุนมือทองระดับพันล้าน (เหรียญสหรัฐ) เท่านั้น แต่ยังมีชื่อในเรื่องความเจ้าชู้ และเป็นที่ทราบกันดีว่า โฮ มีภรรยาอย่างน้อย 4 คน “อย่างเป็นทางการ” ทั้งนี้ยังไม่นับบ้านเล็กๆ ตามรายทางอย่างไม่เป็นทางการอีกนับไม่ถ้วน

เจาะหลังบ้านเจ้าพ่อพนัน เปิดศึกชิงมรดกพันล้าน โฮ กับ อินา เฉิน ภรรยาคนที่3 และลูกสาว

แต่ในวันที่ โฮ วัย 89 ปี เริ่มกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่งเข้าทุกที บรรดาบ้านใหญ่ บ้านเล็กบ้านน้อย และลูกหลานนับไม่ถ้วน เริ่มก่อปัญหาหนักอกไทคูนผู้เฒ่ารายนี้ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาอะไรอื่น นอกเสียจากลูกทั้ง 17 คน และเมียรักเริ่มชิงสมบัติพันล้าน ทั้งๆ ที่เจ้าของตัวจริงยังไม่ลาโลกไปไหน

กลายเป็น “ดรามา” ที่หักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า และดุเดือดยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่วนเวียนกับพล็อตชิงดีชิงเด่นกันระหว่าง “เมียสาว และลูกสาว” ในครอบครัวมหาเศรษฐี

แต่นี่คือเรื่องจริง และเข้มข้นกว่านิยาย!

เรื่องเกิดขึ้นนับตั้งแต่ สแตนลีย์ โฮ ต้องเข้ารับการผ่าตัดเกี่ยวกับสมองเมื่อปี 2009 ซึ่งยังผลให้ต้องรับการรักษานานข้ามปี และจนถึงบัดนี้แม้จะหายเกือบเป็นปกติ สภาพร่างกายของโฮก็ร่วงโรยเข้าไปทุกที ยังผลให้บรรดาวงศาคณาญาติจึงคิดชิงส่วนแบ่งจากความมั่งคั่งที่โฮสั่งสมมานานกว่า 4 ทศวรรษของการผูกขาด

อุตสาหกรรมการพนันในมาเก๊า ที่อาจนับเป็นสวรรค์ของนักพนันที่คึกคักไม่แพ้ลาสเวกัส

ความมั่งคั่งของโฮ ประเมินไว้ว่าอยู่ที่ราว 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังไม่นับทรัพย์สินที่เป็นหุ้นและสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่เปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจลับกับกลุ่มผิดกฎหมาย ซึ่ง โฮเข้าไปพัวพันด้วย จนยังผลให้ถูกรัฐบาลสหรัฐและแคนาดาจับตาเป็นพิเศษ

แค่มูลค่าของ SJM ทั้งบริษัทก็ปาเข้าไปถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปแล้ว

วิกฤตการชิงสมบัติ SJM เริ่มดุเดือดขึ้น เมื่อเดือนที่แล้ว แองเจลา เหลียง ภรรยาคนที่ 4 อดีตครูสอนเต้นรำ และมีลูกกับโฮด้วยกัน 5 คน ซึ่งบัดนี้มีอิทธิพลอย่างล้นเหลือ เพราะได้รับส่วนแบ่ง “จากมือของโฮ” เป็นหุ้นของ SJM ถึง 7.03% เมื่อรวมกับหุ้นเดิมที่มีอยู่แล้ว สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.63% ยังผลให้ภรรยาคนที่ 4 กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2

จึงไม่น่าแปลกใจที่ในเดือนถัดมามีข่าวการกระจายหุ้นของโฮ โดยฝีมือของลูกเมียรายอื่นๆ โดยที่ไม่ปรากฏชื่อของ แองเจลา เหลียง ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงกรรมการผู้จัดการของ SJM และรับหน้าที่บริหารงานแบบรายวันในเครือข่ายธุรกิจของโฮ จนได้รับฉายา “กวนอิมพันมือ”

การที่โฮมีจิตพิศวาสถึงขั้นยกหุ้นก้อนโตให้ อีกทั้งยังจัดแจงให้แองเจลามีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท จึงยังผลให้เกิดอาการอิจฉาตาร้อนอย่างรุนแรงในหมู่เมียและลูกๆ ซึ่งเข้ากันไม่ได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ตัวการสำคัญของความขัดแย้งปะทุขึ้นจากกลุ่มของ ลูซินา หลัม ภรรยาคนที่ 2 และ อินา เฉินอุนเฉิน ภรรยาคนที่ 3 ยังผลให้เมียทั้งสองรวมหัวกันแบ่งสมบัติของโฮโดยพลการ

