อร่อยแบบรอยบอส
รุ่นพี่ที่นับถือเดินทางกลับจากฮอลแลนด์พร้อมมี “Rooibos Tea” มาฝาก
รุ่นพี่ที่นับถือเดินทางกลับจากฮอลแลนด์พร้อมมี “Rooibos Tea” มาฝาก
โดย...รอยนวล
รุ่นพี่ที่นับถือเดินทางกลับจากฮอลแลนด์พร้อมมี “Rooibos Tea” มาฝาก
หลังทดลองชิมดูก็พบว่า … รสชาติชาชนิดนี้ช่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อย่างเอร็ดอร่อย
ณ ในใจกลางทวีปอัฟริกาใต้ ระหว่างขุนเขาและหุบเหว ไม่ไกลจากเคปทาวน์ มีผืนดินชะอุ่มเขียวด้วยพืชใบแหลมเล็ก นั่นคือ สมุนไพรอันทรงคุณค่าที่ชาวพื้นเมืองเรียกว่า รอยบอส หมายความถึง พุ่มไม้สีแดง ซึ่งพวกเขานิยมนำไปอบและชงเป็นเครื่องดื่ม ก่อนจะกลายมาเป็นเทรนด์ใหม่ล่าสุดที่นิยมกันในวงการชาทั่วโลก
ชาวพื้นเมืองรู้จักพืชนิดนี้มาเนิ่นนานแล้ว แต่กว่าชาวโลกจะรู้จัก รอยบอส ก็ราวปี 1904 เมื่อชาวรัสเซียนามว่า เบนจามิน กินสเบิร์ก ซึ่งย้ายถิ่นฐานไปอยู่อัฟริกาใต้ได้ลิ้มรส ด้วยความประทับใจ และอยากให้ใครๆ ได้ลองบ้างจึงนำชารอยบอสมาค้าขาย ก่อนกลายเป็นกระแสนิยมในเวลาต่อมา แต่เพราะพืชชนิดนี้เติบโตค่อนข้างยาก ต้องการดิน น้ำ และอากาศที่เหมาะสม ทำให้ไม่สามารถเจริญงอกงามในถิ่นอื่น รอยบอสจึงเป็นยังคงเป็นราวอัญมณีล้ำค่า
โดยทางเท็คนิค รอยบอส ไม่ใช่ชา แต่ก็คงจะเหมือนกับสมุนไพรบางอย่างของบ้านเราอย่างเช่น ใบหม่อน ซึ่งถูกเรียกว่า ชาเหมือนกัน ทั้งนี้เพราะขั้นตอนการหมักบ่มหรือการชงที่คล้ายกันเป็นเหตุ
ไม่ว่าจะเป็นชาแท้หรือเทียม รอยบอส ต้องถูกนำไปเข้าสู่กระบวนการเพื่อเปลี่ยนสีจากเขียวสดไปสู่แดงมะฮ็อกกานี ภายหลังมีการนำไปอบแบบเดียวกับการทำชาเขียว ทำให้ได้รอยบอสสีมรกต ซึ่งมีราคาแพงกว่าสีแดงมาก
เอกลักษณ์ในชารอยบอสที่ทำให้ใครๆ ชื่นชอบคือ สีแดง บวกกับรสหวานที่มีความมันนิดๆ ติดปลายลิ้น พร้อมกับกลิ่นคล้ายมอลต์หรือหญ้าหน่อยๆ จิบแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อคุ้นชินก็อาจจะหยุดดื่มไม่ได้ทีเดียว
นอกจากกลิ่นรสแล้ว ชาวตะวันตกผู้ตระหนักในเรื่องสุขภาพก็ชื่นชอบ รอยบอส เพราะมีคาเฟอีนและแทนนินผสมอยู่น้อยมาก ประกอบกับมีหลายผลการศึกษารายงานว่า มีแร่ธาตุซึ่งมีประโยชน์ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ลดเครียด ลดอาการนอนไม่หลับ บรรเทาโรคภูมิแพ้ ช่วยย่อย ฯลฯ เหล่านี้ก็เป็นเพียงผลการศึกษาไม่ฟันธงให้เชื่อ 100 เปอร์เซนต์
วิธีชงรอยบอสก็แบบเดียวกับการชงชาดำ ยุคหลังๆ ผู้ผลิตพยายามทำให้ผู้บริโภคสะดวกขึ้นโดยการนำไปลงถุง แค่ฉีกซองหย่อนใส่น้ำร้อนในถ้วยทิ้งไม่นานก็ดื่มได้
ชาวอัฟริกันดื่มรอยบอสแบบร้อนใส่มะนาว แต่ชาชนิดมีความหวานอยู่ในตัวแล้ว ถ้าอยากเพิ่มดีกรีก็สามารถใส่น้ำตาลและน้ำผึ้งลงไปได้
สูตรพิเศษสำหรับชาวท้องถิ่นคือ เอสเพรสโซแดง ซึ่งได้จากชงรอยบอสแบบเข้มข้มและเสิร์ฟเป็นช็อตแบบเอสเพรสโซ หรือนำไปผสมกาแฟเป็นลาเต้แดงหรือคัปปูชิโนแดง ถ้าจะชงเป็นชาเย็นก็ได้เหมือนกัน
ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์และแสนอัศจรรย์ รอยบอส จึงทรงคุณค่าสำหรับการได้ลิ้มลองและชื่นชม


