posttoday

เภสัชกรแสนสวย ภัทริน ลาภกิตติกุล

17 ตุลาคม 2553

แม้จะต้องเรียนหนัก แต่เบลล์ก็ยังมีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้กับกิจกรรมด้านอื่นๆ ของชีวิตที่เธอสนใจ ไม่ว่าการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ เป็นดรัมเมเยอร์ให้กับมหาวิทยาลัย...

แม้จะต้องเรียนหนัก แต่เบลล์ก็ยังมีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้กับกิจกรรมด้านอื่นๆ ของชีวิตที่เธอสนใจ ไม่ว่าการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ เป็นดรัมเมเยอร์ให้กับมหาวิทยาลัย...

โดย...กาญจนา เตชาวัฒนากูล

รอยยิ้มหวานๆ กับหน้าตาบ้องแบ๊ว ที่มาพร้อมกับบุคลิกสดใสน่ารัก ถ้าไม่บอกคงเดาไม่ออกว่าสาวน้อยหน้าใสอย่าง เบลล์-ภัทริน ลาภกิตติกุล คนนี้ ต้องคร่ำเคร่งอยู่กับตำราเรียนหนาเล่มปึ้กที่เกี่ยวกับตำรายาและวิชาวิทยาศาสตร์อันหนักอึ้งไม่เว้นแต่ละวัน เพราะเบลล์เป็นนิสิตปี 4 คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขึ้นชื่อว่าการเรียนโหดหินไม่แพ้คณะแพทยศาสตร์เลยทีเดียว

“ใจจริงอยากเรียนหมอค่ะ แต่เป็นคนกลัวเลือด กลัวความมืดและกลัวผี ก็เลยคิดว่าคงเรียนไม่ไหว เลยขอเบนเข็มมาเรียนเภสัชแทน” เบลล์เล่าให้ฟังแบบขำตัวเอง “หลายคนคิดว่าคณะนี้จะเรียนแต่เกี่ยวกับพวกยารักษาโรค แต่จริงๆ มันมีให้เรียนรู้อีกมากมาย อีกอย่างเบลล์เป็นคนชอบเครื่องสำอาง เราเห็นว่าคณะนี้สามารถไปต่อยอดเรียนเกี่ยวกับพวกค้นคว้าวิจัยด้านคอสเมติกในระดับสูงได้ ก็เลยสนใจค่ะ”

เภสัชกรแสนสวย ภัทริน ลาภกิตติกุล

เบลล์อธิบายเพิ่มขึ้นว่า เภสัชจะเรียนคล้ายแพทย์ แต่ไปโฟกัสเรื่องกลไกของยาและกระบวนการต่างๆ มากกว่า ที่จะรู้ลึกกว่าหมอ พอเข้ามาเรียนก็ได้เรียนรู้อะไรอีกหลายๆ อย่างที่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย อย่างเช่นเรื่องวิตามินหรืออาหารเสริมต่างๆ ที่หลายคนนิยมรับประทานกัน บางทีอาจจะเกินจำเป็น เช่น คนเรารับประทานวิตามิน 1,000 มก. แต่ร่างกายเราอาจจะดูดซึมได้แค่ 200 มก. ส่วนที่เกินมาก็ถูกขับออกจากร่างกาย ก็กลายเป็นเสียเปล่า

แม้จะต้องเรียนหนัก แต่เบลล์ก็ยังมีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้กับกิจกรรมด้านอื่นๆ ของชีวิตที่เธอสนใจ ไม่ว่าการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ เป็นดรัมเมเยอร์ให้กับมหาวิทยาลัย รวมทั้งงานในวงการบันเทิง เช่น เป็นนางแบบโฆษณาและตอนนี้เข้าร่วมประกวดในโครงการ Classmate50 (www.classmate50.com) ที่จัดโดย อิกไนท์ เอเชีย

“มีคนติดต่อให้ไปถ่ายงานถ่ายแบบตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายค่ะ แต่ตอนนั้นทางโรงเรียนไม่อนุญาต หลังเข้ามหาวิทยาลัย ก็ยังมีคนเสนองานมาเรื่อยๆ แต่ช่วงปี 1 ปี 2 เรากำลังปรับตัวเรื่องเรียนก็เลยไม่อยากรับงาน แต่พอขึ้นปี 3 คุณแม่ก็เห็นว่าเราโตพอที่จะรับผิดชอบได้แล้ว ก็เลยบอกว่าถ้าอยากจะทำ ก็ให้ลองดู พอมาทำงานในวงการนี้แล้ว เราก็ชอบนะคะ มีประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราสัมผัสได้เยอะเลย มันทำให้เราโตขึ้นด้วย อย่างเมื่อก่อนเบลล์จะเป็นคนติดคุณแม่มาก ไปไหนต้องมีคุณแม่ไปด้วย แต่พอทำงาน เราก็ต้องหัดไปไหนมาไหนคนเดียว ทำอะไรด้วยตัวเอง ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองมากขึ้น รู้สึกตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้น” เบลล์เล่า

เภสัชกรแสนสวย ภัทริน ลาภกิตติกุล

เรียนก็หนัก งานก็เยอะ แต่เบลล์บอกว่า ไม่เป็นปัญหาถ้ารู้จักแบ่งเวลา 

“เบลล์ไม่คิดว่าการเรียนเภสัชกับการทำงานวงการบันเทิงมันขัดกันนะคะ จริงๆ มันสามารถเอามาใช้ด้วยกันได้ดีขึ้นอีก การเรียนเภสัชทำให้เบลล์เป็นคนใส่ใจในรายละเอียด ทำให้เรารู้จักสังเกตสิ่งต่างๆ และต้องรู้จักจัดการเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเองได้ดีขึ้น คณะเบลล์เรียนหนัก มีสอบก็บ่อย บางทีเราจะไม่มีเวลามานั่งแพลนการอ่านหนังสือล่วงหน้านานๆ อ่านวิชานี้เสร็จปุ๊บ ก็ต้องเตรียมวิชาถัดไปทันที ทำให้เรารู้สึกว่า เราต้องตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุด และอะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็อย่าไปกังวล เป็นประสบการณ์ที่สอนให้เราทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น ส่วนพรุ่งนี้ก็ยังมาไม่ถึง เราก็อย่าเพิ่งไปกังวลล่วงหน้าค่ะ

ส่วนวงการบันเทิงก็มีอะไรที่น่าสนใจมากมาย ทำให้เราได้เจอคนเยอะแยะ ได้ทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เราไม่สามารถทำได้ในแวดวงเภสัช ถ้ามีโอกาสก็คงอยากจะทำอะไรต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่วิชาชีพเภสัช เราก็คงไม่ทิ้งแน่นอน เพราะใช้เวลาเรียนตั้ง 5 ปี และเป็นสิ่งที่เราชอบด้วยค่ะ” เบลล์สรุปส่งท้ายด้วยรอยยิ้ม...

ข่าวล่าสุด

‘ม.สงขลาฯ’ ร่วมกรมการแพทย์ รับผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาด้วย CAR-T Cell