posttoday

คิดก่อนกด จบในภาพเดียว สงกรานต์ วีระพงศ์

26 มกราคม 2554

“ผมเปลี่ยนกล้องมาหลายตัว ไม่ได้เป็นเพราะกล้องบอบบาง แต่เป็นเพราะผมใช้งานหนักจริงๆ ผมอาจจะต้องกดไป 3,000-4,000 ภาพ เพื่อจับภาพช่วงเวลาอารมณ์สำคัญในงาน แต่การที่ผมเปลี่ยนกล้องมาหลายตัว ถ่ายภาพมามากมาย ทำให้ผมรู้จักคิดก่อนที่จะกดภาพภาพหนึ่งลงไป เพื่อให้ภาพนั้นสมบูรณ์ในภาพเดียว” สงกรานต์ วีระพงศ์ ช่างภาพอาชีพ เจ้าของรางวัลชนะเลิศแคนนอน โฟโต้ มาราธอน และคว้ารางวัลชนะเลิศในรอบสุดท้ายของการแข่งขันช่างภาพอาชีพ แคนนอน โฟโต้ คลินิก ที่ประเทศตุรกีอีกด้วย

“ผมเปลี่ยนกล้องมาหลายตัว ไม่ได้เป็นเพราะกล้องบอบบาง แต่เป็นเพราะผมใช้งานหนักจริงๆ ผมอาจจะต้องกดไป 3,000-4,000 ภาพ เพื่อจับภาพช่วงเวลาอารมณ์สำคัญในงาน แต่การที่ผมเปลี่ยนกล้องมาหลายตัว ถ่ายภาพมามากมาย ทำให้ผมรู้จักคิดก่อนที่จะกดภาพภาพหนึ่งลงไป เพื่อให้ภาพนั้นสมบูรณ์ในภาพเดียว” สงกรานต์ วีระพงศ์ ช่างภาพอาชีพ เจ้าของรางวัลชนะเลิศแคนนอน โฟโต้ มาราธอน และคว้ารางวัลชนะเลิศในรอบสุดท้ายของการแข่งขันช่างภาพอาชีพ แคนนอน โฟโต้ คลินิก ที่ประเทศตุรกีอีกด้วย

โดย....โยธิน อยู่จงดี

 

คิดก่อนกด จบในภาพเดียว สงกรานต์ วีระพงศ์

“ผมเปลี่ยนกล้องมาหลายตัว ไม่ได้เป็นเพราะกล้องบอบบาง แต่เป็นเพราะผมใช้งานหนักจริงๆ ผมอาจจะต้องกดไป 3,000-4,000 ภาพ เพื่อจับภาพช่วงเวลาอารมณ์สำคัญในงาน แต่การที่ผมเปลี่ยนกล้องมาหลายตัว ถ่ายภาพมามากมาย ทำให้ผมรู้จักคิดก่อนที่จะกดภาพภาพหนึ่งลงไป เพื่อให้ภาพนั้นสมบูรณ์ในภาพเดียว” สงกรานต์ วีระพงศ์ ช่างภาพอาชีพ เจ้าของรางวัลชนะเลิศแคนนอน โฟโต้ มาราธอน และคว้ารางวัลชนะเลิศในรอบสุดท้ายของการแข่งขันช่างภาพอาชีพ แคนนอน โฟโต้ คลินิก ที่ประเทศตุรกีอีกด้วย

สงกรานต์ เริ่มต้นการถ่ายภาพครั้งแรกในวัยประถมด้วยกล้องของพี่ชาย ก่อนที่เขาจะได้รับของขวัญอันมีค่าจากเพื่อนชาวต่างชาติ นั่นคือโอกาส และกล้อง SLR ตัวแรกในชีวิตคือกล้องแคนนอน เออีวัน เลนส์ 50 เอฟ 1.8 ที่เปลี่ยนชีวิตเขาให้เลือกเดินบนเส้นทางวงการถ่ายภาพ

เขาเรียนรู้และศึกษาเทคนิคการถ่ายภาพใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ผสานความรู้ทางนิเทศศิลป์ที่ได้เรียนมาผสมกับเทคนิคการคิดแบบครีเอทีฟที่ได้ทำงานในวงการโฆษณา ก่อนที่จะออกมารับงานช่างภาพอิสระด้วยเป้าหมายในชีวิตคือ การสร้างลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเขาเอง

