‘สวยเนียน ไร้ขน!’ เทรนด์ฮิตยุค 2010
สาวกซีรีส์เรื่องฮอตจากฝั่งฮอลลีวูด “เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้” คงเคยได้ยินเรื่อง “บราซิเลียนแวกซ์” จากคุณป้าสาวซ่า ซาแมนตา โจนส์ แสดงโดย คิม แคทเทรลล์ ที่กล่าวว่า ถ้าพรุ่งนี้ฉันจะต้องตาย ฉันจะไปทำบราซิเลียนแวกซ์ก่อน เพราะเป็นสิ่งเดียวทำให้เธอซ่าออกด้วยความมั่นใจ
สาวกซีรีส์เรื่องฮอตจากฝั่งฮอลลีวูด “เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้” คงเคยได้ยินเรื่อง “บราซิเลียนแวกซ์” จากคุณป้าสาวซ่า ซาแมนตา โจนส์ แสดงโดย คิม แคทเทรลล์ ที่กล่าวว่า ถ้าพรุ่งนี้ฉันจะต้องตาย ฉันจะไปทำบราซิเลียนแวกซ์ก่อน เพราะเป็นสิ่งเดียวทำให้เธอซ่าออกด้วยความมั่นใจ
โดย... มีนา
สาวกซีรีส์เรื่องฮอตจากฝั่งฮอลลีวูด “เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้” คงเคยได้ยินเรื่อง “บราซิเลียนแวกซ์” จากคุณป้าสาวซ่า ซาแมนตา โจนส์ แสดงโดย คิม แคทเทรลล์ ที่กล่าวว่า ถ้าพรุ่งนี้ฉันจะต้องตาย ฉันจะไปทำบราซิเลียนแวกซ์ก่อน เพราะเป็นสิ่งเดียวทำให้เธอซ่าออกด้วยความมั่นใจ
จากนั้นสาวๆ ทั่วโลก อยากเก๋ นำสมัย นิยมลุกขึ้นมากำจัดที่จุดซ่อนเร้นยกใหญ่รวมทั้งสาวๆ ชาวไทยนักแสดงรวมทั้งเซเลบริตีในบ้านเรา นิยมไปทำเป็นวงกว้างได้ปีกว่าๆ แล้ว และมีทีท่าว่าจะฮิตไปอีกนาน ดูอย่างนักแสดงสาว กวินเนธ พัลโทรว์ เคยให้สัมภาษณ์ลงแมกกาซีนเล่มหนึ่งว่า บราซิเลียนแวกซ์เปลี่ยนชีวิตเธอไปเลย
หากย้อนกลับไปเมื่ออดีต การแวกซ์ขนมีมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เช่น ผู้หญิงอียิปต์อาศัยน้ำตาลแวกซ์กำจัดขนให้ผิวเนียนนุ่ม น่าลูบไล้
บราซิเลียนแวกซ์ อีกสเต็ปของการกรูมมิง
“การทำบราซิเลียนแวกซ์ คืออีกสเต็ปหนึ่งของการกรูมมิง อย่างผู้หญิงไทยนิยมทำผม แต่งเล็บ แต่บราซิเลียนแวกซ์คือสุดยอดของการเสริมสวย เหมือนการกระโดดบันจีจัมพ์ คือ ต้องมีความกล้า ใจกว้าง และเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ ดูอย่างผู้หญิงสิงคโปร์ เขาเปรี้ยวมากตามแฟชั่นฝั่งยุโรป และอเมริกาอย่างกระชั้นชิด ดังนั้นร้านแวกซ์ขนที่สิงคโปร์มีอยู่ทุกมุมถนน ไม่เหมือนเมืองไทยที่
สมัยก่อนบ้านเราจะมีแต่ในร้านทำผมหรือสปาเท่านั้น เรื่องกำจัดขนยังเป็นเรื่องปิด แต่ตอนนี้ผู้หญิงไทยเปิดรับแล้ว ธุรกิจร้านแวกซ์ขนจึงกล้าเปิดเพื่อเอาใจผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจ เรื่องความสวยความงาม ต่อให้เจ็บแค่ไหนหญิงไทยสู้ตายค่ะ” ดาวสุชัญญา ลิ่มสกุล ผู้บริหารร้าน Honeypot Wax Boutique ประจำประเทศไทย ที่ได้แฟรนไชส์มาจากสิงคโปร์ เล่า
กระแสความนิยม “การกำจัดขน” ได้เข้ามามีบทบาทกับผู้หญิงไทยนิยมทำบราซิเลียนแวกซ์เมื่อ 1-2 ปีก่อน จนกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว สุชัญญาให้ความคิดเห็นว่า ยุคนี้ผู้หญิงไทยใจกล้ามากขึ้น นิยมใส่กางเกงขาสั้นจุ๊ดจู๋ รวมทั้งใส่บิกินีเดินเล่นชายหาด ผู้หญิงก็อยากมั่นใจในตัวเองว่าจะไม่มีสิ่งไม่พึงประสงค์โผล่ออกมารบกวนสายตา
สาวไทยขี้อายแต่อยากลอง
“ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงานต้นๆ กระทั่งถึงอายุ 60 ปี นิยมมาทำบิกินีแวกซ์ และกว่า 80% ที่มาใช้บริการเป็นสาวไทย นอกนั้นเป็นหญิงชาวต่างชาติ สาวโสดกับสาวที่แต่งงานแล้วมีเปอร์เซ็นต์เท่าๆ กัน แต่ในอินโดนีเซียการทำแวกซ์คือการทำเพื่อเอาใจผู้ชายสำหรับคู่ที่แต่งงานแล้ว แตกต่างจากสาวไทยทำเพื่อแฟชั่นและความมั่นใจของตัวเอง บางครั้งผู้ชายพามาเลย แล้วจ่ายสตางค์ให้ เหมือนกำจัดขนทำให้ชีวิตคู่ของเขาดีขึ้น
ผู้ชายบางคนอาจไม่ชอบแบบฮอลลีวูด เพราะดูเด็กเกินไป สาวๆ บางคนก็เชื่อตามแฟน”
สุชัญญาบอกอีกว่า บราซิเลียนแวกซ์ในเมืองไทยยุคนี้ ถือว่าหญิงไทยให้ความสนใจเยอะมากขึ้น และมีแนวโน้มเยอะมากขึ้นทุกปี แต่ติดปัญหาตรงขี้อาย หมั่นโทร.มาสอบถามหลายครั้ง กว่าจะตัดสินใจ
“บางคนตัดสินใจทำแต่ก็อาย เรียกว่าเอาผ้าปิดหน้ากันเลย (ยิ้ม) ระยะเวลาทำ ยิ่งช่างมืออาชีพยิ่งใช้เวลาน้อย ลูกค้าก็จะรู้สึกอายแค่ 15 นาทีก็เสร็จ ทางร้านจะมีกฎเลยว่า ห้ามเปิดเผยว่าใครคือลูกค้าบ้าง เพราะลูกค้าก็ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ ถ้ารู้ว่าใครเปิดเผย ถึงกับไล่ออกเลย เพราะเป็นกฎของร้าน เพราะลูกค้าบางคนก็เป็นคนดัง ก็ไม่อยากเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ใครรู้”
แวกซ์แบบฮิตๆ
สุชัญญาแนะว่า ที่ทำกันทั่วโลก มี 2 แบบหลักๆ แบบร้อนกับแบบเย็น แบบร้อนจะดีกว่า เพราะกำจัดขนได้ดีกว่า แต่ถ้าลงลึกในรายละเอียดของรูปทรง แบ่งเป็นแบบ “บิกินี แวกซ์” คือ แวกซ์เฉพาะเส้นขนด้านข้างจุดซ่อนเร้น “บราซิเลียนแวกซ์” ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่หญิงไทย และเกลี้ยงเกลากว่า แถมยังหลายรูปทรง หลายเชปเก๋ๆ ให้เลือก อาทิ Play Boy จะมี 2 แบบให้เลือก แบบ Landing Strip จะแวกซ์ด้านข้างออกให้เกลี้ยงเกลา เหลือไว้เฉพาะเส้นหญ้าบริเวณกึ่งกลาง เลี้ยงเป็นแนวสี่เหลี่ยมยาวขึ้นไป แบบ Play Boy Triangle ทรงนี้จะเหลือผมของน้องสาวไว้ เป็นสามเหลี่ยมเล็กๆ ด้านบน รูปทรงจะดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก ขณะที่ด้านข้างจะแวกซ์ ออกโล่งเตียนทั้งหมด
