องค์กรจะยั่งยืน มิใช่แค่การปรับเปลี่ยน (Change) แต่มันต้องปฏิรูป (Transformation) ตอนที่ 1
โดย ภก.ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล สถาบันอินทรานส์ Hipot – การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการศาสตร์ชีวิตองค์รวมเพื่อความมั่นคงยั่งยืน
องค์กรจะยั่งยืน มิใช่แค่การปรับเปลี่ยน (Change) แต่มันต้องปฏิรูป (Transformation) ตอนที่ 1
เพราะโลกไม่แน่นอน อ่อนไหว ซับซ้อน คลุมเครือ การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันสูงและทวีความรุนแรงมากขี้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนโฉมรูปแบบการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญเรื่องการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อมาสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน รวมทั้งการลดต้นทุนและการให้บริการเชิงรุก
ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงต้องปรับตัว แต่การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องก้าวข้ามจากมุมมองของแค่การปรับเปลี่ยน (Change) มาเป็นการปฏิรูป (Transformation) คำถามคือ เราต้องปฏิรูปอะไร อย่างไร องค์กรจึงจะอยู่รอด
1. การปรับมุมมองจากการพัฒนาเพื่อ “ความมีประสิทธิภาพ” มาเป็นการพัฒนาเพื่อ “ความยั่งยืน” เพราะชีวิตมีมิติของเวลา มันดำเนินไปอย่างสืบเนื่องเชื่อมโยง ดังนั้น การพัฒนาจึงต้องก้าวข้ามจากมุมมองที่คับแคบ เพียงเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพ มาเป็นการพัฒนาในมุมมองที่กว้างไกล เพื่อการเติบโตอย่างสมดุล เข้มแข็ง มั่นคงยั่งยืน
2. การก้าวข้ามจากการพัฒนา “คน” มาเป็นการพัฒนา “มนุษย์” เพราะองค์ประกอบสำคัญที่สุดขององค์กรคือ มนุษย์ มนุษย์มีชีวิต ชีวิตต้องการคุณค่าและความหมาย ดังนั้น การบริหารองค์กรให้ยั่งยืนจึงต้องก้าวข้ามจากการพัฒนา “คน” มาเป็นการยกระดับ “คุณค่าความเป็นมนุษย์” จึงจะสามารถระเบิดศักยภาพภายในของบุคลากรออกมาได้อย่างเต็มที่ สามารถนำตนเองได้ เพื่อเล่นเชิงรุก
3. การยกระดับการเปลี่ยนแปลงจาก “การปรับแต่งพฤติกรรม” มาเป็น “การพัฒนาที่ฐานรากชีวิต” เพราะความยั่งยืนไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ ด้วยเพียงการปรับแต่งพฤติกรรมซึ่งเป็นเรื่องผิวเผิน ฉาบฉวย แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนที่ฐานรากชีวิต นั่นคือ “กรอบความคิด” ด้วยการปรับมุมมองที่มีต่อตนเองเชิงบวก และเห็นคุณค่าในความแตกต่าง จึงจะสามารถดึงศักยภาพภายในตนเองและทีมงาน ให้ระเบิดออกมาได้อย่างมีพลังร่วม เป็นหนึ่งเดียว
4. การพลิกมุมมองจาก “การพัฒนาเชิงเดี่ยว” มาเป็น “การพัฒนาเชิงองค์รวม” ที่ผ่านมา การพัฒนาองค์กรยังไม่ยั่งยืนนั้นเป็นเพราะ บุคลากรยังยึดติดอยู่กับกรอบแนวคิดของการพัฒนาแบบแยกส่วน เราจึงต้องปรับมุมมองจากการพัฒนาเชิงเดี่ยว มาเป็น “การพัฒนาเชิงองค์รวม” ที่ครอบคลุมทุกมิติชีวิต คือ จิตใจ ปัญญา อารมณ์ และภาวะผู้นำ
5. การปรับยุทธศาสตร์จาก “การขายของ” มาเป็น “การสร้างคุณค่า” เพราะเป้าหมายขององค์กรคือความอยู่รอดอย่างยั่งยืน ดังนั้น ในการดำเนินงาน องค์กรจึงต้องยกระดับจากเพียงการปรับปรุงสินค้าและบริการเพียงเพื่อเพิ่มยอดขายและตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าอย่างผิวเผิน มาเป็น “การสร้างคุณค่า” ให้เกิดขึ้นแก่ผู้บริโภคอย่างจริงจัง
ดังนั้น ในยุคของความผันผวน เพื่อความอยู่รอด แนวทางการพัฒนาองค์กรจึงจำเป็นต้องปฏิรูปเสียใหม่ โดยยึดมั่นต่อความยั่งยืน ผ่านการเห็นุคุณค่าของความเป็นมนุษย์ มุ่งเน้นการเปลี่ยนที่ฐานรากชีวิต ด้วยมุมมองการพัฒนาเชิงระบบอย่างเป็นองค์รวม เพื่อสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับผู้บริโภค
ท่านในฐานะผู้นำองค์กร ท่านและจะนำความเข้าใจดังกล่าวไปกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพทีมงาน และปลดปล่อยศักยภาพนั้นออกมาได้อย่างเต็มที่และไปในแนวเดียวกันได้อย่างไร