posttoday

โรคเอเอ็มดี (AMD) ระวังตาบอดเมื่อสูงวัย

18 มกราคม 2554

โรคเอเอ็มดี หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุ เป็นโรคที่พบในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะตาบอดได้.....

โรคเอเอ็มดี หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุ เป็นโรคที่พบในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะตาบอดได้.....

เรื่อง อณุศรา ทองอุไร

โรคเอเอ็มดี หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุ (Age-related macular degeneration หรือ AMD) เป็นโรคที่พบในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะตาบอดได้ จากการสำรวจโดยองค์การอนามัยโลกปี 2552 โรคเอเอ็มดีเป็นสาเหตุอันดับ 4 ของภาวะตาบอดในประชากรทั่วโลก โดยพบรองจากโรคต้อกระจก สายตาผิดปกติที่ไม่ได้รับการแก้ไขและต้อหิน

โรคเอเอ็มดี (AMD) ระวังตาบอดเมื่อสูงวัย

พญ.วรพร ชัยกิจมงคล คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า คนปกติเมื่อมองไปยังสิ่งต่างๆ รอบตัวจะเห็นภาพชัดเจนไม่มีเงาดำมาบดบังส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพ แต่ผู้ป่วยโรคเอเอ็มดีเมื่อมองไปยังสิ่งใดๆ ก็ตาม จะพบว่ามีเงาดำบังบริเวณกึ่งกลางของภาพเสมอ ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการเห็นภาพบิดเบี้ยวก่อน แล้วจึงมีอาการเห็นเงาดำบดบังภาพทีหลัง ส่วนสาเหตุของโรคนี้เกิดจากจุดรับภาพชัดของจอประสาทตา ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการมองเห็นบริเวณกึ่งกลางภาพ เกิดความผิดปกติขึ้น โดยแบ่งความผิดปกติเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดแห้งและชนิดเปียก

1.ชนิดแห้ง : เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั่วไป โดยจอประสาทตาจะเสื่อมและบางลง มีผลทำให้การมองเห็นแย่ลงอย่างช้าๆ โดยมากไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ซึ่งโรคเอเอ็มดีชนิดแห้งนี้จะสามารถพัฒนาไปเป็นชนิดเปียกได้

2.ชนิดเปียก : พบได้น้อยกว่าชนิดแห้งแต่เป็นชนิดที่มีอาการรุนแรงกว่า สามารถทำให้การมองเห็นแย่มากจนอยู่ในระดับเลือนรางหรือตาบอดได้ ซึ่งโรคเอเอ็มดีชนิดเปียกนี้จะมีเส้นเลือดงอกผิดปกติที่ใต้จอประสาทตา ทำให้เกิดเลือดออก หรือแผลเป็นที่จอประสาทตา ส่งผลให้ผู้ป่วยเห็นเป็นเงาดำบริเวณกึ่งกลางของภาพที่มองเห็น

นพ.ดิเรก ผาติกุลศิลา ภาควิชาจักษุวิทยา แม้โรคเอเอ็มดีชนิดเปียกจะมีการดำเนินโรคที่รวดเร็ว แต่ถ้าวินิจฉัยพบตั้งแต่ระยะแรกๆ ส่วนใหญ่จะสามารถควบคุมไม่ให้โรคลุกลามได้ โดยสามารถรักษาระดับการมองเห็น และผู้ป่วยบางส่วนอาจมี อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการมองเห็นจากโรคเอเอ็มดีขั้นรุนแรงให้กลับมามองเห็นชัดเท่าคนปกติได้ ซึ่งต่างจากโรคต้อกระจกที่สามารถผ่าตัดสลายต้อ โดยใส่เลนส์เทียม ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติอีกครั้ง นอกจากนี้โรคเอเอ็มดียังสามารถเกิดกับตาได้ทั้งสองข้าง อาจเกิดขึ้นกับตาข้างหนึ่งก่อน โดยผู้ป่วยยังไม่ทันสังเกตเพราะมีตาอีกข้างช่วยทดแทนการมองเห็น ทั้งนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมาพบแพทย์เมื่อโรคเกิดในตาข้างที่สองแล้ว จึงช้าเกินไปสำหรับการรักษาตาข้างแรก

ด้วยเหตุนี้การหมั่นสังเกตและเฝ้าระวังการเกิดโรคเอเอ็มดีด้วยตัวเองจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพบความผิดปกติและไปพบจักษุแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผลการรักษาดีกว่าตรวจพบเมื่อโรคลุกลามมากแล้ว ส่วนจะตรวจโรคเอเอ็มดีเบื้องต้นด้วยตัวเองได้อย่างไร? ...สามารถตรวจได้โดยใช้ตารางแอมสเลอร์ (Amsler Grid) ที่เห็นด้านล่าง ตามขั้นตอนดังนี้

1.ใช้มือปิดตาซ้าย ถือตารางแอมสเลอร์ในระยะอ่านหนังสือ ห่างจากตาประมาณ 1 ฟุต (ให้สวมแว่นสายตา แว่นอ่านหนังสือหรือคอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ)
2.ใช้ตาขวามองที่จุดดำเล็กๆ กลางภาพพยายามเพ่งมองที่จุดนี้ตลอดเวลา
3.สังเกตดูว่ามีตารางส่วนใดที่บิดเบี้ยว หรือมีเงาดำบังหรือไม่ถ้ามี...แสดงว่าคุณอาจจะเริ่มมีอาการของโรค AMD ควรรีบไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
4.ทดสอบตาซ้ายโดยเอามือปิดตาขวา และปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นอีกครั้ง

วิธีการรักษา
วิธีการรักษาโรคเอเอ็มดีชนิดเปียกที่มีในปัจจุบัน ได้แก่ การฉายแสงเลเซอร์ การรักษาด้วยโฟโตไดนามิก และการฉีดยา Anti-VEGF เข้าน้ำวุ้นลูกตา เป็นต้น โดยจักษุแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาและแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย

การป้องกัน
1.ควรสวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
2.ควรรับประทานอาหารจำพวกผักใบเขียว ผลไม้สด และอาหารจำพวกปลา โดยหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกไขมัน
3.ควรงดสูบบุหรี่
4.ควรออกกำลังกาย และควบคุมน้ำหนักและความดันโลหิต

การรับประทานวิตามินเสริมอาจช่วยป้องกันหรือชะลอความรุนแรงของโรคเอเอ็มดีได้แต่ควรปรึกษา จักษุแพทย์ เพราะการรับประทานเป็นเวลานานอาจเกิดผลข้างเคียงได้ หากสงสัยว่ามีอาการของโรคเอเอ็มดี ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการขยายม่านตาตรวจอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนการตรวจนี้จะส่งผลให้ตามัวลงชั่วคราว ไม่สามารถอ่านหนังสือหรือขับรถได้ราว 4-6 ชั่วโมงก่อนคืนสู่ภาวะปกติ จึงควรพาญาติหรือผู้ใกล้ชิดไปโรงพยาบาลด้วย เพื่อช่วยดูแลท่านขณะเดินทางกลับบ้าน

โรคเอเอ็มดี (AMD) ระวังตาบอดเมื่อสูงวัย

 

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?