“เพลย์บอย ตั้งชื่อตามนิตยสารดัง ซึ่งนางแบบส่วนใหญ่ในนิตยสาร จะนิยมแวกซ์แบบนี้กัน” สุชัญญา บอกต่อว่า สไตล์ที่ 3 คือ L’amour หรือ Heart Shape ทรงนี้ช่างต้องมีความชำนาญ มีฝีมือในการออกแบบมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ค่อยเหมาะกับหญิงเอเชีย เพราะขนของเราขึ้นแบบแนบผิวขึ้นไปไม่ฟูเป็นพุ่มเหมือนสาวๆ ยุโรป
สไตล์สุดท้าย เปรี้ยวเก๋เอาการ ชื่อว่า Hollywood เพราะนักแสดงฮอลลีวูดฮิตทรงนี้กันมาก เป็นแบบเนียนชนิดไร้ขนให้ระคายเคือง เหมือนย้อนวัยเข้าสู่เด็กน้อยอีกรอบ ทรงนี้ผู้หญิงไทยอายุ 60 ปีขึ้นไปจะชอบมาก ส่วนอีกทรง คือ “บัตเตอร์ฟลาย” คือทิ้งทุ่งหญ้าไว้แต่ด้านบน ส่วนด้านล่างกำจัดให้เตียนโล่ง
“บราซิลเลี่ยนแว็กซ์แบบฮอลลีวู้ด เขากำจัดขนทั้งด้านหน้าและด้านหลังออกจนเรียบ ไม่เหลือไว้สักกระจุก จึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง แถมดูแลความสะอาดได้ง่ายอีกด้วยคุณสมบัติเด่นหลายข้ออย่างนี้เอง ถึงกลายเป็นทรงฮิตอันดับหนึ่งของร้านไปเลย ส่วนอีกทรงคือ เพลย์บอยแบบแรก ผู้หญิงไทยวัยทำงานจะชอบทำกันมาก ”
“ลูกค้าบางกลุ่มเปรี้ยวกว่านั้น แฟชั่นจ๋าด้วยการขอให้ออกแบบเป็นรูปโลโก้ชาแนล ช่วงสิ้นปีก็ขอให้ทำเป็นรูปต้นคริสต์มาสเลยก็มี แต่ทางช่างไม่สามารถทำได้ เพราะมีรายละเอียดของรูปทรงมากเกินไป แวกซ์ไม่ได้ต้องถอนลูกเดียว” สุชัญญา เล่า
เทรนด์นี้ฮิตอีกนาน
สุชัญญา เน้นย้ำว่า เทรนด์นี้ไม่มีการมาเร็วไปเร็วอย่างแน่นอน แม้จะเป็นแฟชั่นก็ตาม เพราะสาวๆ หากได้ทำแล้วก็จะติดแล้วต้องมาทำทุกๆ หนึ่งเดือนครึ่ง ส่วนวิวัฒนาการของการแวกซ์ขนก็มีลู่ทางเติบโตไปเรื่อยๆ ไม่จำกัด แถมยังมีรูปแบบใหม่ๆ มาให้สาวทั่วโลกได้ลอง อาทิ ขณะนี้ที่สหรัฐอเมริกากับอังกฤษ นิยมแวกซ์ขนที่จุดซ่อนเร้นแล้ว ด้านบนตรงไลน์ของขอบบิกินียังนำคริสตัลหลากสีมาติดที่บริเวณท้องน้อยอีก
เวลาจะโชว์ต้องใส่กางเกงเอวต่ำมากๆ รับรองเปรี้ยวสุดๆ เรียกว่า เป็นเทรนด์ใหม่กำลังมาแรงที่ฮิตในหมู่หญิงสาวชาวญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ว่าสาวๆ ชาวไทยจะตามกระแสด้วยหรือเปล่า! นิ...