ลูซินา ขณะนี้อยู่ในวัย 77 ปี เคยมีสัมพันธ์หวานชื่นกับโฮ เพราะมีรสนิยมชอบเต้นบอลรูมเหมือนกัน จนครั้งหนึ่งทั้งคู่ได้รับฉายาว่า “ราชาและราชินีเท้าไฟ” แต่บัดนี้ ลูซินา อพยพไปอยู่ที่แคนาดา หลังจากที่โฮทุ่มลงทุนที่นั่นเมื่อทศวรรษที่ 80

ฝ่าย อินา เฉิน ภรรยาคนที่ 3 ไม่มี “บารมี” มากนัก เธอคนนี้เคยเป็นพยาบาลให้กับภรรยาคนแรกของโฮ และมีลูกด้วยกัน 3 คน

มันสมองที่แท้จริงจึงน่าจะอยู่ที่เมียคนที่ 2 และแพนซี โฮ ลูกสาวคนแรกของเมียคนที่ 2 ซึ่งมีตำแหน่งบริหารในเครือเป็นถึงกรรมการผู้จัดการในเครือบริษัท ชุนตั๊ก โฮลดิง และเป็นที่ทราบกันดีว่า แพนซี ไม่กินเส้นกับเมียคนที่ 4 ของพ่อมาแต่ไหนแต่ไร

ผลของการแบ่งสมบัติกันเองก็คือ เมียคนที่ 3 ได้หุ้นของ SJM ไปครองถึง 8.9% แต่เมียคนที่ 2 รับไปถึง 15% อีกทั้งลูกๆ ทั้ง 5 คน ยังได้ยึดครอง ชุนตั๊ก โฮลดิง ไว้อย่างเบ็ดเสร็จ

แต่ดรามาเรื่องนี้คงยังไม่เข้มข้นพอ เพราะยังขาดภรรยาคนแรก ลูกครึ่งโปรตุเกสที่สวยหยาดเยิ้มจนเคยได้รับสมญาว่าเป็น “พริตตี วูแมน คนแรกของมาเก๊า”

เจาะหลังบ้านเจ้าพ่อพนัน เปิดศึกชิงมรดกพันล้าน โฮ กับ แพนซี

แม้ว่า คลีเมนไทน์ เลเตา ภรรยาคนแรกของโฮจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกๆ ไม่ยอมอยู่เฉย ปรากฏว่า ล่าสุด แองเจลา โฮ ลูกสาวของ คลีเมนไทน์ ออกมาโวยว่า ไม่เชื่อว่าพ่อจะไม่เจียดทรัพย์มาให้ลูกๆ ของเมียคนแรกสักสตางค์เดียว

ไม่เท่านั้น แองเจลา ยังลำเลิกบุญคุณแทนแม่ด้วยว่า หากไม่ได้ครอบครัวฝ่ายแม่ที่แสนจะมั่งคั่ง และมีเส้นสายแนบแน่นกับรัฐบาลโปรตุเกส ซึ่งขณะนั้นยึดครองมาเก๊าแล้วพ่อก็ไม่มีวันสร้างเนื้อสร้างตัวจากการได้รับสัมปทานผูกขาดธุรกิจการพนันได้
ความวุ่นวายนี้เริ่มเป็นที่ฉงนและสนใจของชาวโลก เมื่อ สแตนลีย์ โฮ กลับคำพูดตัวเองถึง 4 ครั้ง 4 ครา โดยครั้งแรกมีรายงานข่าวค่อนข้างจะเป็นทางการว่า มีการขายหุ้นของบริษัท SJM ต่อมาเจ้าตัวโอดครวญว่าถูกคนในครอบครัวแบ่งสันปันส่วนหุ้นไปโดยไม่ได้รับความเห็นชอบ และต่อมา โฮ กลับเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในฮ่องกงว่า ไม่มีปัญหาแย่งชิงสมบัติอย่างแน่นอน

แต่แล้วคล้อยหลังเพียงวันเดียว ทนายความของโฮ กลับเปิดเผยคำฟ้องร้องต่อศาล โดยมีจำเลยคือเมียคนที่ 3 และลูกของเมียคนที่ 2 อีก 5 คน ในฐานะแบ่งสมบัติอันเป็นหุ้นของบริษัทในเครือกันตามใจชอบ หากสรุปจากข่าวล่าสุดก็คือ ลูกสาวและเมียรักจะต้องถูกสามีฟ้องร้องเรียกสมบัติคืน

แต่ดูเหมือน “ดรามา” ระดับพันล้านเรื่องนี้จะไม่ยอมจบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน

ดีไม่ดี ศึกชิงสมบัติอาจทวีความดุเดือดยิ่งกว่านี้ ในวันที่ไม่มี สแตนลีย์ โฮ อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน