posttoday

เล่าเรื่องเที่ยวไทยในสายตาคนจีน

24 มีนาคม 2562

เปิดมุมมองในการท่องเที่ยวประเทศไทยในสายตาคนจีน ผ่านแพลตฟอร์มท่องเที่ยวชื่อดังของจีน

เปิดมุมมองในการท่องเที่ยวประเทศไทยในสายตาคนจีน ผ่านแพลตฟอร์มท่องเที่ยวชื่อดังของจีน

*********************

โดย...ภากร กัทชลี เจ้าของเพจอ้ายจง นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเตี้ยน เมืองซีอาน มณฑลส่านซี

หากพูดถึงคนจีน สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะนึกถึง คงหนีไม่พ้นนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาในเมืองไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากกระแสไทยฟีเวอร์ ที่เกิดจากหนังจีนเรื่องหนึ่งที่มาถ่ายทำในเมืองไทย

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนเลือกมาพักผ่อน มาเที่ยว จนถึงมาลงทุน แต่จะพูดลอยๆ หลายคนก็อาจจะมีคำถามในใจว่า ไทยยังคงเป็นเบอร์หนึ่งจริงหรือ เพราะปีที่ผ่านมา มีหลายกระแสมากว่า คนจีนจะไม่มาไทยแล้ว หลังเกิดเหตุเรือล่มครั้งใหญ่ที่เกาะภูเก็ต

คงต้องขอนั่งยันนอนยันอีกครั้งว่า “ไทยยังคงเป็นเบอร์ 1 ในใจคนจีน” โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวทางทะเลของเรา

เปิดสถิติการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ปี 2018 ประเทศไทยและกรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์จุดหมายคนจีน ขณะที่เชียงใหม่ติดอันดับ 10 ส่วนภูเก็ตติดอันดับ 1 สถานที่เที่ยวทางทะเลที่คนจีนนิยมมากที่สุด โดยมีกระบี่และเกาะสมุยเข้ามาอยู่ใน TOP 10 หมวดนี้ด้วย

โดยสถิติการเดินทางนักท่องเที่ยวจีนในปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลจากสถาบันการท่องเที่ยวจีน (China Tourism Academy) และ Ctrip แพลตฟอร์มท่องเที่ยวชื่อดังของจีน ชี้ให้เห็นว่า ไทยและกรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์จุดหมายคนจีน ขณะที่เชียงใหม่ติดอันดับ 10 ภูเก็ตติดอันดับ 1 สถานที่เที่ยวทางทะเลที่คนจีนนิยมมากที่สุด โดยมีกระบี่และเกาะสมุยเข้ามาอยู่ใน TOP 10 หมวดนี้ด้วย

ขอสรุปและแจกแจงรายละเอียดของรายงานฉบับนี้ ออกเป็นข้อๆ ดังนี้

1.นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศ 150 ล้านครั้ง เพิ่มจากปี 2017 ราว 14.7% ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดย 10 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวต่างประเทศของคนจีนเติบโต 20% และมีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ

2.ประเทศไทยครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของคนจีน ตามมาด้วย ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา กัมพูชา รัสเซีย และฟิลิปปินส์

3.ประเทศที่กลายมาเป็นดาวรุ่งที่คนจีนเริ่มไปเที่ยวมากขึ้นในปี 2018 ที่น่าจับตามอง ได้แก่ เมียนมา มอนเตเนโกร เซอร์เบีย ลาว อาร์เจนตินา สเปน กัมพูชา (กัมพูชาถือว่ามาแรงมาก เพราะเข้าไปติด TOP 10 จุดหมายปลายทางที่คนจีนนิยมไปเที่ยวต่างประเทศด้วย) เม็กซิโก บราซิล สาธารณรัฐเช็ก

4.เมืองที่คนจีนนิยมไปมากที่สุดในปี 2018 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ฮ่องกง โตเกียวโอซากา ไทเป นางาซากิ เสียมเรียบ (เสียมราฐ) กัวลาลัมเปอร์ มอสโก และเชียงใหม่

5.สถานที่เที่ยวทางทะเลที่คนจีนนิยมมากที่สุด ได้แก่ ภูเก็ต ญาจาง (เวียดนาม) บาหลี โอกินาวา มัลดีฟส์ โบราไกย์ (ฟิลิปปินส์) กระบี่ สมุย ไซปัน (อเมริกา) เซบู (ฟิลิปปินส์)

6.ในปี 2018 นักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ใช้จ่ายเงินไปประมาณ 8.05 แสนล้านหยวน

7.ค่าเฉลี่ยของการใช้จ่ายเงินต่อนักท่องเที่ยวจีน 1 คน ที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ได้แก่ 5,400 หยวน (ประมาณ 2.7 หมื่นบาท)

8.จุดหมายปลายทางสำหรับการช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง ดูไบ โอซากา มาเก๊า โตเกียว ปารีส นาโกยา ลอนดอน สิงคโปร์ และเกียวโตจะเห็นว่าประเทศญี่ปุ่นติดโผถึง 4 เมือง

9.ข้อมูลเบื้องต้นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวจีนที่เที่ยวต่างประเทศ

