4 หญิงเก่งไทย ติดโผ '50 Over 50 : Asia 2023'
4 หญิงไทย ติดอันดับ Forbes ผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี 50 คนจากเอเชียแปซิฟิกที่กำลังก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดรายใหม่ในธุรกิจและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ในภูมิภาค ทั้งผู้หญิงที่ทำงานด้านเทคโนโลยี เภสัชกรรม ศิลปะ และการเมือง พิสูจน์ว่าความสำเร็จเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย
Forbes จัดอันดับ 50 Over 50 : Asia 2023 สำหรับผู้หญิงเก่งที่อายุเกิน 50 ปีและประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจและสาขาอื่นๆ ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมีรายชื่อของหญิงไทย 4 คน ติดโผรายชื่อร่วมกับผู้หญิงเก่งคนอื่นๆในภูมิภาค ประกอบด้วย
วัลยา จิราธิวัฒน์
วัลยา ได้คุมศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาเมื่อต้นปี พ.ศ. 2562 โดยได้เป็นซีอีโอหญิงคนแรกของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือจิราธิวัฒน์) แผนธุรกิจของบริษัทมีความทะเยอทะยาน เธอจัดสรรเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายสาขาในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเพิ่มจำนวนศูนย์การค้าขึ้นอีก 1 ใน 3 เป็น 50 แห่งใน 5 ปีข้างหน้า และเพิ่มโรงแรม 34 แห่งจาก 3 แห่ง
ดาวนภา เพชรอำไพ
ดาวนภา ร่วมก่อตั้งเมืองไทย แคปปิตอล ในปี พ.ศ. 2535 โดยให้สินเชื่อรายย่อยแก่เกษตรกร คนงานโรงงาน และข้าราชการไทย โดยบริษัทมีสินเชื่อที่ได้รับการสนับสนุนจากสินเชื่อรถยนต์ เช่น รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และอุปกรณ์การเกษตร โดยมีสาขาประมาณ 6,550 สาขา โดยมีขนาดสินเชื่อเฉลี่ย 10,000 บาท (ประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีเพดานอัตราดอกเบี้ย 24% บริษัทออกสู่สาธารณะในปี 2014 ในช่วงปี 2561-2564 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 54% เป็นประมาณ 16 พันล้านบาท (ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์) ดาวนภา พร้อมด้วยสามีและผู้ร่วมก่อตั้ง ชูชาติ มีทรัพย์สินสุทธิ 2.1 พันล้านดอลลาร์ และถูกจัดเป็นอันดับที่ 12 ในการจัดอันดับ 50 Richest ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2565
พินรี สันพิทักษ์
พินรี เป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ทำงานด้านการวาดภาพ วาดภาพ ประติมากรรม สิ่งทอ และเซรามิค งานของเธอมุ่งเน้นไปที่การแสดงร่างกายของผู้หญิง: ภาชนะ เส้นโค้งและเหนือสิ่งอื่นใดคือ หน้าอก เธอได้รับการเรียกว่า "ศิลปินหน้าอก" ศิลปะของเธอได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นแม่และความเป็นผู้หญิงตั้ งแต่ลูกชายของเธอเกิดในปี 1993 พินรีได้กระตุ้นวงจรศิลปะระดับโลก และในปีนี้เมื่ออายุ 61 ปี เธอได้แสดงในนิทรรศการหลักของ Venice Art Biennale 2022 ชื่อว่า "The Milk of Dreams" และที่ Art Basel Miami Beach เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ
ณัฐชไม เริ่มงานจากธุรกิจการเงินของครอบครัว จนในปี 2544 ได้ร่วมก่อตั้งบริษัทเครื่องดื่มให้พลังงาน คาราบาว ปัจจุบันมีวางจำหน่ายทั่วประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน คาราบาวมักจะจัดงานที่มีแบรนด์และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่นเครื่องดื่มเสริมที่มีคอลลาเจน ธุรกิจของคาราบาวได้ขยายไปยังประเทศจีนด้วย ทำให้ทรัพย์สินของณัฐชไม เพิ่มขึ้นเป็น 925 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมลงนามในสัญญาความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย