posttoday

12 พลัง...สร้างศักยภาพแข็งแกร่งในตัวคุณ

15 พฤศจิกายน 2553

เรื่อง วรธาร ทัดแก้ว

 

มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพมากมายที่แฝงอยู่ในตัวเอง หากไม่รู้จักนำออกมาใช้ก็เป็นที่น่าเสียดาย เหมือนมีคอมพิวเตอร์ทรงประสิทธิภาพสูงแต่ไม่รู้จักวิธีการใช้งานก็ไม่เกิดประโยชน์ บางคนมีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จในระดับที่สูง แต่ทำได้แค่ระดับธรรมดา บางคนอยากประสบความสำเร็จแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน อย่างไร บางคนรู้สึกเบื่อหน่าย ขาดความกระตือรือร้น บางคนยังค้นหาตัวเองไม่เจอ อย่าเพิ่งท้อใจ วันนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญมาปลุกคุณให้ตื่นจากฝันร้ายแล้ว

โค้ช สิริลักษณ์ ตันศิริ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีพลังเกินตัว มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ได้น่าทึ่ง เจ้าของผลงานหนังสือ ปลุกยักษ์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ จะมาแนะนำวิธีการสร้างศักยภาพจากพลังที่ทุกๆ คนมีอยู่ แต่ไม่อาจนำออกมาใช้ได้อย่างอัศจรรย์ด้วยพลัง 12 ประการ ดังนี้

1.พลังการตัดสินใจหรือการเลือก การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญมาก คนเราถ้าอยากมีชีวิตที่ดี อยากเห็นผลลัพธ์ดีๆ ต้องกล้าตัดสินใจที่จะปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน ครอบครัว เรื่องเฉพาะตัว เช่น นิสัย คำพูด หรืออะไรก็ตาม ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์ที่ดีจะต้องตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลง เรือเดินสมุทรถ้าวิ่งทางเดิมก็จะเจอกับสิ่งเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ แต่ถ้าเบนหัวเรือออกสัก 3 องศา ต้องบอกว่าจุดหมายปลายทางนั้นต่างจากเดิมแน่นอน ชีวิตเราก็เหมือนกัน

2.พลังของความคิดและความเชื่อ ทุกผลลัพธ์ที่ดีมาจากความคิดและความเชื่อที่ดี ชีวิตถ้ามองลบผลลัพธ์ก็ออกมาลบ ถ้ามองบวกก็ออกมาบวก คนเราถ้าคิดงานเป็นภาระของชีวิต เช่น ทำไมต้องเป็นเรา เราอีกแล้ว ถ้าคิดอย่างนี้ก็ไม่เกิดการอยากทำงาน แต่ถ้ามองว่างานเป็นโอกาสก็จะเกิดการอยากทำ ได้สร้างสรรค์คุณค่าและพัฒนาความรู้ความสามารถของตน หรือถ้าเจออุปสรรคก็คิดว่าเกิดขึ้นเพื่อให้เราได้เรียนรู้ ให้รู้จักเข้มแข็ง นี่คือพลังความคิด

3.พลังอารมณ์ความรู้สึก เวลาทำอะไรจะต้องมีอารมณ์มาขับเคลื่อนการกระทำเสมอ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยระมัดระวังกับการบริหารอารมณ์ของตัวเอง จึงเกิดปัญหาและความทุกข์ ฉะนั้นจึงต้องพยายามฝึกให้เป็นคนอารมณ์ดี เบิกบาน แจ่มใส เพื่อเอื้อต่อการใช้ชีวิตให้มีความสุขและผู้คนรอบข้างก็มีความสุขด้วย

4.พลังของคำพูด ส่วนใหญ่คนเราชอบพูดแต่คำพูดลบๆ เช่น ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่มั่นใจ ฉันคนล้มเหลว ฉันไม่ดี เป็นต้น แล้วพลังจะมาจากไหน ศักยภาพก็ไม่ออก ฉะนั้นต้องพูดบวก เปลี่ยนพลังคำพูดให้เป็นประโยชน์ พยายามใช้คำศัพท์ลดด้านลบลง เช่น ฉันเจอปัญหาเยอะแยะ ก็พูดว่าฉันเจอความท้าทายในชีวิต หรือเลือกพูดคำศัพท์ที่ขยายอารมณ์ด้านบวก เช่น เจออะไรที่เป็นเรื่องที่ดีก็พูดว่า โชคดีจัง มหัศจรรย์มาก โอ้แจ๋วแว๋ว เป็นต้น

5.พลังการเลือกใช้ท่าทางร่างกาย เลี่ยงการใช้ภาษากายที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ชอบเดินไหล่ห่อ ทำคอตกๆ เพราะไม่เกิดพลังในตัวเอง ต้องเปลี่ยนบุคลิก ภาพลักษณ์ของตัวเองใหม่ ฝึกเป็นคนยิ้มแย้มเยอะๆ ฝึกนั่งยืนเดินแบบมั่นอกมั่นใจ ฝึกก้าวเท้าเดินอย่างมีน้ำหนัก เคลื่อนไหวร่างกายให้กระฉับกระเฉง แล้วพลังจะเกิดขึ้นอย่างมาก อย่าไปเดินเหมือนไก่ป่วย

6.พลังของจินตนาการ เพราะจินตนาการจะเข้าไปในโปรแกรมของสมองและจิตใต้สำนึกของเราได้ อยากเก่งอะไรให้ซ้อมล่วงหน้าในจินตนาการ พวกนักกีฬาจะเห็นภาพตัวเล่นกีฬาได้อย่างยอดเยี่ยมในจินตนาการของตัวเองก่อน อยากเปลี่ยนบุคลิกใหม่ก็ลองเห็นภาพตัวเองเป็นคนใหม่ การใช้จินตนาการเป็นการเห็นภาพชีวิตที่เราใฝ่ฝันได้ด้วย ซึ่งจะลิงก์ไปที่พลังของแรงดึงดูด

7.พลังของแรงดึงดูด บางทฤษฎีเชื่อว่าสิ่งที่เหมือนกันจะดึงดูดสิ่งที่เหมือนกัน คลื่นพลังงานที่ใกล้เคียงกันจะดึงดูดพลังงานที่ใกล้เคียงกัน คนเราเวลาคิดก็เหมือนกัน ถ้าคิดบวกก็จะดึงดูดเรื่องบวกเข้ามาในชีวิต ถ้าคิดร้ายก็จะดึงเรื่องร้ายเข้ามา ฉะนั้นเราสามารถใช้พลังของความคิดและจินตนาการคิดถึงสิ่งที่ดี คิดถึงภาพของสิ่งที่ดีที่จะนำสิ่งที่ดีมาสู่ชีวิต

8.พลังของการโฟกัส ความตั้งใจจดจ่อเวลาที่อยากประสบความสำเร็จสักอย่างหนึ่ง จะต้องพุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายแล้วจึงสร้างผลลัพธ์ออกมาได้ อย่างคนที่โฟกัสกับการดูแลสุขภาพ เวลากินข้าวถ้ากินแป้งและเนื้อสัตว์เยอะ เขาก็ต้องรักษาสุขภาพ โดยการหันไปกินผลไม้และออกกำลังกายเยอะๆ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนา เพราะโฟกัสไปที่ปัญหา แต่ไม่โฟกัสไปในสิ่งปรารถนา

9.พลังของแรงบันดาลใจ คนที่ทำอะไรตามแรงบันดาลใจ คือ ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ชอบ และอยากทำ ย่อมประสบความสำเร็จเร็วและมากกว่าคนที่ไม่ได้ทำตามจากแรงบันดาลใจ

10.พลังของความดี ต้องฝึกให้เป็นคนที่มีพลังของความดีในตนเยอะๆ ผู้คนรอบข้างจะรักใคร่ให้ความช่วยเหลือ และความดีนี้ทำได้ง่ายโดยความเป็นผู้ให้โดยไม่ต้องจำ (ให้ใครอะไรบ้าง) และเป็นผู้รับโดยไม่ลืม (ผู้ให้ มีโอกาสต้องตอบแทน)

11.พลังของจิตวิญญาณที่สูงส่ง มนุษย์มีตัวตนที่ยิ่งใหญ่และมีปัญญาที่สูงส่งอยู่ที่ภายใน แต่คนไม่ค่อยได้เข้าถึง เพราะจิตใจของคนมักฟุ้งซ่าน ไม่สงบนิ่งพอ ควรทำสมาธิให้จิตสงบ หรือหาเวลาอยู่สงบเงียบคนเดียว เมื่อจิตนิ่งสงบจะใสแล้วปัญญาจะเกิดโดยอัตโนมัติเหมือนน้ำที่ตกตะกอนจะใส เมื่อนั้นหนทางจะเปิดออกสำหรับเรามากขึ้น

12.พลังของการลงมือทำ ขาดพลังนี้แล้วพลังอื่นๆ ก็หมดความหมาย เพราะว่าชีวิตของคนเราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริงอยู่ที่การลงมือทำ พลังทั้งหมดที่พูดมาถ้าไม่ทำก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ข่าวล่าสุด

บอร์ดเคาะแล้ว “ทรงพล” MD ออมสินคนใหม่ รอชัดอำนาจรักษาการเซ็นได้หรือไม่