ขับรถเที่ยวฮอกไกโด (5)
กินข้าวเที่ยงกับปลาคิงกินึ่งซีอิ๊วเสร็จ ฝนเริ่มลงเม็ด เลยต้องรีบขึ้นรถขับฝ่าสายฝนไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป
กินข้าวเที่ยงกับปลาคิงกินึ่งซีอิ๊วเสร็จ ฝนเริ่มลงเม็ด เลยต้องรีบขึ้นรถขับฝ่าสายฝนไปยังจุดหมายปลายทางถัดไป ก่อนจะวิ่งรถไกลขอแวะเข้าห้องน้ำที่ Rausu Michinoeki ก่อน เพราะห้องน้ำที่ร้านอาหารทั้งเล็กและจำกัด ตามเมืองเล็กๆ ของญี่ปุ่นจะมี Michinoeki ที่เป็นจุดแวะพักรถ มีสินค้าท้องถิ่นจำหน่าย มีห้องน้ำให้เข้า มีร้านอาหารหรือร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ด้วย เป็นตัวอย่างที่ดีที่น่าจะนำมาเป็นแบบอย่างในบ้านเรา
โดยเฉพาะการส่งเสริมสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เพราะจุดแวะพักรถส่วนใหญ่ในเมืองไทยคือปั๊มน้ำมันถ้าแต่ละอำเภอแต่ละจังหวัดสามารถจัดสถานที่แวะพักรถแบบนี้ได้ ก็จะเป็นการส่งเสริมทั้งสินค้า บริการและการท่องเที่ยวไปในตัว ได้ทั้งเงินได้ทั้งประชาสัมพันธ์ เพราะคนขับรถทางไกลย่อมอยากจอดรถพักในที่ที่มีความสะดวกสบายและมีของขาย เข้าห้องน้ำเสร็จก็ออกเดินทางต่อไปยังเมือง Nakashibetsu
เดิมทีคุณมินาโกะตั้งใจจะพาไปร้านขายโยเกิร์ตท้องถิ่นชื่อดัง แต่วันนี้ร้านดันปิดโดยไม่ทราบล่วงหน้า จึงต้องเปลี่ยนแผนเป็นไปช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า Tobu South Hills แทน เป็นห้างชั้นเดียวแต่ใหญ่มาก ขนาดประมาณแม็คโครบ้านเรา ด้านในมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าปลีกประเภทเสื้อผ้า รองเท้า และซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งใหญ่มากๆ กะด้วยสายตาเดินจากฝั่งนึงไปอีกฝั่งนึงต้องมี 200 เมตร
ผมไม่ได้ซื้ออะไรมาก แต่มีเพื่อนฝากซื้อผงชูรสยี่ห้อดัง เลยสอยมาให้ตามต้องการ หลังจากปรึกษากับคุณมินาโกะแล้ว จึงตัดสินใจขับรถตรงเข้าที่พักเลย เพราะตามพยากรณ์อากาศฝนจะตกถึงพรุ่งนี้เช้า นี่เป็นข้อดีอีกประการของการขับรถเที่ยว คือ ไม่ต้องเดินทางตามรายการที่ระบุ ตัดสินใจฉับพลันปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ขอเพียงแค่มีข้อมูลที่เพียงพอ ที่ลานจอดรถผมก็ยังเห็นรถคันอื่นๆ ของลูกค้า FMJ ที่ยังคงเอนจอยช็อปปิ้งอยู่ในห้าง อันนี้คือความอิสระของการขับรถเที่ยว คือไม่ต้องรอกัน
จากห้างสู่จุดหมายปลายทางที่ทะเลสาบ Akan เราใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง ทั้งๆ ที่ระยะทางเพียง 80 กว่ากิโลเมตร แต่เนื่องจากฝนตกหนักและช่วงท้ายเป็นเส้นทางขึ้นเขา จึงไม่สามารถทำเวลาได้ เรามาถึงที่โรงแรม Akan Yuku no Sato ในเครือของ Tsuruga เจ้าพ่อเรียวกังแนวไอนุร่วมสมัยของเกาะฮอกไกโดประมาณบ่าย 4 โมง ที่น่าประทับใจ คือ เจ้าหน้าที่ของ FMJ มารออยู่แล้วพร้อมเตรียมกุญแจห้องพักเรียบร้อย และบอร์ดข้อมูลสำคัญของโรงแรมที่เขียนด้วยลายมือ ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ของโรงแรมมาต้อนรับ คุณมินาโกะพาไปนั่งรอด้านในซึ่งมีกระบะนึ่งมันเทศฮอกไกโดพร้อมเนยไว้บริการฟรีสำหรับลูกค้า มันร้อนๆ กับเนยนี่มันเข้ากันดีมาก เดิมตั้งใจจะชิมแค่หัวเดียวสุดท้ายไปจบที่ 4 หัว
