ลุงวัย60ปลูกผักขายส่งลูกสาว3คนเรียนจบปริญญา
เผยเคล็ดลับลุงวัย60จบป.4ทำเกษตรส่งลูกสาว3คนเรียนจบปริญญาตรี ต้องศึกษาเรียนรู้เน้นปลูกพืชผสมผสานหลายอย่างและดูความต้องการตลาดเป็นหลัก
นายยวด พลอยรัมย์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านโคกตาล ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เริ่มทำการเกษตรมาตั้งแต่เรียนจบชั้น ป.4 เพราะฐานะครอบครัวยากจนจึงไม่ได้เรียนต่อ แต่ไม่ได้ย่อท้อต่อโชคชะตา ยั'มุ่งมั่น ขยัน อดทนในการทำเกษตรมาตลอดทั้งทำนา และปลูกพืชผักขาย จนส่งลูกสาว 3 คนเรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโท ปัจจุบันลูกสาวคนโตก็ได้บรรจุเป็นข้าราชการครู คนกลางทำธุรกิจส่วนตัว และคนเล็กเป็นพยาบาลที่ จ.นนทบุรี ถือเป็นความสำเร็จและภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อ
แต่ปัจจุบันคุณลุงยวดก็ยังคงยึดอาชีพปลูกผักขายด้วยการเช่าพื้นที่ว่างเปล่าใกล้กับห้วยจรเข้มาก ประมาณ 15 ไร่ ปลูกพืชผสมผสานหลายชนิด อาทิ มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือเทศ แตงกวา พริก แมงลัก มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ อีกหลายชนิด จนเกือบเต็มพื้นที่ 15 ไร่ โดยจะปลูกแบบระบบน้ำหยด เก็บผลผลิตขายทั้งปลีกและส่ง ก็มีจ้างชาวบ้านในพื้นที่มาช่วยปลูก และเก็บผลผลิตส่งตลาด ช่วงนี้ก็จะมีรายได้จากการปลูกผักขายวันละ 2,000 – 3,000 บาท หักต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าเช่าพื้นที่ และคนงานแล้ว ก็จะมีกำไรอยู่วันละกว่า 1,000 บาท แต่หากช่วงไหนพืชผักราคาแพงก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามกลไกตลาด
"การทำเกษตรต้องขยัน อดทน หมั่นเรียนรู้และหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง เพราะอาชีพเกษตรไม่ใช่เรื่อยง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ต้องศึกษาวิธีปลูก การให้น้ำ ให้ปุ๋ยที่เหมาะสม ที่สำคัญต้องศึกษาตลาดให้ดี ควรเลือกปลูกพืชผักตามความต้องการของตลาดในช่วงนั้นๆ เป็นหลัก และอย่าปลูกพืชชนิดเดียว ให้ปลูกหมุนเวียนไปเรื่อย เพราะเมื่อหลายปีก่อนลุงเคยมีรายได้จากการเก็บแตงกวาส่งขายถึงวันละเกือบ 3 หมื่นบาทมาแล้ว เพราะเป็นช่วงที่ตลาดต้องการและราคาสูง แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ดีใจ แต่ทุกวันนี้ก็จะได้วันละประมาณ 2,000 – 3,000 บาท แต่ก็ถือว่ายังอยู่ได้ เพราะลูกสาวทั้ง 3 คนก็เรียนจบและมีงานทำแล้ว"


