ก้าวต่อไปของนักสร้างฝัน รังสรรค์ ปัญญาเรือน
เมื่อย้อนดูเส้นทางชีวิตของ สงกรานต์-รังสรรค์ ปัญญาเรือน จะพบคำว่า “เด็กเกเร” เป็นภาพในอดีต
เรื่อง กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์
เมื่อย้อนดูเส้นทางชีวิตของ สงกรานต์-รังสรรค์ ปัญญาเรือน จะพบคำว่า “เด็กเกเร” เป็นภาพในอดีต ช่างผิดกับภาพวันนี้ในวัยย่าง 30 ปี เขากลายเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และเจ้าของค่ายเพลง! ซึ่งทั้งหมดเป็นผลสำเร็จจากการทำตามฝัน และที่สำคัญ เขายังไม่หยุดแถมยังกล้าฝันให้ใหญ่กว่าเดิม
นักทำเพลง
สงกรานต์เริ่มมีชื่อในวงการเพลงในรายการ เดอะ วอยซ์ จากนั้นคนเริ่มรู้จักในฐานะนักร้องแนวป๊อปร็อก และเมื่อรู้จักมากขึ้นจะทราบว่าเขายังเป็นนักแต่งเพลง มีบทเพลงที่เขียนเองไม่ต่ำกว่า 10 เพลง ซึ่งวัตถุดิบในการแต่งเพลง ส่วนใหญ่เขานำมาจากเรื่องจริงทั้งในชีวิตของตัวเองและคนอื่น อีกส่วนหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พบเจอจนรู้สึกอยากเล่าต่อในรูปแบบของบทเพลง
“ในแง่ของธุรกิจคนแต่งเพลงต้องมองว่า ตลาดต้องการอะไร ภาษาตอนนั้นเป็นแบบไหน เพื่อทำให้เพลงเพลงนั้นมีโอกาสทำรายได้จากการเป็นเพลงฮิตให้มากที่สุด ซึ่งผมจะชอบเล่าความจริง เพราะเป็นหัวข้อที่ไม่มีกาลเวลา แม้ว่าจะหยิบมาร้องตอนไหนคนก็จะเข้าถึงและเข้าใจได้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ทุกคนต้องประสบพบเจอและต้องเคยรู้สึกในลักษณะเดียวกัน”
ถามต่อว่า ถ้าไม่สนใจตลาด สงกรานต์จะแต่งเพลงแบบไหน “ผมอยากแชร์ว่า ยังมีคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จแต่เขาไม่เคยท้อ ฉะนั้นแล้วใครที่ฟังอยู่ ใครที่คิดว่าหมดแรงแล้ว ก็กลับไปดูคนที่เขาไม่มีเท่าเราแล้วกลับไปลุยใหม่ เพราะมีเด็กมาถามผมบ่อยว่า ทำยังไงถึงจะเป็นแบบพี่ ผมเลยอยากตอบเป็นบทเพลงว่ากว่าจะถึงวันนี้มันไม่ง่าย”
เมื่อวันนี้เขายังเป็นนักร้องอาชีพที่ต้องอาศัยรายได้จากการร้องเพลง การเขียนเพลงจึงต้องอิงตลาดเพื่อตอบโจทย์คนฟัง โดยตลอดระยะเวลา 6 ปีในวงการ แน่นอนว่าต้องมีทั้งเพลงฮิตและเพลงที่ไม่ติดกระแส ซึ่งเขาสารภาพว่า ย่อมเสียใจเป็นธรรมดา แต่เขาจะไม่หยุดก้าวต่อ
“ท้อมีไว้ให้ลิงถือ ดังนั้นผมไม่ท้อ สำหรับผมดังไม่ดังไม่เป็นไร ขอแค่รักษามาตรฐานของตัวเองไว้ก็พอ ดังนั้นตอนทำเพลงผมจะทุ่มเทให้มันร้อยเปอร์เซ็นต์ พอทำเสร็จนั่นคือความสำเร็จของผมแล้ว พอกลับมาฟังอีกเมื่อไรเราก็ยังจะพอใจและภูมิใจกับเพลงของเรา”
ล่าสุดนักร้องสายป๊อปร็อกเพิ่งปล่อยเพลงที่ 6 ในอัลบั้ม 50/50 ชื่อเพลง คำขอคนเจ็บ เป็นอีกเพลงที่เขาเขียนเอง ร้องเอง โดยได้เล่าถึงความรักที่เห็นแก่ตัวของคนที่เลิกกันแล้ว แต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายไปรักใคร
“ผมโตมากับสีเทา ฉะนั้นแล้วสังคมของผมเลยเป็นสีเทาและกลายเป็นว่า อะไรที่ต้องผิดหวังหรือเป็นด้านลบผมจะเข้าถึงง่าย และเราก็เลือกสื่อสารออกมาเป็นบทเพลง” สงกรานต์เพิ่มเติม
