TikTok/โต่วอิน อู่เหลียงเย่ หลี่หนิง พินตัวตัว ใครไม่รู้จัก? ยกมือขึ้น!
รู้จักแบรนด์จีนยักษ์ใหญ่อนาคตพุ่งแรง จากการจัดอันดับของ Brand Financ โดยแค่ 2 อันดับแรก คือ TikTok กับ ICBC ก็มีมูลค่ารวมกันกว่า 4.9 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่างบรายจ่ายประจำปีของประเทศไทยแล้ว
ข้อมูลจาก Brandfinance.com ระบุว่า:
- TikTok/Douyin (ติ๊กต่อก/โต่วอิน) เติบโตอย่างก้าวกระโดด นำตลาดประเทศและทั้งโลกในด้านการเติบโตของมูลค่าแบรนด์
- ICBC เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดของจีนด้วยมูลค่ากว่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
- การลงทุนที่เพิ่มขึ้นมีผลให้มูลค่าแบรนด์ State Grid เพิ่มขึ้นจนเติบโตเกิน 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
- มูลค่าแบรนด์ BYD มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัว
- Wuliangye (อู่เหลียงเย่) มูลค่าแบรนด์เติบโตขึ้น 12%
- Yili (อีลี่) มูลค่าแบรนด์พุ่งขึ้น 7 อันดับในขณะที่มูลค่าแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมยักษ์ใหญ่แดนมังกรยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- Huawei (หัวเว่ย) สามารถเอาชนะความท้าทายทางภูมิศาสตร์การเมือง กระทั่งเพิ่มมูลค่าแบรนด์ได้ถึง 29%
- มูลค่าแบรนด์ Li Ning (หลี่หนิง) พุ่งสูงขึ้น ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
- มูลค่าแบรนด์ Pinduoduo (พินตัวตัว) พุ่งสูงขึ้นเมื่อแบรนด์อิ่มตัวในตลาด
- ภูมิภาคปักกิ่งเป็นภูมิภาคชั้นนำสำหรับมูลค่าแบรนด์จีน
- ภูมิภาคกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊าสร้างพื้นที่แบรนด์ที่ใหญ่ขึ้นด้วยแบรนด์ชั้นนำ 125 แบรนด์
- เจ้อเจียงเป็นภูมิภาคที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับสามสำหรับแบรนด์ชั้นนำ
- ประเทศจีนอยู่ในอันดับที่ 3 ในการจัดอันดับ 2022 Global Soft Power Index
จับตาแบรนด์จีนมุ่งสู่อนาคต
ทุกปี Brand Finance จะทำการสำรวจแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 5,000 แบรนด์ และเผยแพร่รายงานประมาณ 100 ฉบับ จัดอันดับแบรนด์ในทุกภาคและทุกประเทศ โดยมีแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดและแข็งแกร่งที่สุด 500 อันดับแรกของจีนรวมอยู่ในรายงานการจัดอันดับ Brand Finance China 500 ประจำปี
มาดูที่มาและสตอรี่ของแบรนด์จีนที่ว่ามาทั้งหมดนี้กัน
TikTok/Douyin
แบรนด์ที่ชาวโลกรู้จักนี้เติบโตแบบไวรัล ในขณะที่แบรนด์จีนยักษ์ใหญ่อื่นๆ มีการเติบโตในระดับปานกลาง มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าในปีที่ผ่านมาทำให้ TikTok/Douyin กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก (ตามรายงานฉบับใหม่จาก Brand Finance ที่ปรึกษาด้านการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำ) ด้วยการเติบโตอย่างน่าตกใจถึง 215% มูลค่าแบรนด์ของแอปเพื่อความบันเทิงจึงเพิ่มขึ้นจาก 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เป็น 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ตอนนี้ TikTok/Douyin (อ่านว่าโต่วอิน) เป็นแบรนด์จีนที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับที่ 7 ติ๊กต่อกกลายเป็นชื่อที่ Smart Phone ทั่วโลกรู้จักและทุกบ้านต้องมีเหมือนของใช้ประจำครัว
ICBC
เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดของจีนด้วยมูลค่ากว่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แบรนด์ธนาคารของจีนยังคงแข็งแกร่งตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองของประเทศต่อไวรัสอย่างทันท่วงทีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในการพัฒนาระบบดิจิทัล ทำให้ธนาคารจีนสามารถมีส่วนร่วมกับธนาคารต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งลูกค้าของพวกเขา โดยมีการหยุดชะงักค่อนข้างน้อย
ในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของจีนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแม้ว่าสภาพแวดล้อมภายในประเทศและระหว่างประเทศจะซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในปีนี้ ICBC (มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 3% เป็น 7.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ทำให้ ICBC เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในจีน และเป็นแบรนด์ธนาคารที่มีมูลค่าสูงที้สุดในโลก
ปัจจุบัน ICBC มีบริษัทสาขาหลายร้อยแห่งในหลายสิบประเทศและภูมิภาค โดยให้บริการลูกค้าส่วนบุคคลกว่า ห้าร้อยล้านราย รวมถึงลูกค้าองค์กรหลายล้านรายทั่วโลก ICBC ยังคงโดดเด่นกว่าคู่แข่งและยังรักษาตำแหน่งผู้นำด้านมูลค่าแบรนด์นำหน้า China Construction Bank (ที่มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 10% เป็น 65,500 ล้านเหรียญสหรัฐ) และ Agricultural Bank of China (เพิ่มขึ้น 17% เป็น 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐ)
