กางกลยุทธ์ 3 ปี 'ยูนิโคล่' แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าเพื่อความยั่งยืนได้จริง
เสื้อผ้าถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่ใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล แต่สำหรับ 'ยูนิโคล่ ประเทศไทย' ซึ่งยืนหยัดด้านความยั่งยืนได้กางแผนงานในอีก 3 ปีถัดจากนี้ และประกาศว่าพร้อมเป็น 'บริษัทร่วมทุนที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย' จนทำให้ต้องรู้ว่าอะไรอยู่ในแผนงานนั้นบ้าง
ในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้ประกาศจุดยืนที่จะเดินหน้าแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ ผู้คน (people) โลก (planet) และชุมชน (community) ผ่านแนวคิดไลฟ์แวร์ (LifeWear) เพื่อเป้าหมายการเป็นเสื้อผ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น
โดยมีเป้าหมายและแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืนในปีงบประมาณ 2030 ของฟาสต์ รีเทลลิ่ง มากจากความคิดริเริ่ม 2 ประการคือ
- ผลิตเสื้อผ้าที่ดีที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม โดยกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่นำสมัย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเรา
- ผลิตเสื้อผ้าที่ดีสำหรับ ผู้คนและสังคม โดยส่งเสริมการจัดตั้งสภาพแวดล้อมการทำงานที่สามารถปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และสิทธิมนุษยชนของทุกๆ คน รวมถึงพนักงานของบริษัทและผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด ตลอดจนดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ทั้งในระดับสากลและระดับท้องถิ่นเพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้นร่วมกับลูกค้า
นอกจากนี้ สำหรับตัวบริษัทยูนิโคล่ (ประเทศไทย) เองก็ยังขานรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือย่อว่า SDGs) ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) โดยการกำหนดเป้าหมายระยะกลางของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 โดยเน้นที่
เป้าหมายที่ 3 – สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย
เป้าหมายที่ 14 – อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ 15 - ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
ผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่
- การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (IREC) ทั้งร้านสาขา และ สำนักงานใหญ่
- การช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น การบริจาคเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วม ที่จ.อุบล ในปี 2565 เหตุการณ์โกดังเก็บพลุระเบิดที่ อ. สุไหงโก-ลก จ. นราธิวาส และ การบริจาคหน้ากากอนามัยในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา
- สนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันการเก็บขยะ SPOGOMI World Cup
- UNIQLO Recycling Clothes Donation ภายใต้โครงการ RE.UNIQLO
สำหรับโครงการนี้ ส่งเสริมการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อรับรองการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและส่งเสริมสวัสดิการต่างๆ สำหรับทุกช่วงวัย รวมถึงสภาวะของธรรมชาติทั้งบนดินและใต้น้ำที่สะอาดและสมบูรณ์
โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการ UNIQLO Recycling Clothes Donation ในปี 2558 ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ปัจจุบัน ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้ส่งต่อเสื้อผ้าที่ได้รวบรวมจากลูกค้าทั่วประเทศมากกว่า 194,273 ชิ้น ให้กับองค์กรพันธมิตรต่างๆ ในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ ในปี 2566 กิจกรรม RE.UNIQLO ตั้งเป้าหมายที่จะส่งต่อเสื้อผ้ากันหนาวจำนวน 50,000 ชิ้น ผ่านองค์กรพันธมิตรต่างๆ ภายในเดือนธันวาคม
- แผนงานความร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ด้านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดภาวะโลกร้อนจากก๊าซเรือนกระจก
- เพิ่มสัดส่วนการผลิตสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) กำลังเตรียมเปิดตัว RE.UNIQLO STUDIO เป็นครั้งแรก ภายใต้คอนเซปต์ Repair/Remake/ Reuse/Recycle เพื่อเป็นการนำเสื้อผ้ากลับมาซ่อมแซมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ต่ออายุการใช้งาน และนำไอเทมโปรดกลับมาใช้หมุนเวียนอีกครั้ง โดย RE.UNIQLO STUDIO จะเปิดให้บริการที่ร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาแรกในประเทศไทย โดยนำเทคนิคการตัดเย็บด้วยมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือ ที่เรียกว่า Sashiko มาให้บริการด้วยเช่นกัน
ด้าน มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ยูนิโคล่ ยังคงเดินหน้ากิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการทำให้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคนไทยดียิ่งขึ้น เพราะผลลัพธ์ที่เราลงมือทำนั้นมีทั้งที่เห็นผลเลยในระยะสั้น และต้องรอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ให้คำมั่นว่าเราจะยืนหยัดกิจกรรมด้านความยั่งยืนพร้อมลงมือทำจริง เพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ไปด้วยกัน”
ทั้งนี้ เป้าหมายระยะกลางของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 นั้นมุ่งสู่ “บริษัทร่วมทุนที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย”