- ผู้หญิง 52% ผู้ชาย 48%

- อายุ 30-39 29%, 20-29 18%, 40-49 17%, ไม่เกิน 19 ปี 13%, 50-59 12%, 60 ขึ้นไป 11%

จะเห็นได้ว่าคนจีนเพศหญิงและวัยทำงาน 30-39 ปี มีสัดส่วนที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากที่สุด

10.เมืองต้นทางในจีนที่เดินทางออกไปต่างประเทศมากที่สุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กว่างโจว เฉิงตู ฉงชิ่ง หนานจิง คุนหมิง อู่ฮั่น
ซีอาน และหางโจว

เราดูข้อมูลจากรายงานของทางสถาบันการท่องเที่ยวจีนและ Ctrip กันไปแล้ว ในฐานะที่เป็นนักการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะตลาดจีนก็ได้ลองวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data ในโลกออนไลน์จีน ซึ่งพบข้อมูลที่สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่าคนจีนนิยมมาไทย

ผลการวิเคราะห์ Big Data เผยให้เห็นว่า

1.คนจีนมีการค้นหาและพูดถึงคำว่า 泰国旅游 เที่ยวไทย ในโลกออนไลน์จีนเฉลี่ยวันละ 6,000 ครั้ง/วัน หรือประมาณเดือนละ 1.8 แสนครั้ง

2.ข้อมูล Big Data ย้อนหลังในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา ชี้ว่า กลุ่มคนที่พูดถึง 泰国旅游 เที่ยวไทย 10 อันดับแรก มาจากอันดับ 1 ปักกิ่ง ตามมาด้วย เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เสิ่นเจิ้น กว่างโจว หางโจว ฉงชิ่ง ซูโจว อู่ฮั่น และซีอาน
ตามลำดับ

TOP 10 ที่กล่าวมา ล้วนเป็นเมืองที่มีเส้นทางบินตรงมาไทย

3.กลุ่มอายุที่พูดถึงเที่ยวไทยมากที่สุด ได้แก่ 30-39 ปี รองลงมาคือ 40-49 ปี อันดับสาม 50 ปีขึ้นไป ขณะที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 29 ปี กลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่รั้งท้าย

4.กลุ่มสาวๆ มีการพูดถึงเที่ยวไทยมากกว่าผู้ชาย โดยสัดส่วนอยู่ที่ 52% ต่อ 48%

5.เมื่อพูดถึงคำว่า เที่ยวไทย สิ่งที่ตามมา ที่มีการพูดถึงมาก คือ จระเข้ ลิปสติกข้าวเหนียว มะม่วง ทุเรียน อาหารอร่อย เที่ยวไทย 5 วัน กรุงเทพฯ บุฟเฟ่ต์หม้อไฟ-หมูกะทะมด (คนจีนบอกว่า ไทยมดเยอะครับ ถึงขนาดมีคำค้นหาใน baidu ว่า ไทยมดเยอะ ไล่ออกไปยังไง หรือแก้ปัญหาอย่างไร)

6.จังหวัดของไทยที่คนจีนพูดถึงมากที่สุด ได้แก่ ภูเก็ต (4,500 ครั้ง/วัน) พัทยา (2,500) กรุงเทพมหานคร (2,000) และเชียงใหม่ (1,800)

7.Demographic ของคนจีนที่พูดถึงและค้นหา 4 จังหวัด Top 4 ของไทยในโลกออนไลน์จีน

กรุงเทพฯ : ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 53:47

ภูเก็ต : ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 52:48

พัทยา : ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 54:46

เชียงใหม่ : ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 51:49

โดยสำหรับช่วงอายุ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา ช่วงอายุ 30-39 มากที่สุด ตามด้วย 40-49, 20-29, 50 ปีขึ้นไป และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 19 ปี ตามลำดับ

ขณะที่ เชียงใหม่ แตกต่างเล็กน้อย คือ กลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป มีมากกว่า 20-29 ปี

สุดท้ายนี้ ขอตอบคำถามที่มีคนถามกันมานาน...ที่จีนก็มีทะเล แต่ทำไมพวกเขาถึงมาเที่ยวทะเลเมืองไทย?

จากการสัมภาษณ์คนจีนรอบๆ ตัว ทั้งเพื่อนร่วมงานและเพื่อนๆ สมัยเรียน ได้คำตอบเป็น 2 เหตุผลหลักๆ คือ 1.ราคาค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทะเลในไทยไม่แพงมาก และได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำเยอะมาก และ 2.การเที่ยวทะเลในจีนนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และยังต้องเจอกับนักท่องเทียวที่แห่กันไปพร้อมกันในปริมาณเยอะมาก

เมื่อพวกเราทุกคนรู้แล้วว่า คนจีนมองการเที่ยวไทยอย่างไร? พวกเราในฐานะเจ้าบ้าน เรามาช่วยกันทำให้การท่องเที่ยวของไทยน่าเที่ยวและสวยงามอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวทุกประเทศอย่างยั่งยืนกันเถอะครับ

*********************************

ติดตามอ้ายจงได้ที่ www.facebook.com/aizhongchina/