State Grid (บริษัทการไฟฟ้าแห่งจีน)
การลงทุนที่เพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับมูลค่าแบรนด์ State Grid ที่เพิ่มขึ้นซึ่งเติบโตเกิน 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ State Grid แบรนด์สาธารณูปโภค (ไฟฟ้า) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตหลังโควิด ด้วยมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 9% เป็น 60,200 ล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็นแบรนด์จีนที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 6 และเป็นแบรนด์สาธารณูปโภคที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ห้าติดต่อกัน
มากกว่านั้น State Grid ยังเป็นแบรนด์ที่ทรงพลังซึ่งคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยความมุ่งมั่นในการใช้พลังงานสีเขียวและประสบความสำเร็จในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (zero carbon emissions) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022
BYD
มูลค่าแบรนด์ BYD เพิ่มขึ้นสองเท่าในปี 2022 เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัว แบรนด์รถยนต์ของจีนแบรนด์นี้มีความก้าวหน้าอย่างมากและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2022 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
BYD มียอดขายเพิ่มขึ้น 232% ในปี 2021 ด้วยยอดขายมากกว่า 600,000 คัน ส่วน Haval (มูลค่าแบรนด์ 6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วเป็นอันดับสองของภาคยานยนต์ทั่วโลกที่ 55% แต่การเติบโตที่เร็วกว่าของ BYD ทำให้สามารถแซงหน้า Haval ในด้านมูลค่าแบรนด์ในปีนี้
ความนิยมที่เพิ่มขึ้นและการยอมรับรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตที่น่าประทับใจของแบรนด์เหล่านี้ โดย EV จีนมีสัดส่วนในจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายทั่วโลก แบรนด์จีนหลายแบรนด์กำลังมองหาประโยชน์จากโมเมนตัมด้วยการขยายธุรกิจไปทั่วโลก หลายแบรนด์เปิดตัวในยุโรปเมื่อปีที่ผ่านมา
Wuliangye (อู่เหลียงเย่)
มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 12% เป็น 28,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผู้ดำเนินการด้านสุราที่โดดเด่น ประสบความสำเร็จในการเติบโตของมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งสุดๆ Wuliangye ขยับอันดับเพิ่มขึ้น 2 อันดับจนกลายเป็นแบรนด์จีนที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับที่ 16 และด้วยมูลค่าแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นนั้นสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นกับการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของจีนตีคู่ไปกับคู่แข่งอย่าง Moutai (เหมาไถ) สุราจีนชั้นนำอีกแบรนด์ของโลกที่มีมูลค่าแบรนด์ลดลง 5% เป็น 4.29 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
Wuliangye ประสบความสำเร็จในการบรรลุมูลค่าแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาแบรนด์ชั้นนำของ ไป๋จิ่ว (Baijiu) หรือเหล้าขาวของจีน ในขณะที่มูลค่าแบรนด์ของ Moutai คู่แข่งลดลง ทั้งนี้ แบรนด์เหล้าขาวยักษ์ใหญ่นี้ได้ใช้กลยุทธ์ 'Internationalise Baijiu' แปลแบบง่ายๆ คือการทำให้เหล้าขาวกลายเป็นสุราสากล โดยได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม One Belt One Road ของจีน มีส่วนร่วมในกิจกรรมระดับนานาชาติมากมาย เช่น งานแสดงสินค้า งาน World Economic Forum ในเมืองดาวอส และงาน Boao Forum for Asia เป็นต้น
ซึ่งการมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวคือการส่งเสริมวัฒนธรรมไป๋จิ่วของ Wuliangye และนำไปสู่การขยายตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจัง
Yili (อีลี่)
พุ่งขึ้น 7 อันดับในขณะที่มูลค่าแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะแบรนด์อาหารที่มีมูลค่ามากที่สุดของจีน อันดับของ Yili ดีขึ้น 7 อันดับจากอันดับ 44 เป็น 37 ในการจัดอันดับแบรนด์ China 500 มูลค่าแบรนด์ของ Yili ได้ประโยชน์จากความสำเร็จของกลยุทธ์หลายแบรนด์ ด้วยการสร้างแบรนด์ย่อยหลากหลายแบรนด์ในตลาดที่แบ่งปันกันได้กำไรภายใต้แบรนด์ Yili Master
กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ Yili สามารถจัดการกับความต้องการหลากหลายของผู้บริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยการแบ่งประเภทแบรนด์และการวางตำแหน่งแบรนด์ นอกจากนี้การให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกิจกรรมสำคัญ ๆ ในประเทศจีน เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ก็มีส่วนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
Huawei (หัวเว่ย)
