posttoday

ยุติปัญหาด้วยกระบวนการแห่งพระธรรมวินัย หากมีข้ออธิกรณ์เกิดขึ้น (จบ)

07 มกราคม 2554

ปุจฉา : กราบขอโอกาสส่งสำเนาบทสัมภาษณ์ในนิตยสารแพรว ฉบับ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๓ อ่านเป็นข้อปุจฉา กราบอาราธนาท่านพระอาจารย์เมตตาวิสัชนาด้วยเจ้าค่ะ ด้วยความกังวลที่ว่า สัทธรรมปฏิรูปกำลังปรากฏชัด จากคำสอนที่ทำให้ไม่มั่นใจ และจากสื่อที่ช่วยกันนำมาเผยแผ่ โดยอาจจะไม่ได้กลั่นกรอง หรือไม่มีความรู้มากพอที่จะกลั่นกรอง

ปุจฉา : กราบขอโอกาสส่งสำเนาบทสัมภาษณ์ในนิตยสารแพรว ฉบับ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๓ อ่านเป็นข้อปุจฉา กราบอาราธนาท่านพระอาจารย์เมตตาวิสัชนาด้วยเจ้าค่ะ ด้วยความกังวลที่ว่า สัทธรรมปฏิรูปกำลังปรากฏชัด จากคำสอนที่ทำให้ไม่มั่นใจ และจากสื่อที่ช่วยกันนำมาเผยแผ่ โดยอาจจะไม่ได้กลั่นกรอง หรือไม่มีความรู้มากพอที่จะกลั่นกรอง

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

ปุจฉา : กราบขอโอกาสส่งสำเนาบทสัมภาษณ์ในนิตยสารแพรว ฉบับ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๓ อ่านเป็นข้อปุจฉา กราบอาราธนาท่านพระอาจารย์เมตตาวิสัชนาด้วยเจ้าค่ะ ด้วยความกังวลที่ว่า สัทธรรมปฏิรูปกำลังปรากฏชัด จากคำสอนที่ทำให้ไม่มั่นใจ และจากสื่อที่ช่วยกันนำมาเผยแผ่ โดยอาจจะไม่ได้กลั่นกรอง หรือไม่มีความรู้มากพอที่จะกลั่นกรอง

กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างที่สุด

ศิษย์ธรรมส่องโลก

วิสัชนา : แต่จากสภาพความเป็นจริงกลับปรากฏการแตกแยกเกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ จนปรากฏเป็นนิกายต่างๆ มากมาย ๑๘ นิกาย แค่เพียง ๑๐๐ ปีเศษ ภายหลังพุทธปรินิพพาน และที่สำคัญคือ การดำเนินต่อไปของข้ออธิกรณ์เหล่านั้น ซึ่งยังไม่ยอมยุติตามมติของสงฆ์ ด้วยการตั้งคณะสงฆ์ขึ้นมาตามความเห็นของพวกตนอีกคณะหนึ่ง และแข่งขันกันเอง เพื่ออวดอ้างว่า “พวกเธอผิด พวกฉันถูก” คล้ายๆ กับกรณีพระภิกษุโกสัมพีที่แตกแยกกันจนชาวบ้านเบื่อหน่าย ไม่ใส่บาตรพระสงฆ์เหล่านั้น จนอดอยากตัวเหลืองกันไปเป็นแถวๆ ในที่สุดแพ้ภัยความหิวที่ก่อให้เกิดความทุกข์ จึงได้สติกลับคืนมา ได้ระงับข้ออธิกรณ์ในเวลาต่อมา...