จนถึงวันนี้ สงกรานต์ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและสากล ถึงฝีมือการถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งทุกภาพสามารถถ่ายทอดอารมณ์และเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ถึงขนาดที่ว่า สตีฟ แมคเคอรี หนึ่งในช่างภาพระดับโลก ได้เห็นภาพผลงานของเขายังโทร.ติดต่อให้มาถ่ายภาพด้วยกันที่เชียงใหม่ เมื่อครั้งมาเยือนเมืองไทยครั้งล่าสุด ซึ่งสงกรานต์ถึงกับบอกว่า นับเป็นเกียรติอย่างสูงในชีวิต ที่ครั้งหนึ่งได้นั่งรับประทานอาหารรวมโต๊ะพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองและถ่ายภาพร่วมกับช่างภาพในตำนานผู้นี้

“ทุกวันนี้กล้องดิจิตอลทำให้การถ่ายภาพนั้นง่ายขึ้น ทุกคนจะกดชัตเตอร์แล้วมาดูภาพที่หลังกล้อง แต่สำหรับผมแล้ว ผมจะเน้นเรื่องของการคิดก่อนถ่ายภาพ เป็นสิ่งที่คนใช้กล้องฟิล์มเคยทำกันมา เพราะเขาไม่รู้ว่าทุกครั้งที่เขากดภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ให้เมสเซจที่เราต้องการถ่ายทอดในภาพเป็นจุดเด่นออกมา หาองค์ประกอบภาพรองแล้วถ่ายทอดเรื่องราวให้จบในภาพภาพเดียว

บางครั้งการถ่ายภาพภาพหนึ่งออกมา ผมจะต้องคลุกคลีฝังตัวอยู่ในซับเจกต์ที่ต้องการถ่าย 2-3 วัน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและไม่แตะต้องเกี่ยวกับตัวเขา จนเขาแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าไม่มีตัวเราอยู่ในสถานที่แห่งนั้น เป็นสิ่งที่ผมทำทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ นักท่องเที่ยวทั่วไปอาจจะเลือกพักที่สวยๆ อย่างปาย แต่สำหรับผมแล้ว ผมเลือกที่อยู่กับชาวบ้าน คุณตาคุณยายหลายๆ วัน พูดคุยศึกษาวิถีชีวิต จนได้ภาพที่จะถ่ายทอดชีวิตเรื่องราวการทำนาแบบโบราณ ได้ภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกออกมาจากภาพถ่ายเหล่านี้

เพราะความฝันของผมอย่างหนึ่งที่ตั้งใจเอาไว้ก็คือ การเดินทางทั่วประเทศไทยเพื่อถ่ายภาพวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของความเป็นไทย เพราะผมรักความเป็นไทยของเรา” สงกรานต์เผยถึงเคล็ดลับการถ่ายภาพและความรู้สึกที่มีต่อสิ่งที่เขารัก เชื่อว่าหากใครได้เห็นผลงานของเขาแล้ว จะได้รับรู้สิ่งที่เขาต้องการสื่อออกมาทางภาพถ่าย

ปัจจุบันสงกรานต์มีผลงานภาพถ่ายลงทางเว็บไซต์มากมายหลายแห่ง ทั้งพันทิป เว็บ pixpros.net และมัลติพลายส่วนตัว ทุกภาพถ่ายของเขาจะมีข้อความถึงที่มาที่ไปของภาพและเทคนิคการถ่ายภาพแฝงเอาไว้

สงกรานต์ บอกเหตุผลว่า ในโลกอินเทอร์เน็ตคือแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ การที่เราลงภาพอะไรก็ตามเราควรที่จะให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์เข้าไปด้วยเป็นเรื่องของการให้ และเป็นประโยชน์ต่อช่างภาพคนอื่น ด้วยการส่งต่อโอกาสและความรู้ต่อๆ กันไป

วันนี้กล้อง เออีวัน ตัวแรกของสงกรานต์ที่ได้รับเป็นของขวัญ และเป็นกล้องที่เปิดโอกาสในชีวิตการถ่ายภาพของเขา ได้ถูกส่งต่อไปให้ลูกศิษย์คนโปรดที่ไม่มีทุนและอุปกรณ์ในการเรียน วันหนึ่งเมื่อลูกศิษย์คนนี้เรียนจบ จึงส่งภาพพอร์เทรตขาวดำรับปริญญา เป็นภาพจากกล้องเออีวันตัวนั้นเองมาให้ชื่นชม น้ำตาจึงเอ่อล้นด้วยความปีติ ความสุขของการให้ยิ่งใหญ่กว่าการรับ สงกรานต์เปรยคำสุดท้ายออกมาว่า “ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องเป็นผู้ให้โอกาสบ้าง”..

 

ข่าวล่าสุด

ถอดพฤติกรรมการเงินคนไทย 4 เจเนอเรชัน จาก Gen Z ถึง Baby Boomer