สามารถเอาชนะความท้าทายทางภูมิศาสตร์การเมืองจาก Trade War สู่ Tech War กระทั่งเพิ่มมูลค่าแบรนด์ได้ถึง 29% เป็น 7.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นสิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จครั้งสำคัญของแบรนด์จีน โดยมูลค่าแบรนด์พุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในสิบแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แม้จะมีรัฐบาลบางประเทศต่อต้านก็ตาม การเผชิญหน้ากันในระดับโลกนี้ได้จำกัดโอกาสทางการตลาดของ Huawei ทั่วโลก แต่มูลค่าของแบรนด์ Huawei เพิ่มขึ้นด้วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งในบริษัทเทคโนโลยีในประเทศและ R&D รวมถึงการหันไปมุ่งเน้นที่บริการคลาวด์
ก่อนหน้านี้ Huawei ผลิตโทรศัพท์โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Android ที่พัฒนาโดย Google เป็นหลัก แต่การพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ใช้ภาษาจีนเมื่อไม่นานมานี้ก็อาจนำไปสู่โอกาสทางมูลค่าแบรนด์ที่สำคัญสำหรับ Huawei ข้อนี้ส่งผลให้พนักงานของ Huawei ต้องมุ่งเน้นไปที่การจัดสรรอุปกรณ์ที่เสถียรและเครือข่ายที่ปลอดภัยนอกระบบนิเวศ Android ที่ Google ครอบครอง นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคแล้ว หัวเว่ยยังคงพัฒนามูลค่าแบรนด์อย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจและตลาดที่เกี่ยวข้อง การลงทุนนี้สะท้อนให้เห็นจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการวิจัยและพัฒนา ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนถึงกว่า 22% ของรายได้ทั้งหมด และส่งผลให้หนึ่งในพอร์ตโฟลิโอสิทธิบัตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ พอร์ตโฟลิโอทรัพย์สินทางปัญญาของ Huawei มีสิทธิบัตรที่ใช้งานอยู่มากกว่า 100,000 รายการ และเป็นผู้ได้รับสิทธิบัตรใหม่ที่ใหญ่ที่สุดเมื่อปีที่แล้วที่สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีนและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปอีกด้วย
Li Ning (หลี่หนิง)
มูลค่าแบรนด์ Li Ning พุ่งสูงตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้น โดยเพิ่มขึ้นถึง 68% เป็น 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ยังคงทะยานขึ้นสู่อันดับแบรนด์จีนที่มีมูลค่ามากที่สุด โดยรั้งอันดับแรกในปี 2020 และกระโดดขึ้นอีก 50 อันดับจากอันดับ 213 ในปีที่แล้วเป็น 163 ในปีนี้
ผลการวิจัยโดย Brand Finance พบว่าชื่อเสียงของ Li Ning ดีขึ้นทั้งในด้านการรับรู้และความนิยม โดยมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่คุ้นเคยกับแบรนด์และมีการรับรู้แบรนด์ที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน Li Ning ก็ใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงเชิงบวกนี้ไปสู่ยอดขายที่สูงขึ้น ทุกวันนี้ Li Ning กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่วัยรุ่นจีนยุคใหม่ยอมรับเป็นอันดับต้นๆ
Pin duo duo (พินตัวตัว)
มูลค่าแบรนด์ Pinduoduo พุ่งสูงขึ้นเมื่อแบรนด์อิ่มตัวในตลาด ในทำนองเดียวกัน Pinduoduo (มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 58% เป็น 9.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในด้านมูลค่าแบรนด์ โดยขยับขึ้น 22 อันดับจากการเป็นแบรนด์จีนที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับที่ 63 ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 41 โดยรวมในปีนี้
“พินตัวตัว (Pinduoduo)” เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งมุ่งเน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ชนบท
ว่ากันว่า การค้าขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ดุเดือดขึ้น หลังจาก “พินตัวตัว” แอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซจีน กลายเป็นอีกตัวเลือกใหม่ของการซื้อขายออนไลน์ ด้วยจุดเด่นในการขจัดทุนผูกขาดอำนาจพ่อค้าคนกลาง
“พินตัวตัว” เป็นแอปฯ ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ที่เริ่มต้นนำเสนอกลุ่มสินค้าด้านการเกษตรเป็นหลัก ออกแบบโดย Colin Huang (โคลิน หวง) หรือหวงเจิง เขาเกิดที่เมืองหางโจว เมืองเดียวกับ Jack Ma เจ้าของอาณาจักร ALEBABA และเขาก็เคยทำงานให้กับบริษัท Google และเคยเป็นผู้พัฒนาเกมมาก่อน
ปัจจุบัน Pinduoduo เป็นตลาดเฉพาะที่เชื่อมโยงผู้ผลิตทางการเกษตรกับผู้บริโภค และกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ในตลาดปัจจุบัน สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับแบรนด์ แต่เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินการที่โดดเด่นซึ่งถึงจุดอิ่มตัวทั่วประเทศ โอกาสในการเติบโตในอนาคตจึงถูกจำกัด ดังนั้น บริษัทจึงพยายามลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้สามารถบริการผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก brandfinance.com