ดร.ชัชชญา ยอดสุวรรณ ขออยู่ใกล้รับใช้บ้านเกิด
สาววัย 29 ปี คนนี้รูปร่างเล็ก ท่าทางใจเย็น ผิวขาวสวยตามแบบฉบับของสาวเหนือ อาจารย์โน้ตดร.ชัชชญา ยอดสุวรรณ จบปริญญาตรีด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม จากมหาวิทยาลัยแสตมป์ฟอร์ด ไปต่อปริญญาโทและเอกด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ที่ประเทศออสเตรเลีย และกลับมาสอนด้านวิชาการจัดการ ที่สำนักวิชาการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ 3 ปีเศษ
สาววัย 29 ปี คนนี้รูปร่างเล็ก ท่าทางใจเย็น ผิวขาวสวยตามแบบฉบับของสาวเหนือ อาจารย์โน้ตดร.ชัชชญา ยอดสุวรรณ จบปริญญาตรีด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม จากมหาวิทยาลัยแสตมป์ฟอร์ด ไปต่อปริญญาโทและเอกด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ที่ประเทศออสเตรเลีย และกลับมาสอนด้านวิชาการจัดการ ที่สำนักวิชาการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ 3 ปีเศษ
โดย... อนุสรา ทองอุไร
สาววัย 29 ปี คนนี้รูปร่างเล็ก ท่าทางใจเย็น ผิวขาวสวยตามแบบฉบับของสาวเหนือ อาจารย์โน้ตดร.ชัชชญา ยอดสุวรรณ จบปริญญาตรีด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม จากมหาวิทยาลัยแสตมป์ฟอร์ด ไปต่อปริญญาโทและเอกด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ที่ประเทศออสเตรเลีย และกลับมาสอนด้านวิชาการจัดการ ที่สำนักวิชาการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้ 3 ปีเศษ
ด้วยความที่เป็นคนเชียงรายโดยกำเนิด อาจารย์โน้ตจึงไม่คิดจะไปสอนหนังสือที่อื่น เพราะคิดว่าเด็กกรุงเทพฯ มีความพร้อมทุกอย่าง แต่เด็กภาคอื่นยังขาดไม่เต็มพร้อมเหมือนเด็กเมือง เธอจึงตัดสินใจสอนหนังสือที่บ้านเกิด ได้พัฒนาเด็กในท้องถิ่นได้อยู่ใกล้ครอบครัว เพราะคุณพ่อคุณแม่ของเธอก็เป็นครู จึงอยากให้ลูกได้เป็นครูอยู่กับครอบครัวไม่ต้องไปไหนไกล
“ไม่ชินกับกรุงเทพฯ ชีวิตมันรีบไปหมด คนก็ดูเคร่งเครียดรีบร้อน รถติด อากาศร้อน ไปอยู่แล้วรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน คิดว่าเราคงไม่เหมาะกับกรุงเทพฯ เราชอบใช้ชีวิตช้าๆ ละเมียดละไม ก็อยู่ที่นี่สังคมแบบที่เราเคยชินและมีความสุข”
แม้ว่าการสอนหนังสือวันนี้อาจจะเปลี่ยนไปจากเมื่อสมัยก่อน เด็กรุ่นนี้มีความคิดกล้าแสดงออกมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น แต่เธอก็ต้องเข้าใจและปรับตัวเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป แต่ถ้ามีความรักในอาชีพและความตั้งใจ พร้อมให้ความรักความเอ็นดูแก่เด็กๆ ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าจะเจอปัญหาอุปสรรคสักเพียงใดแต่ถ้าใช้ความรักความเข้าใจทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดี
“โชคดีที่ด้วยวัยแล้วก็ยังไม่ห่างกับนักเรียนเกินไป คิดว่านักศึกษาก็เหมือนน้อง ที่พร้อมจะให้สิ่งที่ดีๆ เห็นเขาเรียนจบไปตามเกณฑ์เราก็อดดีใจกับเขาไปด้วยไม่ได้ เหมือนเขาเป็นคนในครอบครัว ถ้า 4 ปีเขายังไม่จบ เราก็หนักใจไปกับเขาด้วย เวลาที่เขาผิดพลาดเราก็อยากจะเตือน เพราะถือว่าคนเป็นครูที่ดีถ้าลูกศิษย์กำลังหลงผิด หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์มีอะไรเราต้องบอกต้องชี้แนะในทางที่ถูกที่ควร แม้ว่าเด็กอาจจะไม่พอใจแต่เราก็ต้องทำวันนี้เขาอาจจะเบื่อเรา แต่วันหน้าเขาคิดได้เขาจะขอบคุณเรา รักลูกศิษย์จริงต้องเตือนกัน” อาจารย์สาวกล่าวทิ้งท้าย