เจ้าหน้าที่ของโรงแรมมาพาผมไปชมห้องหับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่นี่มี 2 อาคารคือ Yuku no Sato ที่ผมพัก และ Tsuruga Wings ที่เกรดรองลงมาในอาคารถัดไป จริงๆ มีอีกโรงแรมนึงคือ Hinanoza แต่อยู่ห่างออกไปไกลหน่อย เลยเก็บไว้ไปดูวันพรุ่งนี้แทน ดูเสร็จก็ขึ้นห้องพัก คืนนี้ได้พักห้องดีมีอ่างส่วนตัวอีกแล้ว แต่เหมือนเดิมครับ ขอลงไปแช่บ่อรวมดูลาดเลาก่อน คำตอบคือ แช่บ่อรวมครับ ทั้งสวยทั้งใหญ่ แถมมีบ่อกลางแจ้งที่ชั้นดาดฟ้า มองเห็นวิวทะเลสาบอะคังเต็มตา เสียดายที่วันนี้ฝนตกจึงแช่ไม่ได้นาน รีบลงมาทานอาหารค่ำ คืนนี้เป็นชุด Kaiseki เริ่มจากออร์เดิร์ฟหน้าตาดี ตัวแรกนี่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของอาหารได้เลย ถ้าจานแรกดี อนุมานว่าจานถัดไปก็ดีเช่นกัน แต่ถ้าจานแรกแย่ ก็ต้องลุ้นกันต่อ
จานถัดมาคือซาชิมิที่วางมาบนน้ำแข็ง ชิมแล้วสดอร่อยทุกอย่างทั้งกุ้งหอยปลา โดยเฉพาะกุ้งตัวยังใสตายังแป๋วอยู่เลย ซาชิมิเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ ถ้ามีการวางจานซาชิมิไว้ตั้งแต่ก่อนเราไปนั่ง ก็พออนุมานได้ว่าคุณภาพยังไม่ถึงระดับ เพราะซาชิมิเน้นที่ความสด ตามด้วยซุปอาหารทะเลรสละมุน ต่อมาเป็นปลาย่างหน้าตาแปลกๆ คล้ายเรือดำน้ำดูแล้วไม่น่ากิน แถมแกะยากเพราะหนังหนาและแข็ง ทางโรงแรมเลยผ่ามาให้เรียบร้อย ผมมีหน้าที่กิน เจ้านายเก่าผมคนนึงเคยกล่าวไว้ว่า ปลาหน้าตาน่าเกลียดหรือก้างเยอะ เนื้อมักอร่อย ซึ่งเป็นจริงดังว่า ปลาตัวนี้เนื้อดีมากทั้งแน่นและมีรสชาติ เบรกด้วยถ้วยธัญพืชแล้วตามด้วยจานหลักเป็น Kushiro Wagyu เนื้อท้องถิ่นชั้นดีที่แน่นแต่นุ่มไม่เหนียวแม้สักนิด ปิดท้ายด้วยไข่ตุ๋น ข้าว ผักดอง และซุป แล้วจบด้วยของหวานหน้าตาดี๊ดีมีชาติตระกูล อิ่มเกินพอดีไปนิดนึง
หลังอาหารค่ำออกไปเดินสำรวจถนนด้านหน้าโรงแรม ที่เป็นเมนสตรีทของเมืองนี้ มีร้านรวงที่ยังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เยอะเหมือนกัน ร้านส่วนใหญ่ขายของที่ระลึกจำพวกงานไม้แกะสลัก ผ้าและเครื่องแต่งกายของชาวไอนุ คล้ายๆ กับที่เมืองโนโบริเบทสึ แต่ที่นี่ดูใหญ่และเยอะกว่า เนื่องจากฝนตกพรำๆ เลยเดินไปได้ไม่ไกล ย้อนกลับมาเดินเล่นต่อในโรงแรม มีกิจกรรมนึงที่น่าสนใจคือ คนพื้นเมืองหรือชาวไอนุมานั่งเล่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันพร้อมเปิดสไลด์ให้ดู มีคนญี่ปุ่นนั่งล้อมวงฟังกันเยอะ มีงานไม้แกะขนาดใหญ่ประดับอยู่โดยรอบ อีกทั้งร้านขายขนมนมเนยของฮอกไกโดก็มีพร้อม ข้อดีของ 2 โรงแรมนี้คือมีทางเชื่อมถึงกันโดยไม่ต้องออกนอกโรงแรม ลูกค้าของทั้งสองแห่งก็สามารถข้ามมาใช้ Facility ของอีกแห่งได้ ทั้งร้านอาหารและออนเซน
ใจนึงก็อยากมาลองแช่ออนเซนฝั่งโรงแรม Wings ดูบ้าง แต่ของฝั่งโรงแรม Yuku no Sato ก็ยังแช่ไม่ครบ รอเวลาอีกแป๊บก็จะเปลี่ยนกะแล้ว หลายโรงแรมมีการสลับห้องออนเซนชายหญิง เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนบรรยากาศการแช่ บ้างก็เปลี่ยนตอนเช้า บ้างก็เปลี่ยนตอนดึก ของที่นี่เปลี่ยนตอนสี่ทุ่มครึ่ง ซึ่งไม่ผิดหวังเลย บ่อชั้นหนึ่งมีลักษณะของแนวธรรมชาติมากกว่าชั้น 8 ที่น่าประทับใจคือบ่อออนเซนกลางแจ้ง ที่เห็นวิวทะเลสาบเสมือนแช่อยู่ในทะเลสาบเลย แช่เสร็จกลับขึ้นห้อง แอบมองบ่อส่วนตัวอย่างน่าเสียดาย เอาวะพรุ่งนี้ค่อยแช่ในห้องละกัน แล้วก็นอนฟังเสียงฝนริมทะเลสาบ หลับไปแบบไม่รู้ตัว