โปรดิวเซอร์
ไม่กี่วันที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศไทยได้รู้จักกับรายการใหม่ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 กับรายการ สงครามทำเพลง ที่จะเปิดเวทีให้โปรดิวเซอร์จาก 4 ค่ายเพลงมาแต่งเพลงแข่งกัน โดยจะเผยเบื้องลึกเบื้องหลังให้เห็นขั้นตอนการทำเพลงตั้งแต่เริ่มจนเสร็จสิ้นกระบวนการ กำหนดออนแอร์ครั้งแรกวันที่ 16 ก.พ.นี้
“คนเป็นโปรดิวเซอร์ต้องทำหน้าที่หลายอย่าง จากศูนย์ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์โปรดิวเซอร์ต้องเป็นคนดู ดังนั้นเมื่อทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในรายการแล้ว ความท้าทายของผมคือ เปิดศักยภาพตัวเองทุกด้านให้มากขึ้น”
เขาเล่าต่อว่า หนทางการทำเพลงของเขาเริ่มมาจากสมัยเด็กๆ ตั้งแต่ตอนหัดเล่นกีตาร์ “ผมรู้สึกว่าเวลาที่หัดเล่นเพลงอะไรก็แล้วแต่ จะคิดเองในใจว่าทำไมเพลงนี้ต้องพูดเรื่องนี้ด้วย จึงเริ่มจากการแต่งเนื้อร้องเองและใส่เมโลดี้ของเพลงที่เรากำลังหัดเล่นอยู่เข้าไป จากนั้นพอโตขึ้น พอเล่นกีตาร์ได้หลายแนวขึ้น ก็เริ่มหาคอร์ดที่เป็นของตัวเอง เมโลดี้ที่เป็นของตัวเอง จนสามารถเขียนเพลงเองได้ตั้งแต่อายุ 14-15”
โดยทั่วไปศิลปินจะใช้เวลาทำเพลงอย่างน้อย 6 เดือน แต่ในรายการนี้ให้เวลาเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งสงกรานต์สารภาพตามตรงว่า ตอนที่รับปากเข้าร่วมรายการ ไม่คิดว่ากติกาจะยากขนาดนี้ “แต่ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง เพราะผมอายุน้อยที่สุดในรายการ ซึ่งในรายการผมจะได้นำผลงานไปแชร์กับพี่ๆ ทุกคน และพี่ๆ จะชี้เห็นจุดเด่นจุดด้อยของผม และผมก็จะนำคอมเมนต์ตรงนั้นมาพัฒนาตัวเองต่อไป ซึ่งมันไม่ใช่โอกาสง่ายๆ ที่จะได้ร่วมงานกับคนเก่งจากค่ายอื่นแบบนี้”
เขายังสะท้อนถึงความคิดของนักร้องที่ทำเพลงเองว่า ทุกเพลงที่เขียนขึ้นคือ ความทุ่มเทสุดกำลังจึงไม่มีเพลงไหนที่ไม่ดีสำหรับคนทำเพลง แต่เพลงจะดังติดชาร์ตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคนฟัง “เพราะเมื่อทำเพลงเสร็จแล้วนั่นคือความสำเร็จของคนทำ แต่จะประสบความสำเร็จกับคนฟังไหม นั่นเป็นอีกเรื่องซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้”
สงกรานต์ยังมองว่า การเป็นโปรดิวเซอร์ถือเป็นขั้นกว่าของศิลปิน จากสมัยเด็กเขาฝันอยากเป็นศิลปิน แต่เมื่อได้เป็นจริงๆ แล้ว เขายังไม่หยุดฝัน นั่นคือ อยากเขียนเพลงให้คนอื่นร้อง ซึ่งรายการนี้ได้หยิบยื่นโอกาสให้ฝันเป็นจริงแล้ว
เจ้าของค่ายเพลง
อีกบทบาทที่ทำให้เซอร์ไพรส์ผู้ชายคนนี้มากขึ้นไปอีกคือ สงกรานต์เป็นเจ้าของค่ายเพลง พีระมิด เรคคอร์ด ก่อตั้งเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว (ก่อนเซ็นสัญญาเป็นศิลปินสังกัดค่าย มี เรคคอร์ด) ซึ่งปีนี้ค่ายของเขาจะมีการขยับเขยื้อนครั้งใหญ่กับการเปิดตัวศิลปิน 2-3 คน โดยเขาเชื่อว่า สนุกแน่ เพราะศิลปินหน้าใหม่ของค่ายเป็นหน้าเก่าในวงการที่ทุกคนรู้จักกันดี