กล่าวโดยสรุป สำหรับกรณีข้ออธิกรณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นในเขตพระพุทธศาสนา ก็ต้องระงับอธิกรณ์ที่เป็นปัญหานั้นให้สงบลง เรียกว่า อธิกรณสมถะ มีอยู่ ๗ วิธี ๒ วิธีแรก คือ สติวินัย และ อมูฬหวินัย เป็นสิทธิพิเศษที่สงฆ์ให้แก่พระอรหันต์ และพระภิกษุผู้วิกลจริต เพื่อมิให้ผู้ใดกล่าวหาว่า ต้องอาบัติ อีก ๔ วิธี คือ ตัสสปาปิยสิกา, ปฏิญญาตกรณะ, ติณวัตถารกะ, เยภุยยสิกา โดยการแก้ปัญหาทั้ง ๔ วิธีนี้ จะต้องกระทำด้วยสัมมุขาวินัย คือ การกระทำในที่ประชุมสงฆ์ มีบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่พร้อมหน้า และพิจารณาตามหลักแห่งพระธรรมวินัย ซึ่งในกรณีที่พระภิกษุละเมิดสิกขาบท จะกำหนดโทษตามที่บัญญัติไว้ในพระวินัย หากเป็นการกระทำที่ไม่ได้บัญญัติเป็นสิกขาบทไว้ แต่เป็นเรื่องไม่สมควร และมีโทษต่อส่วนรวม สงฆ์อาจพิจารณาลงโทษด้วยวิธีการต่างๆ... ทั้งนี้ โดยมีจุดประสงค์ของการลงโทษ เพื่อต้องการดำเนินการรักษาพระธรรมวินัยไว้ให้เข้มแข็ง และเพื่อความสามัคคีในหมู่สงฆ์ แต่ทั้งนี้ต้องถือพระธรรมวินัยเป็นใหญ่ มิใช่ถือบุคคลเป็นใหญ่... การทำหน้าที่รักษาความถูกต้อง จึงต้องทำด้วยความเป็นกลาง ตรงต่อพระธรรมวินัย เมื่อมีปัญหาใดเกิดขึ้นจึงต้องร่วมกันชำระแก้ไขเพื่อให้เกิดความถูกต้องทันที เพื่อประโยชน์แท้จริงของพระพุทธศาสนา

อนึ่ง สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นของพระภิกษุในเรื่องพระธรรมวินัยสำหรับสงฆ์ไทยนั้น ก็คงจะต้องเป็นเรื่องขององค์กรปกครองสงฆ์ หรือมหาเถรสมาคม ที่จะต้องรีบเร่งดำเนินการในทุกอธิกรณ์ หรือในทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ปฏิบัติที่มีกฎหมายพระสงฆ์รับรองไว้แล้ว โดยสามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการแห่งพระธรรมวินัยตามที่กล่าวมา... ดังนั้น หากสาธุชนมีข้อข้องใจใดๆ หรือมีความเห็นอันใดที่จะแสดงในกรณีที่มีความเห็นว่า เกิดอธิกรณ์ขึ้นแล้วในหมู่สงฆ์ ก็สามารถส่งเรื่อง หรือแจ้งเรื่องไปยังมหาเถรสมาคมได้เลย ซึ่งมีคณะสงฆ์ผู้ปฏิบัติงานรับเรื่องราวต่างๆ อยู่แล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการเขียนวิพากษ์กันไป ว่ากล่าวกันมา ตามความเห็นของแต่ละฝ่าย ซึ่งนอกจากจะไม่สามารถยุติปัญหาได้แล้ว กลับเป็นข่าวออกไปทำลายองค์กรพระพุทธศาสนาให้เสียหายมากขึ้น... โดยเฉพาะความแตกแยกของพุทธศาสนิกชนที่แบ่งฝ่ายแบ่งพวกไปตามความแตกต่างในทิฏฐิและข้อปฏิบัติ

อาตมาจึงขอสงวนสิทธิไม่เขียนวิพากษ์ในกรณีที่นำไปสู่ความขัดแย้ง แต่ขอชี้แนะให้นำเสนอต่อองค์กรสงฆ์ หรือมหาเถรสมาคม ในทุกๆ อธิกรณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่พระภิกษุ เพื่อการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการแห่งพระธรรมวินัย ดูจะเหมาะสมและถูกต้องที่สุด อีกทั้งยังให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง เพื่อนำปัญหาสู่ข้อยุติ... เพื่อประโยชน์แห่งพระพุทธศาสนา

ขอเจริญพร

 

ข่าวล่าสุด

จบศึก AGM การบินไทย! ผู้ถือหุ้นไฟเขียวบอร์ด 15 คน คลังคุมเกมเกือบทั้งกระดาน