เท่ากับว่า สงกรานต์เป็นเจ้าของค่ายเพลงตอนอายุเพียง 28 ปี มีศิลปินวงแรกในนามค่ายพีระมิดชื่อวง บ่าวเหนือ ประกอบด้วย นักร้อง 3 คน คือ เขา ปู่จ๋าน ลองไมค์ และฟักกลิ้ง ฮีโร่ เคยออกซิงเกิ้ลภาษาเหนือชื่อเพลง เป็นโสดทำไม แต่ทำไปได้เพียงหนึ่งเพลงก็นิ่งไปเพราะต่างคนต่างมีงานส่วนตัวล้นมือ
จากนั้นตามมาด้วยศิลปินวงที่ 2 ชื่อวง ฮันเดรด ธาวซันด์ (100 Thousand) ประกอบด้วยวัยรุ่นไฟแรงชาวบุรีรัมย์ 5 คน ซึ่งตอนนี้กำลังโด่งดังในพื้นที่ และอีกวงชื่อ อาฟเตอร์นูน เป็นวงดนตรีที่วัยรุ่นเชียงใหม่รู้จักกันดี มีซิงเกิ้ลใหม่ชื่อเพลง ภาพหลอน ซึ่งได้เจ้าของค่ายเป็นคนแต่งเพลงให้
“การเป็นเจ้าของค่ายเพลงไม่ง่าย แต่ผมแค่รู้สึกว่าศิลปินรุ่นใหม่เหล่านี้ถ้าไม่มีค่ายเพลงให้สังกัด เขาจะไม่มีโอกาสทำงานเพลงในระบบอย่างจริงจัง อาจทำได้มากสุดแค่คัฟเวอร์เพลงคนอื่นในยูทูบ ซึ่งผมผ่านจุดที่ฝันอยากเป็นนักร้องมา ก็อยากจะหยิบยื่นโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำตามความฝันบ้าง
ถ้าถามว่าค่ายเพลงทำกำไรไหม ตอนนี้ค่ายยังไม่มีกำไรให้เห็น เพราะศิลปินทุกคนยังใหม่มาก แต่ถ้าได้ลองไปเสิร์ชในยูทูบฟังเพลงของทั้งสองวง ผมเชื่อเลยว่าทุกคนจะชอบเพราะเพลงมันดีมาก แต่แค่ศิลปินยังใหม่ เพลงเลยยังไปไม่ถึงหูคนฟัง ดังนั้นธุรกิจนี้จึงต้องใช้เวลาและต้องไม่หยุดทำ ผมทำมา 2 ปีก็จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะแข็งแรงและสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้ศิลปินทุกคน ผมจะทำจนถึงจุดสำเร็จนั้นให้ได้”
ขณะที่ศิลปินเก่าแต่หน้าใหม่ที่เขากล่าวถึงจะปล่อยซิงเกิ้ลแรกช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ มีแง้มให้ตื่นเต้นว่า เธอเป็นศิลปินหญิงอายุ 30 กว่า เป็นนักร้องที่ไม่มีผลงานเพลงใหม่มานาน จนบางคนหลงลืมเธอไปในฐานะนักร้อง
หนุ่มมาดเข้มยังเป็นเจ้าของร้านอาหาร 2 แห่งในกรุงเทพฯ และยังมีแผนทำธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับโปรดักชั่นถ่ายภาพแต่งงาน “พอมีเงินผมไม่ชอบเก็บ แต่ผมชอบนำเงินไปต่อยอด ผสมกับเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย จึงชอบทำธุรกิจ โดยชอบมองหาลู่ทาง มองหาคอนเนกชั่นที่เรามี แล้วต่อยอดไปสู่ธุรกิจ อย่างธุรกิจเวดดิ้งมันไม่ใช่ทางของผม แต่ผมมีคอนเนกชั่นที่จะหาลูกค้าได้เลยอยากทำเพราะมันมีโอกาสสร้างรายได้”
นับเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับหนุ่มคนนี้ ทั้งบทบาทใหม่กับการเป็นโปรดิวเซอร์อายุน้อยที่สุดในรายการเพลง กับบทบาทผู้บริหารค่ายเพลงที่จะปล่อยตัวศิลปินใหม่เร็วๆ นี้ และบทบาทการเป็นนักธุรกิจที่กล้าคิดกล้าทำ อาจเรียกได้ว่า สงกรานต์ไม่ใช่เด็กหนุ่มล่าฝันอีกต่อไป แต่เป็นผู้ชายที่กล้าสร้างทางเดินตามฝันด้วยตัวเอง


